ตอนที่ 8 ตัดไม้ข่มนาม (ep.4)
“จมื่นศรีสุรนาท หาใช่ใครอื่น หากแต่เป็นบุตรของพระยาภักดีพิชัย เจ้ากรมการคลังและการต่างประเทศ สหายคนสนิทของท่านเจ้าคุณพ่อ หากพวกเจ้ามิใคร่ให้ความช่วยเหลือแล้วไซร้ ข้านี้ใคร่ขอจับดาบเข้าแลกกับชายผู้ไม่รู้บุญบาปเทือกนั้นเอง”
จอมนางพูดจบก็เตรียมจะยื่นมือไปคว้าดาบ แต่ชายฉกรรจ์ทั้งสามก็รีบทะยานตรงไปยังกลุ่มคนร้ายที่กำลังประทะกับจมื่นศรีสุรนาท โดยให้บ่าวอีกคนคอยคุ้มกันจอมนางที่รีบลงเรือโดยมีทองใบและบ่าวฝีพายทั้งสองจ้ำพายเรือออกไปเทียบยังบริเวณถัดไปเพื่อลอบมองดูเหตุการณ์
“อ้ายเทือกนั้นมันมาจากที่ใดกัน เข้ามาช่วยอ้ายฮาริส ดูท่าพวกมันมีฝีมือมิเบา”
ขุนทองดีซึ่งซุ่มมองดูอยู่ห่าง ๆ โดยไม่ปรากฏตัวก็เอ่ยถามทนายแสนคนสนิทขึ้นมา
“มิทราบได้ขอรับ”
ขุนทองดีวางมือลงที่ดาบหมายจะเข้าไปสมทบเพื่อชำระแค้นกับรอยแผลที่จมื่นศรีสุรนาทฝากไว้ แต่ทนายแสนรีบเข้ามาขวาง
“อย่าไปเลยนะขอรับ บาดแผลท่านขุนยังมิหายดี หากได้รับบาดแผลเพิ่มก็อาจจะ..”
“นี่มึงกล้าดูแคลนฝีมือกู ว่าจะมิอาจมีชัยเหนืออ้ายฮาริสกระนั้นหรือ”
“หาเป็นเช่นนั้นไม่ขอรับ ดูจากตรงนี้ จมื่นศรีสุรนาทก็เจ็บมากโข ด้วยคมดาบของฝ่ายเรา ไม่จำเป็นที่ท่านขุนจะออกหน้า ข้ามั่นใจว่า วันรุ่งมันก็มิอาจจะลุกมาทำบุญร่วมแม่หญิงจอมนางได้ขอรับ ดีมิดีอาจจะนอนนานเป็นแรมเดือนเสียด้วยซ้ำ”
ทนายแสนเสนอความคิด
“แต่กูใคร่เห็นมันตายต่อหน้าต่อตากู ด้วยคมดาบของกูก็ยิ่งดี เพื่อชำระแค้นที่มันฝากรอยแผลไว้ที่อกของกูนี่ประไร”
ขุนทองดียกมือตบอก แต่ก็ต้องทำหน้าเบ้เมื่อเกิดความเจ็บปวดขึ้นมาครามครันเพราะดันไปตบตรงบาดแผลเข้าพอดี ในขณะที่จมื่นศรีสุรนาทก็ยังคงหันหลังชนกับมากิดแล้วต่อสู้อย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บหนัก จึงไม่สามารถต่อสู้ได้เต็มกำลังนัก
“รีบหนีไปเถิดขอรับ ทางนี้พวกข้าจะรับหน้ามันเอง”
บ่าวของเปรมร้องบอกจมื่นศรีสุรนาทเมื่อเข้ามาร่วมสมทบ
“หาได้ไม่ หากว่าข้าไปพวกเจ้ามีเพียงแค่สาม จะประมือกับพวกมันได้หรือ ซึ่งก็ไม่แน่ว่ามันมีกันเท่านี้หรือซุ่มซ่อนอยู่ที่ใด อาจจะกรูกันเข้ามาอีกก็เป็นได้ มาเถิดในเมื่อพวกเจ้ามีน้ำใจก็ขอจงร่วมแรงกันจนถึงที่สุดเถิด”
จมื่นศรีสุรนาทพูดออกมาก่อนจะทะยานเข้าใส่คนของขุนทองดีซึ่งในเวลานี้ แทบจะไม่สามารถยันกำลังของฝ่ายจมื่นศรีสุรนาทได้อีก เนื่องจากคนของเปรมก็มีฝีมืออย่างมาก
“เห็นทีฝ่ายเราจะเพรี้ยงพร้ำเสียกระมัง”
ขุนทองดีเอ่ยออกมาพร้อมวางมือลงกระชับดาบเตรียมพร้อม
“กลับเถิดขอรับ หากอยู่ต่อต้องมีคนรู้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของท่านขุน มันคงมิเป็นการดีหากเรื่องรู้ถึงหูท่านออกญาพระศรีบดินทร์ฤาชัย บิดาของท่านขุน”
