บท
ตั้งค่า

ตอนที่3เจอกัน

@ พาร์ทปัจจุบัน เมืองเบ๊ปบุ

ฉันย้ายมาอยู่กับคุณนานะเข้าปีที2 เพื่อให้เรียกชื่อคล้ายกันในร้านคุณแม่นานะ ฉันเลยได้ชื่อว่านามิ และเด็กในร้านจะลงท้ายทุกครั้งว่า "นามิจัง" มันก็น่ารักดีแระจะให้คนเรียกชื่อวดีกลัวออกเสียงเพี้ยนไปอีก

@นานะออนเซ็น (Nana Onsen)

ผมภากรหลังจากที่ถูก โอก้าซัง สั่งให้บินกลับญี่ปุ่นทันที่หลังเรียนจบ แต่ผมก็ไม่ได้กลับเลยเถลไถลออกไปอีก2วัน ผมถึงบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ- โออิตะเลย ใช้เวลา6ชั่วโมงกว่า เมื่อเครื่องบิน landing สนามบินโอชิตะ ผมได้จ้างแท็กซี่ในญี่ปุ่น (タクシー

)จากสนามบินมาบ้านที่ เมืองเบ็ปบุจำต้องเหมา เพราะก่อนหน้าโดนแม่สวดไปหลายบท จากสนามบินมาบ้าน 39กม.ใช้เวลาเดินทางเพียบ41นาที

เมื่อรถจอดด้านหน้าร้าน นานะออนเซ็น (Nana Onsen) ผมก็เดินเขาร้านทันที พนักงานในร้านที่ไม่เคยเจอหน้าผมหรือเคยเจอมาแล้ว แต่คิดว่าคงจำไม่ได้เพราะผมเอาแต่อยู่ที่โตเกียว บินไทยทันทีตั้งแต่จบ high schoolที่โตเกียว (เสียงของพนักงานต้อนรับ) おはようございます [OHAYÔ GOZAIMASU]

"คุณลูกค้าจะรับบริการอะไรดีค่ะ" ผมยืนยิ้มให้พนักงานตอนรับแล้วก็ถอดแว่นตาดำออกดูเหมือนจะจำผมได้แล้วมั้ง "คุณ Akiya (อาคิยะ) สวัสดีอีกครั้ค่ะ เดี่ยวพี่ไปตาม โอก้าซัง ให้นะคะ

"สวัสดีครับ พี่มิกิคนสวยไม่ต้องครับเดียวผมไปหาแม่เองดีกว่า

อ๋อ! ผมลืมบอกไปว่า ผมมีชื่อญี่ปุ่นด้วยชื่อ อาคิยะ(ความหมายของชื่อคือชัดเจนตั้งแต่เริ่ม) ผมวางของไว้ตรงจุดประชาสัมพันธ์ของร้าน แล้วเดินตรงไปทีห้องทำงานของแม่ทันที..

ในระยะทางจากด้านหน้าร้านจนถึงห้องทำงานก็มีพนักงานเดินสวนทางกลับผมอยู่ไม่น้อย แต่ผมไปสะดุดตากลับเด็กสาวคนหนึ่งผิวขาวเหมือนหยก หน้าตาออกไปทางลูกครึ่งไทย-จีนจำพวกที่เรียกกันว่าหมวยอินเตอร์ เพราะเธอหน้าตาออกแนวสวยเฉี่ยว ตาเรียวยาวขนตางอนปากทรงกระจับสีชมพูระเรื่อ เหมือนว่าผมโดนสะกดต้องมนต์ไปชั่วคร่าว ผมหลุดออกจากภวังค์ในทันที่เมื่อมารดากล่าวทักทายผม..

"เอ้าเจ้ากรมาแล้วเหรอ" จริงๆแล้วฉันเห็นเงาตะคุ่มๆอยู่ด้านหน้าประตูห้องร่างสูงใหญ่ไม่มีใครหรอกนอกจากลูกชายตัวดีของฉัน แต่ทว่านางหยุดนิ่งอยู่ที่ประตูแต่ไม่เคาะ ฉันก็รอให้เปิดเข้ามา แต่ทว่ากับเงียบก็เลยแพลนกล้องดู แต่สิ่งที่เห็นคือลูกชายฉันจ้องมองลูกสาวคนโปรดของฉันตาไม่กระพริบ หึ!

"แม่หวัดดีครับ กลับมาแล้วสิครับคิดถึงแม่จังเลย

"ปากหวานนะเอาไปไว้ใช้กับคนของแกเถอะ

'แม่ก็ผมก็มาแล้วไงครับ"

"เข้ามาข้างในสิเดี๋ยวแม่จะแนะนำให้รู้จักน้อง"

"เหมือนผมจะเข้าใจว่าผมเป็นลูกคนเดียวนะครับแม่"

"ไม่พูดเลยก็จะไม่ว่าอะไรหุบปากไป"

"ผมไม่อยากเจอหรอก เด็กโสโครกคนนั้นนะ"

ฉันแทบจะบึนปากใส่ไอ้ลูกชายเสียจัง เมื่อตะกี้ยังมองน้องตาไม่กระพริบเลย ลูกสาวฉันออกจะสวย จะสั่งตบปากเท่าอายุก็กลัวปากแตก จะด่าพ่อแม่ว่าไม่สั่งสอนมันก็ลูกฉัน ขอมองค้อนให้1กรุป..

