บทที่ 1/2 ข้าสร้าง ‘นางมาร’ ขึ้นมา
“สาสมใจเจ้าแล้วสินะไป๋หลัน นี่สินะสิ่งที่เจ้าต้องการ!”
ตะคอกเสียงห้วนโดยไม่แม้แต่จะเหลือบตามองภรรยา เขาเองก็มีส่วนผิดที่แทบไม่มีเวลาดูแลบุตรสาว เขาเอาแต่ทำงานและไม่ค่อยกลับจวนเพราะเกลียดชังภรรยาต่ำช้าจนไม่อยากเห็นหน้า จึงไม่เคยระแคะระคายเลยว่าบุตรสาวได้ฝักใฝ่ฝ่ายมารจนไม่อาจหวนกลับ
เขาจึงต้องลงมือสังหารบุตรสาวด้วยตนเอง ดีกว่าให้นางถูกไล่ล่าแล้วถูกตัดหัวเสียบประจานที่กำแพงเมือง ให้นางได้หวนคืนสู่สวรรค์ในอ้อมกอดของผู้เป็นบิดาเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว
“ข้าขอโทษ ขอโทษ”
ไป๋หลันเอ่ยคำขอโทษพร้อมๆ กับเลือดที่กระอักออกมาไม่ขาดสาย
ซีฮั่นไม่รับคำขอโทษ เขาอุ้มร่างไร้วิญญาณของบุตรสาวหันหลังกลับออกไปด้วยหัวใจที่แหลกสลาย ปล่อยให้ภรรยานอนหายใจรวยรินอยู่เบื้องหลังราวกับไม่สนใจว่านางจะมีชีวิตอยู่หรือตาย
เกอไป๋หลันนอนจมกองเลือดที่กระอักออกมา นางค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ ยอมรับความตายที่กำลังมาเยือนในไม่ช้า ทว่าจู่ๆ กลับมีแสงสว่างเจิดจ้าจนนางต้องเบิกตาขึ้นมองด้วยความงุนงง
พบว่ามีหญิงสาวรูปงามดั่งเทพเซียนปรากฏกายขึ้น รอบกายเต็มไปด้วยหมอกขาวราวกับหมู่เมฆหาใช่ห้องขังอับชื้นบนหอคอยสูง
ฝัน! หรือว่า ข้าตายไปแล้ว!
“ไป๋เอ๋อร์ลูกรัก”
เซียนสาวผู้นั้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานใสราวกับระฆังแก้วดังเสนาะหูจนรู้สึกเคลิบเคลิ้มราวกับอยู่ในห้วงแห่งนิทรารมย์
“ลูกงั้นหรือ...”
ดวงตาไม่อาจสู้แสง ยิ่งพยายามเพ่งยิ่งไม่อาจมองเห็นเซียนสาวตรงหน้าได้อย่างถนัดถนี่ จนเมื่ออีกฝ่ายโน้มใบหน้าลงมา ไป๋หลันจึงได้เห็นว่าอีกฝ่ายมีใบหน้าละม้ายคล้ายนางตอนที่ยังเป็นสาวเหลือเกิน
“แม่จะให้เจ้าได้หวนคืนกลับไปแก้ไข เจ้าต้องการหรือไม่เล่าลูกรัก”
“หวนคืนหรือเจ้าคะ”
เกอไป๋หลันย้อนถามเสียงหลง ประกายตาแห่งความดีใจไหววูบ หากนางได้หวนคืนนางจะไม่เดินบนเส้นทางที่ผิดพลาดอีก นางจะทำทุกอย่างเพื่อให้บุตรสาวเติบโตขึ้นอย่างมีความสุข และจะหย่าขาดคืนอิสระให้แก่สามีเพราะนางแอบรู้มาว่าเขามีสตรีที่พึงใจ เป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน แต่จำต้องแต่งงานกับนางทั้งที่ไม่ได้รัก
เร็วกว่าความคิดเกอไป๋หลันรีบพยักหน้าตอบรับทันที ขอเพียงได้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรนางก็พร้อมจะยอมแลก
“ได้โปรด ข้าขอโอกาสหวนคืนเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นข้าจะให้พรแก่เจ้าหนึ่งประการ เจ้าจะสามารถใช้ ‘สัจจะซ่อนเร้น’ ได้สามครั้ง เพียงมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายแล้วเอ่ยคำว่าสัจจะซ่อนเร้น เจ้าจะสามารถล้วงความจริงของอีกฝ่ายที่มีต่อเจ้าได้ภายในระยะเวลาครึ่งเค่อ จงจำไว้ให้ดีว่าเจ้าจะใช้ได้เพียงสามครั้งเท่านั้น”
“สะ...สามารถล้วงความจริงได้งั้นหรือเจ้าคะท่านเซียน”
หญิงสาวทวนถามด้วยความงุนงงกว่าเดิม นางกำลังอ้าปากคล้ายจะถามอีก ทว่าแสงสว่างกลับเจิดจ้าขึ้นจนภาพเบื้องหน้าทั้งหมดเลือนหายก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับวูบเหลือทิ้งไว้เพียงความมืดมิด
