ตอนที่ 17 คนสำคัญของใจใครก็ไม่อาจเทียม (ep.5)
คำตอบของหมอดูจีนทำให้ขุนทองดีต้องนิ่งอึ้งไปนาน ด้วยเขาพยายามนึกว่าใครที่เกิดร่วมสหทินชาติกันกับองค์สมเด็จพระนารายณ์
“มึงรู้หรือไม่ว่าผู้ใด”
ขุนทองดีเอ่ยถามทนายแสนที่ส่ายหน้า
“แน่แท้กระนั้นรึ”
ขุนทองดีเอ่ยถามหมอดูจีนอีกครั้ง
“เมื่อด้านหนึ่งรุ่งโรจน์อีกด้านหนึ่งก็ดับ วันดับกับวันรุ่งเป็นวันเดียวกัน เป็นบุคคลที่มีบารมีมาก มีพวกมาก”
หมอดูจีนพูดต่อ ทำให้ขุนทองดีต้องนิ่งเงียบ เขาโบกมือให้ทนายแสนรีบพาหมอดูจีนกลับไปส่งที่พร้อมมอบเงินรางวัลให้
“เห็นทีคงต้องปรึกษาท่านเจ้าคุณพ่อ”
ขุนทองดีคิดในใจ
จมื่นศรีสุรนาทกลับมาถึงเรือนก็ตรงเข้าไปหาคุณหญิงช้อยผู้เป็นมารดาทันที
“แม่ท่านทำเครื่องหวานหรือขอรับ”
“ใช่จ้ะ หิวรึ”
“ขอรับ”
เขาตอบเมื่อนั่งลงใกล้ ๆ แม่ พลางชะโงกหน้ามองดูแม่ที่กำลังหยิบจับทำโน่นนี่
“มึงไปยกช่อม่วงกับน้ำมะพร้าวอ่อนมาให้คุณพระนายเร็วเข้า”
“เจ้าค่ะ”
บ่าวที่อยู่ใกล้รีบรุดออกไป
“แม่ท่านขอรับ”
จมื่นศรีสุรนาทยิ้มให้คุณหญิงแม่
“จะรับเครื่องคาวรึ”
“ไม่ขอรับ เพียงแต่กระผมใคร่รู้ว่า” เขาพูดก่อนจะหยิบห่อผ้าสีอ่อนยื่นมาตรงหน้าของแม่
“ผ้าชนิดนี้ใช้ทำอาภรณ์ใดได้บ้างขอรับ”
คุณหญิงช้อยคลี่ห่อผ้าแล้วหยิบผ้าไหมเนื้อเนียนสีแดงทับทิมออกมาดู
“สีงามแท้ ผ้าไหมนี่มาจากที่ใดรึ”
“มาจากจีนขอรับ เพิ่งจะลงจากสำเภาเมื่อตอนย่ำรุ่ง”
คุณหญิงช้อยค่อย ๆ ช้อนสายตามองหน้าลูกชายพลางอมยิ้ม
“ให้แม่รึ”
จมื่นศรีสุรนาทยิ้มเจื่อน ๆ
“หากแม่ท่านชอบก็ได้ขอรับ”
คุณหญิงช้อยตวัดสายมองสีหน้าเขาอย่างสังเกต
“เพิ่งรู้นะว่าเดี๋ยวนี้คุณพระนายรู้จักเลือกหาผ้าผ่อนมากำนัลแม่”
คุณหญิงยังคงพูดต่อ พอดีกับบ่าวยกขนมช่อม่วงเข้ามาพร้อมน้ำมะพร้าวอ่อน ทำให้เขารีบตักทาน เพราะเกรงว่าแม่จะจับพิรุธได้
“แต่สีแบบนี้ไม่เหมาะกับคนรุ่นแม่ สีสะอาดดูหวานแบบนี้ต้องสาวรุ่น เหมาะนักที่จะเป็นสไบ ผ้าเนื้อเนียนเรียบดูละมุนตา เหมาะกับแม่สาวผิวขาวราวไข่ปลอก แต่จะหาสาวผิวขาวสวยสะอาดแบบนั้นได้ที่ใดกัน เรือนเราก็หามีสาวใดเหมาะสมไม่”
