บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 วดีไง

พาร์ทอดีตก่อนเจอกันระหว่าง (วดีกับมาดามนานะซัง)

@ณ มุม หนึ่งของโตเกียว

สวัสดีค่ะฉันชื่อวดีเป็นลูกครึงไทย-จีน(สัญชาติญี่ปุ่น)พ่อเป็นคนไทยมาทำงานที่ญี่ปุ่นมาเป็นเชฟให้ร้านดังในเมืองหลวงของญี่ปุ่น ก็เมืองโตเกียวไงหล่ะคร๊าบ..

แต่มาแบบถูกกฎหมายนะคะ แถมมาพบรักกับแม่ที่เป็นลูกครึ่งไทย-จีนรักกันยังไงฉันไม่รู้หรอก แต่ว่าแม่เป็น นศ.แลกเปลี่ยน(อันนี้แม่เล่าให้ฟัง)มาแบบไม่กลับบ้านอีกเลยพร้อมใช้ชีวิตกลับพ่อที่นี้

พ่อทำการยื่นของวีซ่าปีต่อปีตลอด อยู่จบครบ5ปีจนสามามรถยื่นเรื่องเปลี่ยนสัญชาติไปโดยปริยาย แถมอยู่กันจนมีฉัน ก็ยังไม่คิดที่จะกลับไทยเลยฉันก็เลยถือสัญชาติญี่ปุ่นตามพ่อแม่ตามกฎหมาย

ชีวิตฉันดูเหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดี ยิ่งแม่มาลาจากด้วยโรคร้าย ฉันก็ถูกพ่อเมินจนต้องดิ้นรนด้วยตัวเองหาความรู้รอบตัวจากนายจ้างที่จ้างวานให้เด็กตาดำๆ

@ในคำคืนหนึ่ง ณ กรุงโตเกียว

เมืองที่มีความสวยงามและอันตรายรอบด้านเลยที่เดียว

วันนี้ เป็นที่แม่จากไปฉันเลยขออนุญาตเจ้านายไปไหว้แม่หลังจากทำบุญฉัน มานั่งเหม่อที่แม่น้ำซุมิดะ

คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนฉันได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ (助けて) สิ่งแรกที่ฉันคิดข่วยดีไหมวะ แต่ถ้าไม่ช่วยเขาจะรอดไหมนับ (1 2 3 4 5ในใจ)ช่วยก็ช่วยว่ะ

พร้อมกลับตะโกนเสียงลั่นเพื่อใครได้ยิน ช่วยด้วยทางนี้มีคนร้ายคะ(助けてください、ここに犯罪者がいます。)

และดูเหมือนว่า คนที่ทำว่าไม่สนใจกันกลับมาสนใจคืออะไรก่อนตอนที่ฉันไม่ตะโกน พวกคุณไม่ใจเลยว่าไง ดูเกหมือนว่าเมื่อมีคนสนใจ ไอ้แก็งอันธพาลฉันก็ไม่รู้นะว่าอันธพาลไหม แต่ว่ามันถอยแล้วหนีเข้ามุมมืด ฉันเดินเขาไปหาร่างบางของผู้หญิงคนนั้นทันที

"Is there anything I can help with? (มีอะไรให้ช่วยไหมค่ะ)จริงแล้วฉันไม่เก่งภาษาอะไรเลย ได้แค่งูๆปลาๆ

เสียงที่แผ่วเบาจากคนเจ็บทำให้ฉันรู้ว่าเขาพูดไทยได้" ช่วยฉันด้วย

"คุณเป็นคนไทยเหรอค่ะ" ฉันดีใจมากที่ไม่ต้องใช่เครืองมือสื่อสารแอฟแปลภาษา ใช่ค่ะวดีใช้ (App-Translate) "เดี่ยวหนูพาไปโรงพยาบาลใกล้ๆนะคะ

ฉันไม่รอให้คนเจ็บพูดกับคำไหนต่อฉันมองซ้ายมองขวาดูคนที่ยืนมุงแต่ฉันเลือกที่จะพยุงคนเดียวดีกว่า ถ้ามีน้ำใจจริงคงเดินมาแล้วแระ หรือเหม็นสาปตัวฉัน ถึงเสื้อผ้าจะดูเก่าแต่ฉันก็ซักเด้อบอกเลย (พูดใจในแระคิดว่าคงฟังฉันไม่รู้เรื่อง)

"ขอบคุณนะหนู"เสียงที่แผ่วเบาของคนมีอายุคนนี้

"ยินดีค่ะหนูว่าคุณขยับตัวนิดหนึ่งนะคะ หนูจะพาคุณไปโรงพยาบาลใกล้ๆนีี้ค่ะ

ในขณะที่ฉันกำลังสาวะวนช่วยคนเจ็บ ดูเหมือนว่าใจฉันแอบอคิตคนรอบนั้น แต่อยู่ๆก็มี เจ้าหน้าที่รวมทั้งพยาบาลพากันวิ่งตรงมาที่ฉัน

และฉันเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีก็เลยปล่อยให้คนที่เขาชำนาญทำดีกว่า

"พี่ค่ะช่วยคนไข้คะด้วยดูอ่อนแรงมาก (ฉันพูดภาษาสากล)

",ยินดีค่ะ แต่น้องต้องไปให้ปากคำด้วยนะคะ(เจ้าหน้าที่ใช่ภาษาสากลเช่นกัน)

"แต่ว่าหนู....

