ตอนที4 มวยถูกคู่
หลังจากที่รับฟังคำสั่งของแม่จบผมก็ลุกขึ้นยืนตามความสูงของผมหันหน้าไปมองมารดาพร้อมเอ่ยวาจาที่แสนกวน..."มีเรื่องแค่นี้ใช่ไหมครับมาดามนานะ"?
ฉันหันมามองแบบค้อนให้ไอ้ตัวดีของฉัน "อยากมีแต่ไม่อยากพูด"?
ผมเลิกคิ้วสูงพร้อมยกยิ้มให้ตามสไตล์ของผม "ไปนอนแล้วนะครับ?ห้ามรบกวน ‼️
เชิญเถอะค่ะพ่อคุ๊ณๆแต่..⁉️" ก็ต้องแต่แล้วละเหมือนจะคิดได้ว่าห้องของภากรฉันยกให้ลูกสาวคนโปรดไปแล้ว
ผมที่กำลังจะเดินออกจากห้องเย็น (ห้องทำงานของแม่)พอได้ยินคำว่าแต่..รู้ถึงความหายนะมาเยือน "แต่อะไรคร๊าบมาดาม‼️
"แม่พึ่งคิดได้ว่าห้องเก่าแก แม่ยกให้น้องแล้ว
จี๊ดเลยครับงานนี้ "แม่!! ทำงี้ได้ไงผมลูกชายแม่นะครับ
"นามิก็ลูกสาวฉัน เผื่อลืม!!?
"แม่!!!..."คือผมไปต่อไม่ถูกเลยงานนี้ ทำไงได้บ้างว่ะนี้
"เรียกแล้วเงียบคือ ฉันรู้ฉันเป็นแม่แก ฉันยังไม่แก่ฉันจำได้ว่ามีลูกชายชื่อภากรย่ะ?
ผมได้แค่ถอนหายใจ "แล้วผมจะอยู่ไหนได้หล่ะห้องโดนแมวขโมยไปแล้ว" พร้อมเหล่ตามองร่างบาง
"พูดดีๆนะภากร น้องไม่ได้ขโมยแม่ยกให้น้องเอง
❌"ผมลูกชายคนเดียวของแม่นะครับ"❌ ฉันอยากเอาค้อนทุกกระบาลไอ้ลูกบ้านี้จริงย้ำคิดย้ำทำจริงๆ "วดีก็ลูกสาวแม่ค่ะ?
ผมเบื่อที่จะโต้ตอบแล้วก็เลยถอนลมหายใจ ?" แล้วจะให้ผมพักที่ไหน
"ห้องไหนว่างก็เข้าห้องนั้นเลย"ผมยืนนิ่งคิดถึงภาพแปลนบ้านฝุดขึ้นในสมองของผมก็เหลือแค่ห้องเก็บของและห้องใต้บันไดแล้วก็ ห้องเล็กไปถัดอยู่ข้างๆห้องเก่าของผม ผมเหนื่อยจะต่อกร..
"ผมขอคนทำความสะอาดด้วยครับ" ในเมื่อลูกชายฉันยอมถอยฉันก็ไม่ใช่คนใจไม้ใส้ระกำหรอกว่าม่ะ..
"เดี่ยวแม่ตามคนงานให้" พร้อมกับลุกขึ้นยืนเดินไปที่ประตูหน้าหมายจะเรียกขานคนงาน..
ฉันที่นั่งมองซ้ายที่ขวาที่ เมื่อถึงโอกาสพูดไหนๆก็เป็นแค่คนอาศัย จริงๆเล็กห้องนั้นเป็นห้องที่ฉันต้องอยู่ตอนแรกแต่ดูเหมือนคุณแม่นานะอยากให้อยู่ใกล้ ห้องของลูกชายท่านก็เลยตกเป็นของฉันโดยปริยาย
"หนูทำให้ค่ะถือว่าไถ่โทษที่ยึดห้องไป"?
