ตอนที่ 1-2
“ไม่จำเป็นต้องเตรียมความพร้อม แค่สนองได้ทุกเวลาที่ร่างกายฉันพร้อมก็พอ”
ลัยลาพยายามดึงสติกระถดตัวหนี แต่ว่าเจ้าของเรือนร่างกำยำที่มีมัดกล้ามหนาแน่นไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เขาตามมาคร่อมทับแล้วจับกดจนเธอจมลงกับเตียงนอน
ลัยลาสะดุ้งกับขนาดใหญ่โตที่มันจดจ่อรอจะเข้าบุกชิงตีพื้นที่ แล้วต้องเบิกตากว้างมองเจ้าของสิ่งนั้น
“ไม่ต้องกลัวนะ เคยมาครั้งหนึ่งแล้ว ไม่เจ็บไปกว่าครั้งแรกหรอกนะ”
ไม่กลัวก็บ้าแล้ว
ลัยลาก่นด่าในใจ ครั้งนั้นทำเธอเดินไม่ปกติไปร่วมสามวัน นึกถึงความเจ็บทุกย่างก้าว แต่ด่าออกเสียงไม่ได้ เพราะทันทีที่เธอสะดุ้งก็ถูกปากเขาประกบปิดลงมาอย่างเร่าร้อน ตอนนั้นเองที่ลัยลาเรียนรู้ว่าจูบแบบกระชากวิญญาณนั้นเป็นเช่นนี้เอง จูบที่ทำให้หายใจไม่ออก จูบที่เผลอตอบสนองไปโดยไม่รู้ตัว จูบที่ทำให้เหมือนล่องลอยในอากาศแต่วาบหวิวเหมือนถูกผลักตกลงไปในหุบเหว ปากหยักลึกรุ่มร้อนตะโบมลงมา ทั้งบดคลึง ขบเม้มจนเธอรู้สึกปวดระบมไปหมด
“อื้อ” เสียงหวานครางประท้วงในลำคอ นั่นทำให้คนที่คร่อมลอยอยู่เหนือร่างชะงัก
แต่เป็นการชะงักเพียงนิดเดียว เพราะสายตาคู่คมที่เหมือนมีเงาดำฤษณาเข้าครอบงำอยู่เต็มนั้นได้เผยความต้องการออกมาจนหมดเปลือก เขาลากมือร้อนผ่าวไปทั่วร่างนวลเพื่อปลุกเร้า
เขายิ้มหล่อๆ แต่ดูเย็นยะเยือก มันเป็นยิ้มสะกดใจคนมองแต่ก็ชวนให้คิดว่าเป็นยิ้มร้ายหรือยิ้มดีกันแน่ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าคนตรงหน้านั้นหล่อเหลาเกินห้ามใจ แต่สติส่วนลึกก็พยายามบอกให้เธอพยายามขัดขืน เธอยังไม่พร้อม ถึงเป็นภรรยา เธอก็มีสิทธิ์จะปฏิเสธเรื่องบนเตียง
“วันอื่นได้ไหมคะ วันนี้ฉันรับแขกมาทั้งวัน”
“แต่ทั้งคืน เธอมีแขกเป็นฉันคนเดียว ทนรับฉันเข้าไปในตัวเธอหน่อยก็แล้วกัน ทำบ่อยๆ ลูกติดแล้วจะได้แยกทางใครทางมัน”
พอเห็นสีหน้าของภรรยาที่ดูหวาดผวาราวกับจะร้องไห้กับถ้อยคำบีบคั้นของเขา นายแพทย์หนุ่มหล่อก็ใจอ่อน ผ่อนปรนความเกรี้ยวกราดลงมาด้วยคำพูดนุ่มๆ แต่ชวนขนลุกไม่น้อยกว่าเดิม
“งั้นถ้ากลัวมากนัก ฉันจะค่อยๆ สอนให้รู้วิธีรับมือกับฉัน ฉันจะค่อยเข้าไปทีละนิดนะ”
ใบหน้าสวยตรึงตราผู้พบเห็นร้อนผ่าวไปหมด อดจะตวัดสายตาค้อนใส่เขาไม่ได้
“ใครถามคุณ”
“ฉันอยากบอกไง หรือจะให้ฉันเข้าไปแบบไม่ต้องเตือนให้เตรียมตัว”
