ตามเกี้ยวสามีตาบอด 1
“อร่อย ฝีมือทำอาหารภรรยาไม่ธรรมดาจริงๆ ไว้พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปซื้อของที่เจ้าอยากได้”
ฉินหร่านได้ยินเช่นนั้นดวงตาทอประกายอย่างยินดี ก่อนจะชะงักไปเมื่อคิดว่าทุกอย่างที่นี่ล้วนต้องใช้เงิน แล้วข้าวของที่บ้านก็บ่งบอกว่าพวกเขาไม่มีเงินเลย แล้วแบบนี้จะซื้อของที่นางอยากได้ ได้เช่นไร
“ท่านพี่เรามีเงินหรือเจ้าคะ”
“แม้ไม่มากแต่ก็พอซื้อข้าวกับเครื่องปรุง ไว้ต่อไปข้าจะขยันมากกว่านี้”
ฉีเยี่ยนเอ่ยบอก พร้อมหยิบถุงเงินในอกเสื้อมาส่งให้ภรรยาตัวน้อย ฉินหร่านไม่ได้เกรงใจนางรับเงินมาเปิดดูซึ่งมีอยู่ยี่สิบตำลึงทอง แต่ก็ทำให้ครอบครัวธรรมดาอยู่ได้หลายสิบปี และยังสามารถสร้างบ้านใหม่ได้ด้วย นางไม่คิดว่าสามีตาบอดของนางจะมีเงินมากขนาดนี้
“ท่านพี่ ท่านมีเงินมากขนาดนี้ สามารถหาหมอมารักษาท่านพี่ได้หรือไม่เจ้าคะ” แม้จะไม่รู้ว่าทำไมฉีเยี่ยนจะตาบอด แต่นางก็อยากให้อีกคนมองเห็น ซึ่งคำถามของนางทำให้ฉีเยี่ยนชะงักไม่ได้กินไก่ต่ออย่างที่ควร
“เจ้ารังเกียจข้าหรือ” น้ำเสียงที่เอ่ยถามค่อนข้างจริงจัง ทำให้ฉินหร่านส่ายหน้า ก่อนจะนึกได้ว่าอีกคนมองไม่เห็นจึงรีบเอ่ยตอบ
“เปล่าเจ้าค่ะ ข้าเพียงแค่อยากให้ท่านพี่เห็นว่าภรรยาของท่านพี่งดงามแค่ไหนเจ้าค่ะ” น้ำเสียงจริงใจและหยอกล้อทำให้ฉีเยี่ยนผ่อนคลายลง
“หมอธรรมดาไม่อาจรักษาได้ นอกจากหมอปีศาจหรือหมดเทวดา ซึ่งมีเงินก็ไม่อาจจะเชิญมาได้ แต่ต่อให้ข้ามองไม่เห็นข้าก็รู้ว่าเจ้างดงาม” คำหวานที่ได้รับกะทันหันทำให้ฉินหร่านหน้าแดงระเรื่ออย่างเก้อเขิน
“ท่านพี่รีบกินเถอะ เดี๋ยวเย็นหมดจะไม่อร่อยเจ้าค่ะ” ฉินหร่านรีบหยิบไก่ใส่ปากคนพูดแก้เขิน ซึ่งทำให้ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มเบาบางจนทำให้นางมองตาค้าง สามีนางหล่อจริงๆ ยิ่งมองยิ่งเจริญหูเจริญตา
“ท่านพี่หน้าตาหล่อเหลาเช่นนี้ แม้มองไม่เห็นก็ดีแล้วเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นข้าคงได้กินน้ำส้มสายชูทุกวัน”
“แค่กๆ” ฉีเยี่ยนสำลัก ไม่คิดว่าภรรยาจะพูดอะไรตรงๆ เช่นนี้ ก่อนจะรับน้ำที่ภรรยายื่นให้มาดื่ม ใบหน้าแดงระเรื่ออย่างเก้อเขิน ตั้งแต่เกิดมาไม่มีใครชมเขาต่อหน้าเช่นนี้มาก่อน
“ดีขึ้นหรือไม่เจ้าค่ะ ท่านพี่กินระวังหน่อยเจ้าค่ะ” ฉินหร่านเอ่ยบอกพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดปากอีกฝ่ายให้อย่างเอาใจ แม้จะสวมใส่เสื้อผ้าเก่าๆ เส้นผมผูกด้วยผ้าธรรมดาแต่กลับดูสง่างาม หากไม่ตาบอดคงไม่ตกมาถึงมือนางแน่ๆ
“เจ้าเองก็รีบกินเถอะ” ฉีเยี่ยนเอ่ยบอกเสียงเบา ใบหูแดงระเรื่อ ก่อนจะก้มลงกินอาหารตรงหน้าตัวเองอย่างเงียบๆ และรู้สึกว่าสายตาของภรรยามองมาที่เขาตลอดเวลา
“ท่านพี่ ท่านพี่อยากได้บุตรชายหรือบุตรสาวเจ้าค่ะ”
“แค่กๆ”
ครั้งนี้ฉีเยี่ยนสำลักจนหน้าแดงอีกครั้ง ทำให้คนที่เอ่ยถามลุกขึ้นมาลูบหลังให้อย่างกังวล หรือสามีตาบอดของนางจะไม่สบาย โดยไม่รู้เลยว่าคำพูดของนางเถรตรงมากแค่ไหน หากเทียบกับสตรีในยุคสมัยนี้ ซึ่งทำให้คนโบราณเช่นฉีเยี่ยนเขินอายจนพูดไม่ออก ได้แต่ปิดปากเงียบ และรู้สึกโชคดีที่ตัวเองตาบอด ไม่เช่นนั้นคงไม่รู้ว่าจะมองหน้าภรรยาสาวอย่างไรดี
อาหารมื้อนี้จึงอบอวลไปด้วยความอบอุ่น แม้อาหารจะเรียบง่าย แต่ทำให้หัวใจสองดวงผูกพันกันมากขึ้นยิ่งขึ้น สาวน้อยจากศตวรรษที่21ก็เกี้ยวพาราสีสามีหมาดๆ ตัวเองอย่างร่าเริง สาวโสดอายุยี่สิบแปดปี พึ่งมีสามีเป็นของตัวเองและยังหล่อเหลาเช่นนี้จะปล่อยผ่านไปได้อย่างไร
“ท่านพี่เรามีไร่นาหรือไม่เจ้าคะ” ฉินหร่านเอ่ยถาม เพื่อจะได้วางแผนในอนาคต หญิงแกร่งอย่างนางจะเลี้ยงดูสามีกับลูกเอง!
“ข้าซื้อเอาไว้อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก มีอยู่ยี่สิบสี่หมู่ เจ้าอยากปลูกอะไรหรือ”
ฉินหร่านดวงตาเป็นประกาย ไม่คิดว่าจะมีที่ดินเป็นของตัวเองยี่สิบหมู่ก็ประมาณสิบไร่ แม้ไม่มากมายแต่พอทำให้พวกนางทำกินเลี้ยงชีพได้ หากมีเงินมากกว่านี้ก็ซื้อเพิ่มและอาจปล่อยไว้ให้เช่าได้ ยิ่งราคาที่ดินสมัยนี้ไม่แพงมากนัก