ผมเหล่หางตามองดูแบบว่าสร้างภาพปะเด็กนี้เข้าหาแม่ได้ถูกทางมาก "อาสาแล้วก็ไปทำซิ นั่งบื้ออยู่ทำไม"?
ฉันหันไปมองแบบว่าตาใสและยิ้มให้อ่อนๆหันมาคุยกับคุณแม่ "โอก้าซังขา นามิไปทำความสะอาดให้คุณ..ลุงนะคะ?
ตอนแรกผมกะจะยิ้มให้แบบว่า..แต่มาสะดุดหูกับคำว่าลุงนี้แระ ผมอายุ 22-23 เรียกลุงได้ไง "?ใครลุงเธอ มาคุยกันให้รู้เรื่องเลยนะ นังเด็กโสโครก"?
มีหรือนามิจะสนใจ เดินไปยังห้องเล็กจริงๆก็ทำความสะอาดทุกวันนะห้องนี้ในระหว่างที่เดินได้ยินคำว่าเด็กโสโครกแบบว่า.."?ตาถั่วเหรอออกจะสวยขนาดนี้" ?
ผมยืนผ่อนลมหายใจเข้าออกอยู่ในห้องของแม่แต่อยู่ดีคุณแม่ก็เดินกับมาที่ผม "?โอ๊ย!!แม่ตีกรทำไม?" ใช่ครับผมโดนแม่เอาใบพัดเล็กตีที่ต้นแขนผมจัง2-3ที แค่สะดุ้งแระแต่เล่นใหญ่ไปนิด
ฉันมองแบบว่าอยากทำเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำไป "มาว่าลูกสาวฉันโสโครกหรอ ตีที่แขนมันเบาไปนะภากร"
"เอ้า! แม่เด็กนั้นเรียกผมลุง ก่อนทำไมผมพึ่งย่าง22เองนี้
"ก็ปากแบบนี้ไง น้องอุตส่าห์อาสาทำห้องให้ยังจะมาปากดีอีก
"แต่-ผม-ไม่-ได้-ขอ-ครับ" จงใจเน้นเป็นคำเพราะผมไม่ได้ให้เด็กนั้นทำแต่อาสาเอง
"แล้วแมวตัวไหนขอคนเมื่อตะกี้ห๊า!!" ฉันเข้าใจในคำพูดลูกชายอยู่หรอกและจริงๆฉันไม่คิดที่จะใช้ลูกสาวด้วยแต่คุณลูกขาอาสา แต่มาได้ยินแบบนี้ให้ไปทำเองดีไม่ดีกว่าหรอ"แม่อย่ามองผมแบบนั้น
ผมเห็นสายตาของแม่ที่มองผมแบบว่าเธอกล้ามากภากรแต่ผมไม่สนใจแล้วนาทีนี้ผมลุกขึ้นยืนตามความสูวแล้วเดินออกจากห้องไป
ฉันยังหัวเสียอยู่แต่ทว่าไอ้ลูกบ้านเดินออกจากห้องจำเป็นต้องถาม "จะไปไหนเจ้ากร อย่าไปหาเรื่องน้องนะ"
ผมก็แค่จะไปดูว่าทำเสร็จหรือยังแต่โดนเบรคล้อฟรีก็ต้องตอบ "ใครจะกล้าหล่ะคร๊าบ" ใช่ว่าจะหยุดเดินผมก็ยังเดินมาที่ห้องเล็ก..
ผมก็แค่ยืนดู ยัยเด็กคนนั้นก้มเงยทำความสะอาดอยู่กลับห้องเล็ก ว่าจริงห้องนี้มันไม่ได้เล็กเท่าไหร่ ที่เรียกว่าเล็กคือมันเล็กว่าห้องอักสองห้องเท่านั้น ทุกห้องมีเครื่องใช้ทุกอย่างครบแค่หิ้วเสื้อผ้าเขามาเฉยๆก็พอ
ตึ้งๆของความแอฟlineของผมดังขึ้น "5เทพ" ก็เดอะแก็งค์ผมแระ จะพิมพ์ 5จตุรเทพก็ยาวไปสำหรับผมนะ
คิณ: ถึงบ้านยังว่ะเงียบเลย
คีย์:ตะลึงความสวยของเด็กป่ะนั้น
ผมงงมากไอ้คีย์อ่านความคิดผมออกได้ไง แต่มันคงเดาแระมั้ง..
