ปรับตัวกับโลกใบใหม่ 1
“เช่นนั้นกินนี่ไปก่อน ไว้ข้าจะจับไก่มาอีก” ฉินหร่านรับผลผิงจากมือหนาแล้วพยักหน้ารับ แต่เมื่อนึกได้ว่าฉีเยี่ยนมองไม่เห็นจึงตอบรับอีกครั้ง
“ได้ ท่านพี่มีอะไรก็ไปทำเถอะ ข้าอยากไปอาบน้ำ” ฉินหร่านเอ่ยบอก นางพอจะจำได้ว่าที่อาบน้ำอยู่ทางหลังบ้านแม้จะไม่ปลอดภัย แต่เมื่อรั่วบ้านสูงขนาดนั้นไม่มีทางที่คนนอกจะมองเห็นได้ และคนในบ้านอีกคนก็มองไม่เห็นจึงทำให้นางกล้าอาบน้ำ
ร่างสูงมองตามร่างบอบบางไปอย่างเงียบงัน นางผอมเกินไปต้องบำรุงมากกว่านี้ แต่เมื่อนึกถึงฝีมือทำกับข้าวตัวเองแล้วได้แต่เม้มปากแน่น ก่อนจะหมุนกายกลับไปหาไก่ป่ามาอีกครั้ง
ฉินหร่านอาบน้ำอย่างเร่งรีบ ที่ห้องน้ำไม่มีสบู่ให้นางถูตัวได้ แต่หาใบไม้แถวนั้นมาตีให้เกิดฟองเล็กน้อยเท่านั้น และร่างเดิมก็มาอยู่ที่นี่ได้วันเดียวเท่านั้น ทำให้ยังไม่มีอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวมากนัก อีกทั้งนางเองก็ไม่ได้เป็นลูกรักของมารดา ทำให้แทบจะไม่มีอะไรติดมา เสื้อผ้าได้มาแค่สามชุดและยังเก่ามากด้วยมีรอยปะชุนหลายชุด
จะมีเพียงชุดที่ใส่ตอนย้ายเข้าบ้านชายตาบอดเท่านั้นที่ดูดีสุด งานแต่งของทั้งคู่เรียบง่าย ไม่มีงานเลี้ยงฉลองอะไรทั้งสิ้น แต่ช่างเถอะอย่างไรตอนนี้นางก็ถูกกินจนเรียบร้อยแล้ว จะฉลองอะไรอีก อีกอย่างตอนนี้นางเองก็เป็นเพียงภรรยาทาสเท่านั้น เพราะยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายของโลกใบนี้
มีเพียงสัญญาซื้อขาย แค่คิดว่าตอนนี้นางเป็นเพียงภรรยาทาสก็ให้ความรู้สึกไม่ดีนัก แต่เมื่อมาแล้วก็คงต้องอยู่ต่อไป นางไม่เชื่อว่าตนเองจะไม่มีวิธีมัดใจสามี อย่างน้อยนางก็มีเสน่ห์ปลายจวักที่คว้ากระเพาะอาหารผู้ชายได้
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จจึงได้มานั่งกินผลผิงรองทอง แม้ผลไม้จะช่วยอิ่มท้อง แต่ไม่ช่วยให้ร่างกายผอมบางแข็งแรงได้ ที่นี่ไม่มีกระจกทำให้นางไม่เห็นหน้าตัวเอง มีแค่ภาพความทรงจำเท่านั้น ร่างเดิมหน้าตาผอมบางแต่มีวี่แววว่าจะเป็นสาวงามในอนาคต หากบำรุงร่างกายมากกว่านี้มีน้ำนวลมากกว่านี้ คงมีแต่บุรุษชายตามองแน่ๆ
แต่ตอนนี้นางหมดโอกาสหว่านเสน่ห์เสียแล้ว เพราะตอนนี้นางเป็นภรรยาของชายตาบอดไปแล้ว แต่นับว่าโชคดีที่ใบหน้าสามีหล่อมาก แค่ดูก็เจริญหูเจริญตานับว่ายังมีความโชคดีในความโชคร้ายของนาง เมื่อกินผลผิงหมดจึงเดินสำรวจรอบบ้านอีกรอบ ในห้องครัวอยู่ปีกซ้ายมือไม่ใหญ่มาก
อุปกรณ์ทำครัวมีแค่ไม่กี่อย่าง กับถ้วยจานไม่กี่ใบที่ฝุ่นเกาะราวกับไม่เคยใช้งาน จะมีถ้วยที่นางกินมื้อเช้าที่ดูปกติกว่าเพื่อน นางมองดูฝืนกับถ่านที่มีไม่มากอย่างแปลกใจ ปกติชายตาบอดผู้นี้ใช้ชีวิตอย่างไรกันแน่ ถึงรอดมาได้ขนาดนี้ ยิ่งเครื่องปรุงอย่าถามหาเลย ทั้งบ้านมีเหลือก้อนเกลืออยู่ก้อนใหญ่หนึ่งก้อน นับว่าโชคดีที่ฉีเยี่ยนไม่ใส่ลงไปในโจ๊กเมื่อเช้า
ฉินหร่านเดินออกจากห้องครัวด้วยหัวใจห่อเหี่ยว เชฟห้าดาวอย่างนางที่ชื่นชอบทำครัวแต่ไม่มีอะไรที่สามารถทำกินได้แล้วแทบร้องไห้ ข้าวสารในหม้อก็ไม่มี ที่ต้มโจ๊กเมื้อเช้าคงเป็นก้นหม้อแล้ว ร่างบอบบางเดินสำรวจรอบบ้านอากาศอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ เหมาะสำหรับการเพาะปลูก
แต่หลังบ้านที่แห้งแล้งแทบไม่มีผักสวนครัว ยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยแทบแตกสลาย หากโลกก่อนนางยังมีญาติพี่น้องคงได้ร้องไห้หนักมากแน่ๆ ที่หลงมาในยุคสมันที่ยากไร้เช่นนี้
ในสวนหลังบ้านมีผักไม่กี่ชนิด และไม่ได้ดูแลดีมากนัก ทำให้มีวัชพืชขึ้นเยอะกว่าผักที่ปลูก แต่ฉินหร่านกลับเข้าใจเพราะฉีเยี่ยนมองไม่เห็นแล้วจะถอนหญ้าได้อย่างไร นางเดินไปแปลงผักมองหาอุปกรณ์ทำสวนที่เก่าและทรุดโทรมอยู่ไม่ไกลนัก แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้ นางถอนหญ้าออกอย่างใจเย็น ก่อนจะเริ่มแผนการครุ่นคิดวิธีเอาตัวรอดจากโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคยเหล่านี้