แล้วเขาก็ทำตามที่บอกคือไม่ขออนุญาตก่อนแต่ผลักประตูที่ปิดสนิทแนบชิดด้วยความแข็งแรงเพียงครั้งเดียว จนสีหน้าสวยบิดเบ้ด้วยความตกใจ
“อาห์”
ลัยลาสะดุ้งเฮือก เมื่อปากร้อนชื้นก้มลงมาจูบหนักๆ อีกครั้ง แต่ครั้งนี้อ่อนหวาน เนิบนาบ เหมือนอยากสอนให้คนอ่อนประสบการณ์ได้เรียนรู้ว่าการแลกเปลี่ยนสัมผัสทางกายให้กันและกันนั้นมันวิเศษแค่ไหน
ลัยลาครางแผ่วเบา หวามหวิวในช่องท้องเหมือนมีผีเสื้อปัดปีกผ่าน คนสวยพยายามเบี่ยงหน้าหนีหลบสายตาเขา แต่มือหนาก็ประคองกรอบหน้าสวยถูกใจไม่ซ้ำใบหน้าใครเอาไว้
“เจ็บเหรอ”
จะให้เธอตอบเขาไปตามตรงไหมว่าเจ็บไม่มาก แต่จุกมากรู้ไหม ความอายทำให้ลัยลาปิดปากแน่นไม่ยอมตอบ แล้วปล่อยให้เขาดูดดึงกลีบปาก
“ไม่ตอบ งั้นฉันจูบปลอบใจ”
เมฆารู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่ใจร้อนกับภรรยาไปหน่อย เขาจึงใช้วิธีการส่งมือหนามาบีบปลายคางเบาๆ
“พูดกับฉันหน่อยสิลัยลา”
ลัยลาอุทานออกมาเบาๆ ทำให้ปากอิ่มเปิดออก เป็นผลให้คนรอจังหวะอยู่แล้วรีบส่งปลายลิ้นเข้าไปกวาดชิมความหวาน เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กที่กระถดหนีไม่เป็นท่า แต่ดูเหมือนคนตัวโตจะพอใจ เพราะยิ่งติดตามไล่ชิมแล้วรุกไล่ก็ยิ่งรู้สึกว่าลิ้นเล็กนั้นช่างหอมหวานอย่างที่เขาต้องการ
เขาพัวพันเกี่ยวรัดจนพอใจ ก็ไล่ปากร้อนผ่าวลงมาตามลำคอของแม่คนปากดี ดูดดึงเบาๆ อย่างอดใจไม่อยู่ แต่สร้างรอยสีกุหลาบจางๆ เต็มไปทั่วเรือนกาย ไล่ลงมาจากลำคอถึงเนินอกอวบอิ่มที่ทำให้คนตัวโตชะงักกับความหนั่นแน่นชูชันอย่างที่เขาใช้มือลูบคลำแล้วมั่นใจว่าไม่ผ่านการศัลยกรรมมาก่อน
“หน้าอกเธอสวยมากรู้ไหม”
เมฆายอมให้กับหน้าอกคู่นี้ เขาสะดุดลมหายใจของตัวเองเหมือนคนที่หายใจไม่เป็นไปชั่วขณะ ยอดอกสีหวานชูชันท้าทายให้เขาก้มลงไปครอบครอง
ทันทีที่ได้สัมผัสความหวานจากปลายยอด เขาก็ครางฮือ “หวานเหมือนเดิม”
“หมอหื่น คุณไม่เหมือนภาพที่ฉันเห็นตอนแรกเลย”
“ฉันก็ผู้ชาย เจอของสวยๆ ล่อตาล่อใจ จะให้นั่งมองอยู่เฉยๆ หรือไง ในเมื่อฉันมีสิทธิ์ จะลูบ คลำ จะทำอะไรก็ได้ไม่ใช่หรือ เคยได้ยินไหม เมียคือสมบัติของผัว”
“งั้นคุณก็คือสมบัติของฉันเหมือนกันใช่ไหมคะ”
เขาเงยหน้าขึ้นมองภรรยาทีหนึ่ง รู้ว่าเธอพูดเอาชนะ ไม่ใช่เพราะหวงเขาหรอก แล้วตอบสั้นๆ
“อืม”