ในขณะที่ฉันต่อรองเพราะฉันเองเป็นแค่คนผ่านเข้ามาแต่ทางด้านผู้หญิงสูงวัย(คนเจ็บ) วานเจ้าหน้าที่มาบอกให้ฉันตามไปด้วย

"คนป่วยอยากให้น้องตามไปด้วยครับ"

"อ่อค่ะ"?

"ไปกลับเราเลยครับ"

ตัวฉันขึ้นรถมาแบบงง งงจนถึงโรงพยาบาลก็ยังไม่หายงง คือกำลังประมวลผลและนัั่งรอผลอยู่ด้านนอก

@พยาบาลชื่อดังในโตเกียว

ในขณะที่ฉันนั่งคิดว่าจะทำอะไรต่อจากนี้บ้านก็กลับไม่ได้ล่ะทะเลาะกับพ่อก่อนออกมา พ่อที่แสนจะใจดีเปลี่ยนไปหลังแม่ลาจาก ครอบครัวทีเคยอบอุ่นไม่มีแล้วฉันถูกพ่อเมินตั้งแต่อายุไม่ถึง13 เลยตลอดเวลา4ปีชีวิตเหมือนอยู่คนเดียว

"หนู" ดูเหมือนว่ามีคนเรียกฉัน ฉันเลยหันไปตามทางเสียงที่เรียกขาเจอนายแพทย์ที่มีอายุ น่าจะรุ่นเดียวกับพ่อหล่ะมั้งยืนยิ้มให้

"คุณหมอเรียกหนูหรอกค่ะ

ผมยืนมองเด็กสาว ที่คนไข้ของผมวานให้ออกมาตามดูผ่านเธอเป็นเด็กที่มีนัยตาเศร้าเอามาก ดูอายุค่ะ15-16-17นี้หล่ะ

"ใช่ครับ หมอเรียกหนูเพราะคนไข้อยากเจอหนู เข้าไปข้างในกัน

"ห๊ะคุณป้าดีขึ้นแล้วหรอค่ะ

"ร่างกายแค่บอบช้ำนิดๆแต่มีสติครบถ้วนแล้วจ่ะ เข้าไปกันเถอะอย่าผู้ใหญ่รอ

ฉันเดินตามหมอไปยังไงได้เมื่อเข้าไปในห้องดูเหมือนจะเป็น VIP มากๆเพราะทุกอย่างมีครบครันหมดเลย

@ในห้องผู้ป่วย

ฉันเดินตามคนหาคุณหมอเข้ามาด้านในห้อง เจอผู้หญิงสูงวัย คนที่ฉันช่วยเหลือนั่งหันมามองด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น

"สวัสดีค่ะคุณป้า

"มาแล้วหรอคนสวยของป้าเข้ามาใกล้ๆหน่อยสิ

"หนูเกรงว่าจะไม่ดีค่ะเพราะหนูสกปรกมากเลยมาก" (ฉันหมายถึงเสื้อผ้าหน้าผมที่ผ่านแดดผ่านฝุ่นมาทั้งวันแถมยังลงไปคลุกฝุ่นตอนช่วยท่านอีก)

",มันก็แค่เสื้อผ้าที่มอมแมมค่ะแต่จิตใจหนูสะอาดมากเลยลูก (ฉันเข้าใจในความหมายที่เด็กสาวพูดเพราะว่าชุดแต่งกายของเด็กสาวมันมอมแมมมาก)

"เข้าไปหาคุณนานะสิ หนู" ที่พากันเรียกหนูๆเพราะยังไม่รู้จักชื่อแส่ของเด็กสาวแค่นั้นเอง

"โทษที่หนูลืมแนะนำชื่อเลย หนูวดีค่ะเป็นลูกครึ่งไทย-จีนค่ะ อยู่กับพ่อค่ะแต่แม่เสียแล้วค่ะ

หลังจากที่ฉันนั่งฟังเด็กสาวพูดถึงพ่อแม่คือบอกแม่เธอเสียแล้วฉันก็แอบตกใจไม่น้อยแต่ก็นะอยู่กับพ่อทำไมเสื้อผ้ามอมแมมได้อย่างนี้

"ป้าชื่อนานะค่ะและขอบคุณหนูนะจริงๆป้ามีกิจการอยู่ที่เบ๊ปบุ แต่วันนี้มาทำธุระที่โตเกียวดันเจอเรื่องเฉยเลยแต่ป้าก็ขอบคุณนะที่อุตส่าห์มีน้ำใจช่วยคนที่ไม่รู้จักกันแบบป้า