ธันวา:สวยป่ะ
ภู:ขอรูปหน่อยดิ
ภากร:@คิณ ถึงได้พักใหญ่แล้ว @คีย์ เสีอกรู้ดี @ธันวา:ไม่ยุ่งดิคร๊าบ ภู:ไม่เผือกครับเพื่อน
คีย์: ระวังเถอะ!!
ภากร:@คีย์บ่อมีทางเด้อ (ไม่มีทาง)
ธันวา:แปลว่าสวย แอบหวงก้าง
ภากร:@ธันวา บล่าวแค่เปลืองเม้ม!
คิณ: แน่จริงถ่ายรูปมา..
ผมก็ไม่เข้าใจว่าอยากเห็นอะไรหนักหนา ไม่ถ่ายก็หาว่าผมกั๊ก แล้วผมจะกั๊กทำไมผมก็เลยกดถ่ายรูปในแอฟแชทเลยพร้อมกดส่ง #ดูเอง#
ทุกคนในแชทเปิดดูรูปเด็กน้อยที่ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดห้องรวมๆเด็กคนนี้น่าตาดีพอใช้ ไปวัดไปวาได้ (เชี้ยกรมึงจะชมเด็กคนนี้ไม่ได้ในใจ)
คีย์: สวยนะบอกเลย
คิณ:สเป็คมันเลย
ธันวา:ไม่ชอบกูขอ
ภู:ไอ้นี้ก่อ หื่นไม่ดูตาม้าตาเรืออีกเด็กเขา
ภากร: @คีย์ตาถั่วว่ะ @คิณอย่ามา@ธันวา มาขอแม่เองเลย @ภู พูดดีดิ!
ในขณะที่ผมก้มหน้าพิมพ์ข้อความในแชทกบับเพื่อนอยู่นั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนข้อความใครบางคนเข้ามา แค่เห็นรูปหัวใจแว๊ปผมก็รู้แล้วว่าใคร '♥️Yumi♥️'
แต่ผมยังคุยกับเพื่อนไม่เสร็จ
ภากร:ว่างๆบินมาเที่ยวดิ
ธันวา: เหงาอ่ะดิ
ภู:กูพึ่งทำงานที่บริษัทนักสืบว่ะ
ภากร:@ภู มึงจบถาปัตย์มาทำงานนักสืบ พ่องมึงดิไอ้นี้
ภู:ความชอบล้วนๆ ฝึกงานที่บริษัทคบเพื่อนก็รู้แระว่าไม่ใช่แนว
ผมรู้ถึงความตั้งใจของมัน จริงผมไม่อยากก้าวก่ายเรื่องใครแต่ความฝันของไอ้ภูคือตามสืบเรื่องพ่อแท้ของมัน พ่อที่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร มันก็ยากอยู่นะมีรูปซักใบก็ว่าไปอย่างหาคนที่ไม่มีแม่แต่รูปภาพ แถมไม่รู้ชื่อแส่อีกงานหยาบเลย
ภากร:,ขอให้พบพาล กูไปก่อนโอก้าซังเรียก
ผมปิดหน้าจอของเพื่อนและเข้าไปยังทีห้องหนึง
yumi: มาบ้านไม่ทักเราเลย
ภากร:เป็นอะไรกัน?