"ไปรอแม่อยู่ข้างในเดี๋ยวแม่ไปตามน้องก่อน"

"อย่าช้านะแม่ผมง่วง"

หลังจากลูกชายฉันปิดประตู ฉันก็เดินไปหา นามิจัง ลูกสาวคนสวยของฉันที่กำลังวุ่นอยู่กับผ้ากองใหญ่

"นามิ มานี้ค่ะ

ฉันที่กำลังพับผ้าและแยกสิ้นส่วนอยู่กับพวกพี่ๆหมายถึงผ้าที่เขาใช้กันแล้ว ผ้าที่ไว้จัดห้องพักนั้นแระ ในทุกเช้าจะมีคนเข้าไปทำความสะอาดเปลี่ยนขุดเครื่องนอนให้ไหม่หมด

"ขา โอก้าซัง ไปเจอพี่กับแม่หน่อยพี่เขามาแล้ว

"พี่หรอคะ ลูกชายของโอก้าซังหรอนะคะ

"ใช่จ้ะป่ะไปกับแม่"

"หนูไปกับแม่ก่อนนะพี่ๆเดี๋ยวหนูช่วยอีกค่ะ"

ฉันรู้สึกตื่นเต้นแบบบอกไม่ถูกที่ต้องเจอพี่ชายต่างสายเลือดก็แม่หมายถึง โอก้าซัง นี่แหละที่สั่งให้ฉันเรียกคำว่าพี่ชาย เคยเห็นรูปที่เขาบนโต๊ะทำงาน ของโอก้าซัง พี่เขาก็ดูเป็นที่ยิ้มง่าย มีเสน่ห์สำหรับสาวๆเพราะดูจากรูปถ่าย คงผิวขาวดูผ่านรูปยังขาวโอโม่เลยแต่หน้าตาคมได้พ่อของแกมา ดูเหมือนว่าพ่อพี่เขาก็เป็นลูกผสมเหนือกับใต้ได้ความคมเข้มคนใต้มาเต็มๆ

พาร์ทภากร

ตอนแรกที่แม่บอกให้เข้าไปนั่งรอ ผมว่าจะถามถึงเด็กคนนั้นพอดี ผมหมายถึงผู้หญิงคนที่ผมหันไปมองจนเข้าภวังค์ แต่มาได้ยินมาพูดถึงเด็กโสโครกคนนั้นก็หมดอารมณ์จะถาม

ฉันพาลูกสาวของฉันเดินมาหน้าห้องทำงาน ฉันต้องการดัดสันดานเสียของลูกชาย ก็เลยให้นามิจังเข้าไปก่อน 'นามิจังเขาไปก่อนลูกแม่ลืมของ"

ฉันหันกลับมาด้วยอารมณ์ที่บอกว่าจะปล่อยหนูเข้าไปเจอเขาตัวต่อตัวเนี่ยนะ "หนูรอหน้านี้ก็ได้ค่ะโอก้าซัง"__"

ฉันเดินมาลูกหัวลูกสาวแล้วก็บอกไปว่า "พี่เขาไม่กัดหรอกฉีดวัคซีนมาแล้ว"

จากที่กลัวๆที่ต้องเจอต้องหลุดขำออกมา "หึๆๆค่ะหนูเข้าไปรอก็ได้ค่ะ

ก๊อกๆๆขอนุญาติค่ะ

ผมที่นั่งรอแม่กับเด็กคนนั้นไม่ได้ยินเสียงขออนุญาตก็รู้สึกหมั่นไส้ในความมีมารยาทจริงๆแต่ก็ช่างเถอะ

"เข้ามาดิ" น้ำเสียงฟังดูห้วนมากแต่คิดว่าคนอย่างฉันจะสนใจหรอ "ค่ะขออนุญาตเข้าไปนะคะ

ในขณะที่ฉันเปิดประตูเข้าไปนั้นสายตาของฉันสบสายตาพี่เขายังจำเหมือนเขาตั้งใจรอที่จะมองว่าใครที่เดินเข้ามา

ผมแทบตะลึงคนที่ผมบอกอนุญาตให้เข้ามาดันเป็นที่ผมแอบมอง เธอเข้ามาทำอะไรหรือมาหาแม่หรือ?

ชั่วโมงตะลึงงันทำให้ฉันกับพี่เขายืนมองกันไปครู่นึงเหมือนต่างคนต่างหลุดภวังค์

"มาหาโอกาซังหรอ" ผมชิงถามก่อน "เปล่าค่ะโอก้าซังให้เข้ามาค่ะ"พอจบประโยคเอาผมช็อคไปทันทีคนที่ผมแอบมองกลายเป็นคนที่ผมเรียกว่าเด็กโสโครกซะแล้ว

ผมเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทัน แต่ก็ต้องทำหน้านิ่งไว้ก่อน" "อ่อเธอนี่เอง" แม่ไปไหนล่ะ"

สำเนียงที่พี่เขาพูดถึงฉันเปลี่ยนไปแต่ก็ช่างเถอะ "ไปเอาของค่ะเดี๋ยวมา "หนูขออนุญาตเรียกพี่ได้ไหมคะ

"เหมือนฉันเกิดมาเป็นลูกคนเดียวนะถ้าจำไม่ผิด

ฉันรู้เลยว่าหาเรื่องแน่นอนอคติล้วนๆ "ค่ะ"

พาร์ทโอก้าซัง

ฉันลืมบอกไปว่าห้องนั้นติดสัญญาณกันขโมยไม่พอยังติดกล้องวงจรแบบมีบันทึกเสียงด้วย ฉันได้ยินทุกคำพูดขอให้ลูกเวรพูดกับหนูนามิจัง จบบทสนทนาฉันก็เดินเข้าไปทันที เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เจอลูกยืนอยู่

"อ้าว!ทำไมไม่นั่งล่ะลูกนามิจัง

"หนูเพิ่งทักทายกับคุณภากรนะคะ"

"ทำไมเรียกพี่เขาเป็นคุณล่ะนามิจัง

ฉันเงียบดีกว่าพูดไปก็สองใผ่เบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง ฉันสุภาษิตไทยมาทำไมวะ ฉันไม่ตอบได้แต่ก้มหน้า

อ่ะไหนๆก็เจอกันละแม่จะแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการเลย " นามิจังคนนี้ลูกชายแม่ชื่อภากร มีชื่อญี่ปุ่นว่า อาคิยะ หนูเรียกอยากพี่เขาชื่อไหรแล้วแต่หนูเลย "

ค่ะโอก้าซัง" ฉันแค่รับปากไปงั้นๆแหละในเมื่อเขาให้เรียกคุณฉันก็ต้องเรียกคุณภากรหรือคุณอาคิยะ

อ่อ!มาฝั่งนี้บ้าง กร นี้ไงลูกสาวแม่สวยไหม ชื่อไทยว่า วดี วรางคณา เมื่อ 2 ปีที่แล้วแม่ไปโตเกียว ในระหว่างกับที่พักแม่เจอคนวิ่งราวดีที่ได้หนูวดีช่วยไว้

คนที่นั่งฟังอยู่นั้นแต่ว่าที่เอาเด็กคนนี้มาเป็นเพราะเป็นคนที่ดีกว่านี้ช่วยเหลือว่างั้น

"แม่ก็แค่ให้เงินเขาไปก็จบไหมแล้วเอาลูกเต้าเหล่าใครมาเนี่ยพ่อแม่เขาว่ายังไงบ้างเนี่ย"

จากที่อารมณ์ดีๆกับหัวเสียขึ้นมาทันทีอยากใช้ไม้เท้าเคาะกะบาลหัวไอ้ลูกชายตัวดีเหลือเกิน

"ก็มีลูกแต่ลูกไม่อยู่ด้วยไง ส่วนเรื่องบุญคุณมันจบไปแล้วแต่แม่ชอบหนูวดี แม่ก็เลยชวนเขามาทำงานแล้วแม่ก็อยากได้เขาเป็นลูกสาวจบไหม

"แล้วพ่อรู้หรือยังครับ

"โอโต้ซัง นะหรอเคยเห็นขัดใจแม่ได้ป่ะหล่ะ"

ผมฟังแม่พูดผมก็รู้อยู่แล้วแหละว่าพ่อไม่เคยขัดใจแม่ได้เลย

"ผมก็แล้วแต่แม่ครับแม่จะทำอะไรก็เรื่องของแม่แต่ลูกสาวแม่อย่ามาวุ่นวายกับผมแล้วกัน

"น้องไม่วุ่นวายกับแกหรอกกรแต่สิ่งที่แม่จะบอกตอนนี้คือแม่จะส่งน้องเรียนต่อปตรีส่วนแกก็ต้องเรียนปโทที่มหาวิทยาลัยเดียวกับน้องเท่านั้น again please

"ไม่อ่ะแม่

"ไม่ปฏิเสธครับลูกกร แม่คุยกับโอโต้ซังเรียบร้อยแล้ว

คือตอนนี้ผมทำอะไรได้บ้างนอกจากหันไปมองหน้ายายเด็กคนนั้นอีกครั้งมองด้วยสายตาที่บอกเห้อว่าอะไรวะเนี่ยเพราะการที่ผมต้องเรียนที่เดียวกับเด็กคนนี้เท่ากับอิสรภาพของผมหายวับไปกับตา

"ก็ได้ครับแม่" ผมพูดได้แค่นี้จริงๆเพราะผมไม่สามารถตอบก่อนคำพูดที่ใหญ่ที่สุดในบ้านได้เลย

"แม่ลืมบอกไปว่าให้เรียกน้องว่านามิจัง"

ฉันรู้ดีว่าถึงแม้ว่าภากรกับวดีจะเรียนที่เดียวกันคนที่ลื่นไหลแบบลูกชายฉันก็คงมีวิธีที่จะออกนอกกรอบอยู่แล้วแหละ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel