4 เจ้าหนี้ vs ลูกหนี้
"ฮะะ???!!!"
ฉันร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินจำนวนเงินที่ฮันเตอร์บอกก่อนจะหันไปมองหน้าพ่อตัวเองที่ทำหน้ารู้สึกผิดอยู่
"พ่อคะ!!"
"พ่อขอโทษนะลูก พ่อคิดว่ามันจะได้คืน พ่อเลยทุ่มเล่นไป พออยากได้คืนเยอะพ่อก็ยิ่งเล่นเยอะ พ่อขอโทษนะ"
คำพูดของพ่อทำเอาฉันอยากจะเป็นลม ก่อนจะรีบตั้งสติใหม่ ฉันจะต้องช่วยพ่อแก้ปัญหานี้ให้ได้
"ตอนนี้ฉันมีเงินเก็บอยู่สามสิบล้าน คุณเอาไปเลย" ฉันเขียนจำนวนเงินลงในสมุดเช็ค "แล้วเรามาทำสัญญากันว่าฉันจะต้องใช้หนี้ที่เหลือให้หมดภายในกี่ปี แลกกับการที่ให้พ่อฉันอยู่ที่นี่ต่อไป และเราต้องหย่ากัน"
ฉันยื่นเช็คที่มีลายเซ็นตัวเองให้ฮันเตอร์ เขารับมาดูก่อนจะยิ้ม
"ได้" เขาตอบ "ฉันจะให้พ่อเธออยู่ที่นี่ และฉันจะหย่าให้ ถ้าเธอใช้หนี้ฉันให้ครบทุกบาททุกสตางค์รวมถึงดอกเบี้ยภายในอาทิตย์นี้"
"อาทิตย์นี้?!!!" ฉันทวนคำเสียงหลง "คุณจะบ้าเหรอ? สามร้อยล้านนะไม่ใช่สามร้อยบาท อย่างน้อยขอเวลาฉันสักสามปีได้มั้ยล่ะ?"
ฉันต่อรอง แม้จะรู้สึกว่าการต้องหาเงินปีละร้อยล้านมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าฉันรับงานทุกวัน วันละสามสี่งานก็อาจจะพอไหว หรือถ้าฉันเอาเครดิตที่ตัวเองมีไปกู้ธนาคารก็อาจจะหน้าเลือดน้อยกว่าอีตานี่ก็ได้
"ถ้าทำไม่ได้ภายในอาทิตย์นี้ เธอก็ต้องใช้หนี้แทนพ่อเธอเหมือนเดิม" เขาบอกพลางยื่นเช็คคืน "อ้อ แล้วก็ไม่รับผ่อนนะครับ รับเป็นเงินก้อนเท่านั้น"
ฉันกำมือแน่นเมื่อเห็นสีหน้ายียวนของเขา ฮันเตอร์ที่ฉันเขียนไม่ได้มีนิสัยแบบนี้ เขาออกจะน่ารัก นิสัยดี เป็นสุภาพบุรุษ ผิดกับหมอนี่อย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ใช่ฮันเตอร์ของฉันอย่างแน่นอน!
"พ่อต้องไปแล้วลูก"
พ่อก้มดูนาฬิกาก่อนจะบอกฉัน ฉันหันไปมองพ่อพลางเม้มปากด้วยความเครียด
"หนูจะทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อรีบกลับมานะคะ"
ฉันบอก พ่อลูบหัวฉันแล้วยิ้มให้
"ขอบคุณมากนะลูก ขอบคุณลูกจริงๆที่ช่วยพ่อ"
พ่อบอกก่อนที่เราสองคนจะโผกอดกันอีกครั้ง ฉันรีบปาดน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีกเมื่อมองดูพ่อเดินออกไป
ฉันจะต้องทำทุกวิธีเพื่อใช้หนี้ฮันเตอร์ให้หมดและให้พ่อกลับมาอยู่กับฉันอีกครั้งให้ได้
ฉันรีบหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วไลน์หาพี่แจมผู้จัดการส่วนตัวทันที
I'M NOINA : พี่แจมคะ ตั้งแต่วันนี้ถ้ามีงานอะไรติดต่อเข้ามา พี่แจมรับมาให้หมดเลยนะคะ หน่ารับทุกงาน
ฉันพิมพ์ส่งไป ไม่นานนักพี่แจมก็อ่านแล้วตอบกลับมา
พี่แจม(ผู้จัดการ) : อ้าว น้องหน่าไม่ต้องไปฮันนีมูนกับคุณฮันเตอร์เหรอจ๊ะ?
I'M NOINA : ไม่มีการฮันนีมงฮันนีมูนใดๆทั้งนั้นค่ะ พี่แจมรับงานมาเลยนะคะ ยิ่งเริ่มวันนี้ได้ยิ่งดี
"ทำอะไร?"
ฮันเตอร์ถามเมื่อเห็นฉันพิมพ์ข้อความลงในโทรศัพท์อย่างเมามัน ฉันหันไปมองค้อนก่อนจะหันมาสนใจโทรศัพท์ในมือต่อ แต่กลับถูกคนไร้มารยาทแย่งไปจากมือ
"นี่ เอาคืนมานะ!"
ฉันร้องบอก ฮันเตอร์อ่านข้อความที่ฉันพิมพ์คุยกับพี่แจมก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์
"จะรับงานอะไรอีก ฉันก็จ้างเธออยู่นี่ไง"
"ก็จะรับงานมาใช้หนี้ไอ้เจ้าหนี้หน้าเลือดอย่างคุณไงล่ะ"
"ค่าสินสอดเธอร้อยล้านนะ รู้รึเปล่า?"
คำพูดของฮันเตอร์ทำเอาฉันตาโต
"ร้อยล้าน?!"
"ใช่ ฉันจ้างเธอมาแต่งงานด้วยค่าสินสอดร้อยล้าน เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอเหลือใช้หนี้อีกแค่สองร้อยล้านเท่านั้น"
เขาบอก ยิ่งฟังตัวเลขหนี้สินลดลงแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันอยากรีบหาเงินมาใช้หนี้เขาให้หมดให้เร็วที่สุด
"ดี งั้นสองปีฉันก็ใช้หนี้คุณหมดแล้ว"
ฉันพูดทำเอาฮันเตอร์หัวเราะ
"เธอคิดว่าจะมีใครให้ค่าตัวเธอเท่าฉันหรือไง?" เขาพูด "ค่าตัวตั้งร้อยล้าน ฉันก็ต้องใช้ให้คุ้มหน่อยสิ..."
ฮันเตอร์ยิ้มเจ้าเล่ห์พลางลูบแขนฉันแต่ฉันรีบสะบัดหนี เขามองก่อนจะกระชากฉันเข้าไปใกล้ตัว
"จากนี้ฉันคือเจ้าหนี้ และเธอคือลูกหนี้ เธอมีสิทธิทำตามที่ฉันสั่งเท่านั้น เข้าใจมั้ย?"
ดวงตาคมจ้องมองอย่างจริงจังทำเอาฉันแทบตัวฝ่อ การได้เห็นหน้าเขาในระยะห่างแค่คืบแบบนี้ทำเอาฉันใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
"ข - - เข้าใจแล้ว..."
ฉันตอบปัดไปเพราะไม่อยากจะอยู่ใกล้เขานานไปกว่านี้ ฮันเตอร์ปล่อยแขนฉันออกก่อนจะเดินนำออกไป
"ไปกันได้แล้ว"
เขาบอก ฉันคว้ากระเป๋าสะพายก่อนจะเดินตามเขาไปอย่างครุ่นคิดแม้จะไม่รู้ว่าเขากำลังจะพาฉันไปไหนก็ตาม
"มากันแล้วเหรอลูก? มาๆ หนูน้อยหน่าเข้ามาก่อนจ้ะ"
ฮันเตอร์ขับรถพาฉันมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ถ้าเดาไม่ผิดก็คงจะเป็นบ้านของเขาเอง เมื่อเดินเข้ามาก็มีหญิงวัยกลางคนหน้าตาท่าทางใจดีออกมาต้อนรับฉันอย่างอบอุ่น ลักษณะท่าทางของผู้หญิงคนนี้ทำให้ฉันรู้สึกคุ้นอย่างมาก
"คุณเพลงพิศ?"
ฉันเรียกชื่อทำเอาฮันเตอร์และผู้หญิงคนนั้นหันมามองอย่างตกใจ ก่อนที่เธอจะยิ้มให้ฉัน
"เรียกชื่อทำไมล่ะจ๊ะ? เรียกแม่สิลูก ตอนนี้หนูเป็นสะใภ้บ้านเราแล้วนะ"
คุณเพลงพิศบอก
นั่นไงล่ะ แม่ของฮันเตอร์จริงๆด้วย!
ฉันเคยบรรยายถึงแม่ของฮันเตอร์ในนิยายของตัวเองในฉากที่ฮันเตอร์พาอันนามาที่บ้านแล้วแม่ของเขาออกมาต้อนรับด้วยสีหน้าท่าทางอบอุ่นใจดีแบบนี้เช่นกัน เธออยากอุ้มหลานมาก ติดก็เพียงแค่ลูกชายตัวดีไม่ยอมแต่งงานเสียทีเพราะมัวแต่หลงรักอันนาที่สุดท้ายแล้วก็โดนพระเอกอย่างแทนไทคาบไปรับประทาน
ฮันเตอร์เดินโอบเอวพาฉันเข้าไปในบ้าน เพราะบนรถก่อนหน้านี้เขากำชับฉันหนักหนาว่าเราสองคนจะต้องเล่นละครเป็นคู่รักที่รักกันหวานชื่นต่อหน้าครอบครัวของเขา โดยบอกว่านักแสดงมืออาชีพอย่างฉันน่าจะทำได้สบายอยู่แล้ว -_-
ฉันมองรอบบ้านของฮันเตอร์อย่างสนใจ ก่อนจะเห็นรูปครอบครัวที่มีผู้ชายท่าทางน่าเกรงขามและผู้หญิงที่หน้าเหมือนคุณเพลงพิศในวัยสาว และเด็กผู้ชายรูปร่างจ้ำม่ำยืนยิ้มแป้นอยู่ในรูปด้วย
"นี่คุณเหรอ?"
ฉันชี้ไปที่รูปพลางกลั้นขำ ฮันเตอร์ขมวดคิ้วแล้วหน้าแดง
"ทำไมแม่ยังไม่เปลี่ยนรูปอีกเนี่ย?"
เขาพึมพำ ท่าทางของเขาทำให้ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ
"น่ารักดีออก อ้วนปุ้กเชียว ตอนเด็กๆกลิ้งแทนเดินใช่มั้ยคุณน่ะ?"
"พอแล้วๆ เข้าไปข้างในเลยไป"
เขารีบตัดบทพลางดึงฉันให้ไปที่ห้องนั่งเล่น สงสัยจะเขินที่โดนแซว อิอิ สมน้ำหน้าอีตาขี้เก๊กเอ๊ย
"แพลนจะไปฮันนีมูนกันที่ไหนล่ะลูก?"
คุณเพลงพิศถามเมื่อฉันกับฮันเตอร์นั่งลงบนโซฟาหลุยส์ราคาแพงที่ตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น
"ยังไม่ได้คิดเลยครับ" ฮันเตอร์ตอบก่อนจะหันมาหาฉัน "คุณอยากไปที่ไหนครับ?"
เสียงหวานๆกับสายตาเจ้าสเน่ห์ที่เขามองมาทำเอาฉันขนลุกไปทั้งตัว
ถ้าใครที่จะเล่นละครเก่งที่สุดในห้องนี้ ก็คงต้องเป็นเขานี่แหละ!
"เอ่อ...ไม่มีค่ะ" ฉันตอบ "ไม่ได้คิด แล้วก็ไม่อยากไปด้วยค่ะ"
ฉันยิ้มให้คุณเพลงพิศก่อนจะเหลือบไปมองฮันเตอร์ที่จ้องฉันเขม็ง มือของเขาที่โอบเอวฉันอยู่กระชับแน่นขึ้นเหมือนจะเตือนว่าฉันกำลังเล่นนอกบท แต่ฉันไม่สนใจหรอก ทุกนาทีของฉันตอนนี้เป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น เพราะฉะนั้นการไปฮันนีมูนจากการแต่งงานปลอมๆเพื่อขัดดอกครั้งนี้มันไม่จำเป็นเลยสักนิด ฉันควรจะเอาเวลาไปทำงานเพื่อที่จะได้เอาเงินมาใช้หนี้ให้เขาดีกว่า
"ไม่อยากไปเหรอลูก?"
คุณเพลงพิศทวนคำพลางทำหน้างง
"น้อยหน่าเขาหมายถึงอยากจะใช้เวลาอยู่ที่เรือนหอของเราสองคนทั้งวันทั้งคืนเลยน่ะครับแม่" ฮันเตอร์พูดแก้ "ใช่มั้ยครับที่รัก?"
เขาหันมามองแล้วยิ้มเย็นเยือกให้ฉัน ก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างหูเมื่อเห็นฉันกำลังจะอ้าปากตอบ
"พูดดีๆ แล้วฉันจะลดหนี้ให้อีกแสน"
"ใช่ค่ะคุณแม่ หน่าอยากจะอยู่กับคุณฮันเตอร์ที่เรือนหอของเราทั้งวันทั้งคืน ไม่ต้องออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันเห็นผู้เห็นคนที่ไหนกันเลยค่ะ"
ฉันรีบตอบทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอของเขา ฮันเตอร์ยิ้มอย่างพอใจก่อนจะหันไปมองแม่ตัวเองที่นั่งยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้ฟังคำตอบของฉัน
จริงๆแล้วเงินน่ะซื้อฉันไม่ได้หรอกนะ (ถ้าไม่มากพอ อิอิ)
"ตายแล้ว สงสัยที่หมอดูบอกว่าแม่จะได้อุ้มหลานเร็วๆนี้ก็ท่าจะจริงน่ะสิ"
หญิงสูงอายุพูดอย่างพอใจ ผิดกับฉันและฮันเตอร์ที่นั่งยิ้มแห้งกันอยู่สองคนเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เขาโดนฉันถีบจนตกเตียง เพราะงั้นเรื่องอุ้มหลานของคุณเพลงพิศล่ะก็...ลืมไปได้เลยค่ะ
จู่ๆคุณเพลงพิศก็เอื้อมมือมาจับมือฉันที่วางอยู่บนตักแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"แม่ขอบคุณหนูน้อยหน่ามากนะลูกที่เข้ามาในชีวิตของฮันเตอร์" คุณเพลงพิศบอก "ก่อนหน้านี้ลูกชายแม่ไม่เป็นผู้เป็นคนเลย แต่ดีขึ้นเพราะเขาจะแต่งงานกับหนูนี่แหละ"
สิ่งที่คุณเพลงพิศบอกทำให้ฉันต้องหันไปมองหน้าฮันเตอร์ เขาเกาหน้าเพราะทำอะไรไม่ถูก ดูเหมือนเขาเองก็ตกใจกับสิ่งที่แม่ตัวเองพูดเหมือนกัน
"ค - - ค่ะ..."
ฉันไม่รู้จะตอบอะไรจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าแล้วยิ้มให้เท่านั้น
'ก่อนหน้านี้ลูกชายแม่ไม่เป็นผู้เป็นคนเลย' งั้นเหรอ?
จะเป็นเพราะเรื่องของอันนากับแทนไทหรือเปล่านะ...