yumi:อย่างน้อยก็คนคุ้นเคยไหม
ภากร: บอกธุระมา⁉️
yumi:คิดถึงกรค่ะ เจอกันหน่อยไหม
ภากร: วันนี้ไม่สะดวก ว่างเมื่อไรจะทักหา
yumi:รอนะคะ♥️
ผมรีบปิดหน้าจอทันทีหลังจากที่หางตาแอบผมเห็นแม่เดินมา แต่ว่าไปผมก็ไม่ได้กลัวอะไรแม่เท่าไหร่ แค่เกรงใจก็แม่ผมนี้ ไม่เกรงแม่จะเกรงใจใครหล่ะ
"มายืนทำไรหน้าห้องนี้
ผมจะตอบแบบคนดีๆก็ไม่ใช่ผมแล้วแระ "มาเฝ้าคนงานทำความสะอาดห้องไง แม่เห็นเป็นอะไรหล่ะครับ?
วันนี้ทั้งวันฉันมองค้อนไอ้ลูกบ้านี้หลายรอบแล้ว "อย่ามาว่าลูกสาวเป็นคนงานนะ
"มาดามครับ ผมคือลูกชายคนเดียวครับ
"อาคิยะ!
"ชื่อผม ผมจำได้ครับ
ในขณะที่ผมกำลังกระเซ้าเย้าแหย่ผู้เป็นมารดาให้หัวเสียไปเล่นๆ หางตาผมก็ใบหน้าขาวนวลที่เหงื่อผุดขึ้นเต็มใบพร้อมทั้งความแดงของแก้มทั้งข้าง ข้างลูกสาวคนดีของคุณแม่เดินออกมาจากห้องผม
"เสร็จแล้วค่ะ คุณ....ลุง
ตอนแรกกะจะขอบใจ เจอคำนี้จี๊ดอีกแล้วไหม "ใครลุงเธอ ยัยเด็กบ้า"
ฉันหันมามองหน้าแล้วยิ้มให้"แล้วแต่ใครจะรับค่ะ ไม่รับก็ไม่ต้องหัวร้อนซิค่ะ"
เจอประโยคนี้เอาผมไปไม่ถูกเลย "( รู้สึกว่าเด็กคนนี้มีสีสันดีนะ) ไม่ใช่ซิไอ้กรมึงต้องแอนตี้ มาคิดดีกับเด็กนี้ไม่ได้ "เสร็จแล้วก็ไปซิ แต่วานยกกระเป๋าด้านหน้าให้ที่ขอบใจ
ฉันที่ยืนฟังอยู่เงียบเริ่มจะทนไม่ไหวกลับไอ้ลูกชายคนนี้แล้ว "แค่น้องอาสาทำความสะอาดห้องให้ก็มากพอ "ลูกสาวฉันไม่ใช่คนใช้ใคร"
"แม่!!!?
"จะเรียกทำไม กระเป๋าใครก็ไปเอา อย่ามาเรื่องมากอาคิยะ..?
"ผมก็แค่วานเอง มีน้ำใจก็ไปยกให้ ไม่มีน้าใจก็ปล่อยมันวางตรงนั้นไปก่อน ผมง่วง"? ผมชิงหนีเข้าห้องก่อนที่แม่จะบ่นอีก ห้องมันไม่ได้เก็บเสียงแต่แม่บ่นไปผมก็ไม่ได้สนใจ
ในใจฉันนับ1-100 จะปรี๊ดก็กลัวความดันขึ้นคิดว่าฉันจะยอมให้ลูกสาวยกของให้แกเหลือไอ้ลูกเวร "ไปกันเถอะนามิซัง แม่หิวข้าวแล้วส่วนกระเป๋า เจ้าของเขาไม่สนก็ให้คนงานเอาไปทิ้งไกลๆ?
เราทั้งเดินกลับทางที่เดินจากมาเมื่อราว 30นาทีที่แล้วไปโดยไม่สนว่าจะมีคนได้ยินประโยคบอกเล่าเมื่อกี้ไหม ถึงได้ยินก็ไม่สนใจหรอก ลูกกวนมาแม่ก็กวนกับ