"หนูคิดว่าควรช่วยค่ะเพราะว่าอย่างน้อยก็ได้ช่วยถึงมันจะช่วยได้ไม่มากสักเท่าไหร่

"ป้าเสียใจด้วยนะเรื่องแม่แล้วพ่อล่ะลูกทำงานอะไร" นอกจากที่ฉันพูดถึงแม่และถามถึงพ่อของเด็กฉันแอบเห็นแววตาที่เศร้าสร้อยของเด็กสาวทันทีทำให้ฉันรู้ว่าเด็กน้อยคนนี้อาจมีปัญหาอะไรบางอย่าง

ตัวฉันเองก็ไม่อยากปิดบังเพราะว่าปิดบังไปมันก็ไม่มีผลอะไรต่อชีวิตคนอื่นเขา "ตั้งแต่แม่เสียพ่อก็ไม่ใส่ใจหนูแล้วค่ะล่าสุดทะเลาะกันพ่อไล่หนูออกจากบ้าน

ฉันนี้ยกมือทาบออกด้วยความตกใจ"ทำไมล่ะคะเกิดอะไรขึ้นบอกป้าได้นะ

ฉันได้ยิ้มแห้งๆ"ก็คงมีใหม่ค่ะแม่เสียมานานแล้ววันนี้วันครบรอบของแม่หนูชวนไปทำบุญกับปฏิเสธเลือกที่จะไปกับคนอื่นแทนแถมไม่พอคนอื่นพูดอะไรก็เชื่อหมดทำด้วยหนูออกจากบ้านอีก

ฉันอยากดึงเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนนี้มากอดมาก"โถ่ลูกไปทำงานกับป้าไหม ที่เบปบุ จะได้ไม่ต้องใช้วุฒิแต่ในช่วงนี้ทำงานกับป้า ป้าจะส่งหนูเรียนเองค่ะ

จริงแล้วตอนที่ได้ยินคือดีใจมากแต่.."ดีหรอคะเกรงใจค่ะหนูแค่ช่วยโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนเลย

ฉันหล่ะเอ็นดูในคำพูดเอามากๆ "ไม่หวังคือสิ่งที่ดีแต่ป้าถูกโฉลกกับหนูมากไปเป็นลูกสาวป้าดีกว่าค่ะเดี๋ยวป้าจะทำเรื่องขอจากพ่อหนูเอง

"ฉันคิดว่าถ้าคุณป้าไปพ่อคงเรียกร้องอะไรอีก แต่ไม่ดีกว่าฉันจัดการเอง "พ่อคงไม่ว่าอะไรหรอกค่ะหนูไม่ใช่ลูกรักของพ่อตั้งแต่แม่เสียนี่ก็เข้าปีที่ 4 แล้วพ่อไม่เคยใส่ใจหนูเลยหนูจะหนูต้องดิ้นรนตัวเองตั้งแต่หนูอายุ 13 แล้วค่ะ

ยิ่งฟังก็ยิ่งสงสารจับใจ "ตอนนี้หนูอายุเท่าไหร่คะ ฉันพึ่งนึกได้ว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะนี้ว่า"16 ย่าง 17 ค่ะ

ฉันอยากทำให้ถูกกฎหมายมากกว่า เพื่อมีปัญหาในภายภาคหน้า" หนูยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยป้าต้องขอพ่อก่อน

ความจริงพ่อไม่เคยสนใจนานแล้วไปไหนมาไหนก็ไม่สนใจด้วย"ให้หนูไปทำงานเป็นลูกจ้างป้าก่อนก็ได้ให้บรรลุนิติภาวะก่อนก็ได้ค่ะหนูถึงจะมีสิทธิ์มีเสียงเอง

ฉันจำเป็นต้องหันไปปรึกษาคุณหมอที่ยืนฉันกลับเด็กสาวสนทนากัน " คุณหมอลองชี้แนะหน่อยสิคะ

ผมยืนอยู่ของผมดีๆคุณนานะจะโยนมาซะงั้น"หมอว่า วดีควรไปบอกพ่อก่อนครับ จะพูดว่ายังไง"

ฉันยืนถอดหายแบบว่า "ถ้าไม่ไปบอกด้วยตัวเองเขียนจดหมายทิ้งไว้ได้ไหมคะคือตอนนี้คือตอนหนูมีปัญหากับพ่อคะ "__"

เอางี้เราไปลงบันทึกประจำวันกันไว้ว่า วดีได้ช่วยเหลือคุณนายนานะ แล้วคุณนายนานะก็เลยชวนไปทำงานที่เบปบุ แต่ถ้าอยากเจอลูกก็ให้เดินทางไปที่เบปบุได้เลยดีไหม

"missioncomplete ค่ะ

ผมคิดว่าไปทางออกที่ดีอย่างน้อยก็มีการลงบันทึกประจำวันมีหลักฐานในการบ่งชี้ว่าเด็กสาวคนนี้ได้ช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้ และบังเอิญเขาถูกโฉลกกับเด็กก็เลยชวนไปทำงานที่บ้านเกิด

พาร์ทนานะซัง

ฉันดีใจมากที่อยู่ๆฉันก็มีลูกสาวมาอีกคน แต่ลูกชายหรอช่างหัวมันอย่ามาเสียใจทีหลังเถอะ ภากร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel