ตอนที่ 2
รุ่งเช้า
แสงแดดอ่อนส่องผ่านผ้าม่านผืนบาง ทำให้ลินตื่นขึ้นด้วยความอ่อนเพลีย เธอพลิกตัวไปมาบนเตียง แต่ใจกลับไม่อาจสงบลงได้และเช่นเคย…เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยความว่างเปล่าที่หัวใจ
"ฮื่อ…สายแล้ว" เธอพึมพำ พลางลุกขึ้นจากเตียง ลมหายใจร้อนๆ ของเธอเหมือนสะท้อนความเหนื่อยล้าในหัวใจ เดินเข้าห้องน้ำโดยไม่พูดอะไร แม้ในใจจะอยากให้ทุกวันมีรอยยิ้มจากเขา…แต่ก็รู้ว่ามันคงไม่เกิดขึ้น
ผ่านไปสักพักหญิงสาวก็ออกมาจากห้องนอนเธอเดินไปที่ห้องครัวทันที เธอจะเตรียมกาแฟและมื้อเย็นไว้รอสามีทุกวันแต่รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่เคยจะสนใจอาหารที่เตรียมตั้งใจเตรียมไว้ให้เขาแต่เธอก็ยังคงทำหน้าที่ภรรยาอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อเตรียมอาหารเช้าเธอเดินไปที่ห้องนอนของเขา เธอเคาะก่อนจะเปิดเข้าไปเมืีอเข้ามาก็ไม่เห็นที่เตียงนอนแล้วแต่ได้ยินสายน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำ เธอเห็นแบบนั้นก็รีบเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของชายหนุ่มเธอจะค่อยเตรียมชุดทำงานไว้ให้เขาทุกเช้าแต่ก็ยังดีที่เขาใส่ชุดที่เธอเตรียมไว้ให้
หญิงสาวหยิบสูทสีเทาเข้มออกมาจากตู้ มือเล็กลูบเบาไปบนเนื้อผ้าเรียบหรู ราวกับกำลังสัมผัสเจ้าของชุดโดยที่เขาไม่เคยยินยอมให้สัมผัส เธอเลือกเนคไทสีดำเข้มเข้าคู่กัน เพราะรู้ว่าเวลาเขาสวม มันยิ่งขับความสง่างามที่เธอแอบภาคภูมิใจอยู่เงียบๆ แม้จะรู้ดีว่าความตั้งใจเล็กน้อยนี้ไม่เคยมีความหมายสำหรับเขาเลย
เมื่อสิ้นเสียงประตูปิดชายหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำ เมื่อชายหนุ่มเดินออกมาก็เจอกับชุดที่ภรรยาในนามเตรียมไว้ให้ เขามองชุดด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนจะหยิบมันไปใส่ทันที
ครืน ครืน ครืน
ชายหนุ่มที่กำลังในนาฬิกาหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตนมีสายเข้า เขาหยิบขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นคนรักของเขาที่โทรมา
"ครับ" ชายหนุ่มรับสายพร้อมกับพูดกับคนในสายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
'พี่เหนือเที่ยงอยากทานอะไรคะ'
"อะไรก็ได้ครับ ถ้าเป็นฝีมือของปริม…พี่ทานได้ทั้งนั้น" น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนของเขาถูกส่งผ่านปลายสาย อบอุ่นเสียจนแม้แต่ใบหน้าที่เคร่งขรึมก็ยังมีรอยยิ้มผ่อนคลายติดขึ้นมา
'โอเคค่ะ..พี่ไปทำงานรึยังคะ'
"พี่กำลังแต่งตัวครับ"
'งั้นปริมไม่กวนแล้วค่ะเดี๋ยวไปทำงานสาย'
"ครับ" ชายหนุ่มกดวางสายก่อนจะส่ายหัวไปมากับความน่ารักของคนรักเขาอยากใช้ชีวิตคู่กับมาโดยตลอดแต่ไม่เป็นดั่งหวังเมื่อเขาต้องมาแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเมื่อนึกถึงแบบนั้นก็ยิ่งโมโห
"ค่ะ...คุณพ่อคือช่วงนี้พี่เหนือยุ่งๆ นะคะคงไม่ได้ไปทานข้าวที่บ้านหรอกค่ะ" ชายหนุ่มเปิดประตูออกเล็กน้อยมาเขาก็ได้ยินเสียงภรรยาในนามกำลังโทรศัพท์กับพ่อของเธออยู่
"ลินสบายดีค่ะ…พี่เหนือเขาดูแลลินดีมากเลยค่ะ" น้ำเสียงสดใสที่เอ่ยออกไปไม่สอดคล้องกับสายตาที่กำลังสั่นไหว หญิงสาวกำโทรศัพท์แน่น ราวกับจะใช้มันบังความจริงที่แหลกสลายภายในหัวใจ
"ค่ะ...ช่วงบ่ายลินเข้าไปหานะคะ" ชายหนุ่มที่เห็นว่าหญิงสาววางสายจากผู้เป็นพ่อเขาก็เปิดประตูออกมา หญิงสาวที่เห็นชายหนุ่มออกมาจากห้องนอนแล้วเธอวางโทรศัพท์ลงก่อนจะหยิบแก้วกาแฟเดินไปดักหน้าชายหนุ่มที่กำลังเดินไปที่ประตู
"พี่เหนือดื่มกาแฟก่อนมั้ยคะ...กำลังร้อนๆ เลย" หญิงสาวยื่นแก้วกาแฟให้เขาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานพร้อมกับรอยยิ้มสดใส
"ไม่ล่ะ..ฉันรีบ" ชายหนุ่มตอบกลับเสียงห้วนสั้นทำลายความหวังนั้นในพริบตา เขาเดินผ่านไปโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองแก้วกาแฟในมือเธอ มือเล็กที่กำแก้วไว้สั่นระริก ความร้อนของกาแฟไม่อาจกลบความเย็นชาที่แผ่ซ่านอยู่ในหัวใจได้เลย เธอมองตามหลังชายหนุ่มจนประตูปิดลงด้วยสายเศร้าหมอง
"เมื่อไหร่พี่จะเห็นความตั้งใจของลินบ้าง" หญิงสาวก้มแก้วกาแฟก่อนจะพึมพำออกมาแผ่วเบา หญิงสาวเดินกลับมาที่โต๊ะก่อนจะนั่งทานมื้อเช้าคนเงียบๆ อย่างทุกวัน
แกร๊ก
หลังจากเธอทานข้าวเช้าเสร็จเธอก็เดินเข้าไปทำความสะอาดภายในห้องนอนของเขาอย่างทุกครั้งและสิ่งที่ทำให้เธอต้องหยุดมองทุกครั้งคือรูปคู่ของเขาและรักที่ตั้งอยู่หัวเตียงนอนเธอได้แต่อิจฉาหญิงสาวรูปที่ได้ทั้งหัวใจและความอ่อนโยนจากเขา หญิงสาวสลัดความคิดที่ทำให้เธอเศร้าใจก่อนจะลงมือทำความสะอาดของห้องนอนให้อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไม่เห็นที่ทำให้เธอปวดใจ
ปึก
"เอ๊ะ.." หญิงสาวหยิบกางเกงกองอยู่ข้าตะกร้าใส่ตะกร้าใหม่ให้เรียบร้อยแต่พอเธอใส่ลงในตะกร้าก็เกิดเสียงดังขึ้น เธอจึงหยิบมันขึ้นมาดูว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋ารึเปล่า เธอล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงมือของเธอจับถูกกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กจึงหยิบออกมาดูว่ามันคืออะไร
"สวยจัง" หญิงสาวเปิดกล่องสีเหลี่ยมที่มีขนาดเล็กออกก็พบกับกำไลเพชรหรูหรา งดงามเปล่งประกาย เธอมองกำไลข้อมือด้วยความอิจฉาเมื่อนึกถึงว่าเขาคงจะซื้อให้คนรักของเขาเพราะตลอดที่เธอแต่งงานกับเขามาเธอไม่เคยได้รับของแบบนี้จากเขาเลยสักชิ้น
"เก็บดีกว่าคงไม่ใช่ของเราแน่เลย" หญิงสาวพูดออกมาแผ่วก่อนจะปิดฝากล่องวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง เธอหันหลังก้าวออกจากห้องแล้วแต่ก็ยังหันกลับไปมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยทั้งความอิจฉาและความเจ็บปวดที่ไม่เคยเอื้อมถึง
คฤหาสน์
เวลา 11:45 น.
หญิงสาวก้าวลงจากรถแท็กซี่ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ราวกับอยากเก็บแรงใจกลับมาใช้ใหม่ ก่อนจะเดินเข้าไปยังบ้านของตนเอง ในมือเต็มไปด้วยผลไม้และของกินมากมายที่ตั้งใจซื้อมาฝากผู้เป็นพ่อ
“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ” ลินวางข้าวของลงก่อนจะยกมือไหว้ผู้เป็นพ่ออย่างนอบน้อม
“ซื้ออะไรมาตั้งเยอะแยะลูก” คุณอภิสิทธิ์เอ่ยถามพลางหันไปมองถุงมากมายที่แม่บ้านช่วยกันถือเข้าไปข้างใน ก่อนจะเดินเข้ามาหาลูกสาว
“ผลไม้ที่คุณพ่อชอบค่ะ…ลินคิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะ” หญิงสาวยิ้มบาง ก้าวเข้าไปกอดคุณพ่อด้วยท่าทางออดอ้อนก่อนจะพากันเดินไปนั่งที่โซฟา
“โตจนแต่งงานแล้วนะ ยังทำตัวอ้อนพ่อเหมือนเด็กอยู่เลย” คุณอภิสิทธิ์ลูบศีรษะลูกสาวแผ่วเบา ความเอ็นดูยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไร เพียงเอนกายลงหนุนตักผู้เป็นพอเหมือนตอนยังเป็นเด็กน้อย ดวงตาหลุบต่ำคล้ายเก็บซ่อนน้ำตา เพราะที่นี่เธอยังรู้สึกว่าได้รับความรักเสมอ ต่างจากบ้านที่เพิ่งจากมา ที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าและเย็นชา
"ลินลูกเป็นอะไรรึเปล่าบอกพ่อได้มั้ย" คุณอภิสิทธิ์เอ่ยถามลูกสาวที่ช่วงนี้เขาสังเกตได้ว่าลูกสาวของตนไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน
"...." หญิงสาวมองคุณพ่อก่อนจะส่ายหัวไปมาโดยพยายามหลบสายตาคุณพ่อเพื่อที่เขาจะได้ไม่จับสังเกตได้ว่าเธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ
"ตอนนี้ลูกไม่อย่าบอกพ่อก็ไม่เป็นไร...แต่ถ้าวันหนึ่งลูกพร้อมพ่อก็พร้อมจะรับฟังลูกได้เสมอ เรายังกันอยู่สองคนพ่อลูกแล้วนะ" หญิงสาวที่ได้ยินคุณพ่อพูดแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นนั่งก่อนจะกอดคุณพ่อ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ได้รับจากอ้อมโอบนี้
"เอาแล้วไม่คุยเรื่องนี้แล้ว...กินส้มดีกว่าเดี๋ยวลินแกะให้นะคะ" หญิงสาวยิ้มหวานให้คุณพ่อก่อนจะหยิบส้มขึ้นแกะ ที่แม่บ้านเพิ่งยกมาให้
คุณอภิสิทธิ์แอบมองลูกสาวเงียบๆ ในใจเต็มไปด้วยความห่วง เขารู้แน่ว่าลูกมีเรื่องบางอย่างเก็บซ่อนอยู่ เพียงแต่ยังไม่พร้อมจะเล่าให้ฟังเท่านั้นเอง
คฤหาสน์
เวลา 16:19 น.
แสงสุดท้ายของยามเย็นคล้อยต่ำ สีส้มหม่นเจือปนความเงียบสงบทอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่ หญิงสาวนั่งอยู่เคียงข้างคุณพ่อบนโซฟา ความเงียบระหว่างสองพ่อลูกไม่ได้อึดอัด หากเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่เธอพยายามจะซึมซับให้มากที่สุด เธอยกผลไม้ใส่จานให้คุณพ่อ พลางคุยเรื่องเล็กน้อยทั่วๆ ไป รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าที่ซ่อนความเหนื่อยล้าไว้ลึกในหัวใจ และยิ่งค่ำลงเท่าไร หญิงสาวก็ยิ่งรู้ว่าช่วงเวลาที่เธออยากยืดออกไป…ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว
“เย็นมากแล้วนะลูก กลับคอนโดเถอะ เดี๋ยวพี่เหนือเขาจะรอ” น้ำเสียงคุณอภิสิทธิ์อ่อนโยน แต่แฝงความกังวลอยู่ในที หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางที่ดูเหมือนจะสดใส หากแววตากลับหม่นเศร้า 'รอเหรอคงไม่มีวันนั้นหรอก' เธอคิดในใจ
“ขออยู่กับคุณพ่ออีกนิดได้มั้ยคะ…ลินยังไม่อยากกลับเลย” คุณอภิสิทธิ์หัวเราะเบาๆ พลางยื่นมือมาลูบเส้นผมลูกสาวอย่างแผ่วเบา
“พ่อก็อยากให้อยู่เหมือนกัน แต่ลูกก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองนะ” หัวใจเธอเจ็บหน่วงเหมือนถูกดึงรั้ง หญิงสาวซุกตัวกอดคุณพ่อแน่น ราวกับต้องการความอบอุ่นสุดท้ายเพื่อพกพากลับไปยังที่ซึ่งเธอเรียกว่า บ้าน แต่กลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
“ลินรักคุณพ่อนะคะ” เสียงเธอสั่นไหว น้ำตารื้นขึ้นมาจนต้องกะพริบกลืนมันกลับไป
“พ่อก็รักลินที่สุด อย่าลืมสิ ถ้ามีเรื่องอะไร พ่ออยู่ตรงนี้เสมอ” คุณอภิสิทธิ์กอดตอบลูกสาวสุดที่รักแน่นขึ้น
“งั้น…ลินกลับก่อนนะคะ คุณพ่อพักผ่อนเยอะๆ นะคะ” เธอพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ ผละออกมา ฝืนยิ้มแม้ดวงตาแดงก่ำ