คุณหญิงช้อยเหลียวมองไปรอบตัวแล้วแสร้งปลายตามามองหน้าเขาที่อมยิ้มอย่างขวยเขิน
“ครั้นจะให้บ่าวก็ไม่เห็นสม”
คุณหญิงว่าพลางชำเลืองมองหน้าเขาแล้วอมยิ้ม
“แม่ว่า หาคนที่สมจะได้ดีกว่าเอามาเก็บไว้กระมัง”
จมื่นศรีสุรนาทคลี่ยิ้มมีท่าทีขวยเขินเล็ก ๆ สังเกตจากใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อขึ้นจนลามไปถึงใบหู ทำให้คุณหญิงช้อยนั่งหัวเราะเห็นไรฟันสีดำเงาวาววาม
“จะเอาไปกำนัลด้วยตนเองหรือจะฝากแม่ไปเล่าคุณพระนาย”
เขายิ้มกว้าง
“แม่ท่านเห็นสมควรแก่ผู้ใดแล้วหรือขอรับ”
คุณหญิงช้อย แกล้งวางสีหน้าเรียบนิ่ง
“แม่ว่าจะแวะไปกราบยายทิพย์แม่ของคุณหญิงอรในวันรุ่ง ก็เห็นสมควรว่าผ้านี้ช่างเหมาะแก่แม่จอมนางนัก ด้วยสีเนื้อของนางงดงามผุดผ่องยิ่ง รึเจ้าเห็นควรมอบแก่ผู้ใด”
จมื่นศรีสุรนาทยิ้มกว้าง
“กระผมรึจะอาจหาญเทียบสายตาของแม่ท่านได้ เมื่อแม่ท่านเห็นสมควรว่าแม่หญิงจอมนางมีผิวเนื้อที่งามสมกับผ้าผืนนี้ กระผมก็ใคร่ขอฝากแม่ท่านนำติดมือไปเป็นของกำนัลด้วยเลยนะขอรับ”
“จ้ะ”
คุณหญิงช้อยตอบรับพลางมองหน้าเขาแล้วคลี่ยิ้ม ทำให้จมื่นศรีสุรนาทรู้สึกขวยเขินหนักจนไม่อาจจะนั่งอยู่ต่อได้ จึงรีบคว้าดาบตรงกลับไปยังเรือนพักทันที
“กว่าคุณพระนายจะริรักสาวก็ปาเข้าไปยี่สิบสามขวบปีเลยนะเจ้าคะคุณหญิงท่าน”
บัวเผื่อนบ่าววัยไล่เลี่ยกับคุณหญิงเอ่ยขึ้นทำให้คุณหญิงช้อยพลอยยิ้มไปด้วยเมื่อนึกถึงจอมนางหญิงสาวแสนโสภาและผุดผ่องคนนั้น ชื่อเสียงของนางเป็นที่กล่าวขานมาหนาหูว่าทั้งสวยทั้งเก่งรอบด้าน เพราะตนเองก็ให้คนมองดูเหมือนกันว่า ลูกสาวบ้านไหนที่ยังไม่ออกเรือนและมีคุณสมบัติที่ดี
----------------------------------------------------------------------------
ขุนทองดีนั่งรอพระศรีบดินทร์ฤาชัย พ่อของเขาพลางนั่งสูบมอระกู แต่สายตาก็มองไปเห็นช้องมาศหญิงสาววัยสิบหกที่เป็นสาวรุ่นกำลังสวยงาม น้องสาวต่างแม่ของเขานั่นเอง ช้องมาศเป็นลูกของแม่อุ่นเมียอีกคนของพระศรีบดินทร์ฤาชัย