ทนายแสนพยายามฉุดรั้งให้ขุนทองดีรีบหลบไป
“ข้าหายอมไม่”
ขุนทองดีเตรียมชักดาบแล้วทยานออกไป แต่ทนายแสนก็ไม่ยอม รีบรั้งเขาให้ถอยหลัง เป็นเวลาเดียวกับที่คนของขุนทองดีเริ่มล่าถอยเมื่อต่างได้รับบาดเจ็บและมีทีท่าว่าจะแพ้ให้ฝ่ายของจมื่นศรีสุรนาท
-------------------------------------------------------------------
“เขาเป็นประการใดบ้าง เจ้าจงเร่งไปไต่ถามทีเถิดทองใบ”
จอมนางร้องบอกทองใบให้เข้าไปดูอาการของจมื่นศรีสุรนาทที่ทรุดลงท่ามกลางกลุ่มของคนที่เข้าไปช่วยหลังจากที่คนของขุนทองดีหนีไป
“หนักเอาการเจ้าค่ะแม่หญิง”
ทองใบวิ่งเข้าไปดูอาการของเขาแล้วรีบลับมารายงาน
“เจ้าจงไปบอกบ่าวทั้งสามให้พาเขาไปอโรคาศาลาอย่าช้าที”
“เห็นจะไม่ได้นะขอรับแม่หญิง ด้วยเพลานี้เห็นสมควรว่าแม่หญิงควรกลับเรือนขอรับ”
หนึ่งในบ่าวที่รับหน้าที่พายเรือรีบร้องบอก
“แต่เขาเจ็บหนักเช่นนี้ จะให้ข้าใจดำได้กระไรเล่า”
นางร้องบอกแล้วรีบเดินมุ่งหน้าไปหาจมื่นศรีสุรนาทที่นอนจมกองเลือดที่ไหลออกมาจากทางแผ่นหลังนั้นไม่หยุด
“ไปอโรคยาศาลาอย่าช้าที”
นางร้องบอกทำให้จมื่นศรีสุรนาทค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เมื่อเขาเห็นดวงหน้าของนางก็คลี่ยิ้มออกมา
“หาได้ไม่ หากพี่ไปอโรคยาศาลา เรื่องคงใหญ่โต พี่นี้มิต้องการให้เจ้าคุณพ่อท่านต้องวิตกหนัก อีกแม่ท่านอาจจะสะเทือนใจ ขอเพียงได้ยาสมานแผล พี่นี้ก็คงพอจะยั้งอยู่ต่อได้”
จอมนางเหลียวมองไปรอบตัว
“ถ้าเป็นเช่นนั้นขอพวกเจ้าจงเร่งพาท่านจมื่นหลบไปบัดเดี๋ยวนี้และตั้งท่ารอข้า มิช้าข้าจะกลับไป”
จอมนางพูดจบก็รีบลงเรือโดยที่ไม่ฟังคำทัดทานของใคร นางสั่งบ่าวให้พายไปยังโรงหมอฝรั่งที่คุ้นเคย แล้วพาตัวหมอฝรั่งมาด้วยเพื่อรักษาบาดแผลให้จมื่นศรีสุรนาท
“ผู้ใดส่งพวกมันมาช่วยให้อ้ายฮาริส หรือเป็นคนของมันที่ติดตามมา”
“หาใช่ไม่ขอรับ”
หนึ่งในชายฉกรรจ์ที่ได้รีบบาดเจ็บร้องบอก เมื่อหมอชาวบ้านกำลังเร่งรักษาบาดแผลให้พวกมันในกระท่อมแห่งหนึ่งบริเวณสวนหลังบ้านของขุนทองดีเอง
“คนของนายช่างเปรม พี่ชายของแม่หญิงจอมนางขอรับ นายช่างเปรมส่งพวกมันมาคอยคุ้มกันแม่หญิง”
ชายอีกคนร้องบอก เพราะได้ต่อสู้กันอีกทั้งยังเคยเห็นหน้าเห็นตากันมาบ้างก็
“นี่แสดงว่าแม่หญิงมีใจให้อ้ายฮาริสแล้วกระนั้นหรือ ถึงได้ออกหน้าให้คนมาหนุนหลังช่วยเหลือมัน”
ขุนทองดีพูดออกมาราวกับรำพึงด้วยหัวใจที่เจ็บลึก
“ข้ามิยอมง่าย ๆ ดอกหนาแม่หญิง ข้าเฝ้ามองเจ้ามาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์จนสาวรุ่น หากข้ามิอาจสมหวัง มันผู้ใดก็มิอาจครอบครองเจ้าได้เช่นกัน ข้าต้องได้ทั้งตัวและหัวใจของแม่หญิง แม้ที่สุดหากมิได้หัวใจ ข้าต้องได้ตัว”
