บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 หลินเมิ่งหวันตาสว่างแล้ว

หลินฮูหยินใหญ่นัยน์ตาเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจมาก อยากจะปรบมือแล้วร้องไชโย

นางไม่ชอบหลี่จิ่นซูมาแต่ไหนแต่ไร เคยเกลี้ยกล่อมหลินเมิ่งหวันอยู่หลายครั้ง สองคนย่าหลานเกิดความไม่พอใจกันมากมาย ทำให้หลินฮูหยินใหญ่ปวดหัวจริงๆ

ไม่คิดเลยว่าหลินเมิ่งหวันจะหลุดพ้นและตาสว่างแล้ว

หลินเมิ่งหวันกล่าวต่อว่า “คืนนี้จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยพากลับมา และไม่มีการตำหนิใดๆ กับหลานเลย”

“ระหว่างทางกลับ จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเอาเสื้อคลุมมาคลุมให้หลานอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้หลานสาวได้รับลมเย็น”

หลินเมิ่งหวันก้มหน้าลงเล็กน้อย ริมฝีปากยกขึ้น ราวกับว่าลมในฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน ดอกไม้ทั่วทั้งภูเขาและทุ่งกว้างเบ่งบานสะพรั่ง

“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยบอกหลานว่า หลังจากกลับมาที่จวนแล้ว ให้หลานบอกว่าตนเองเท้าแพลง และบังเอิญพบเขา เขาจึงมาส่งหลานกลับจวน”

หลินเมิ่งหวันเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้หลินฮูหยินใหญ่

“ท่านย่า จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยละเอียดรอบคอบและคิดแทนหลานทุกอย่าง หลานคิดว่าจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเป็นคนดีมาก หลานสาวเต็มใจที่จะแต่งงานกับเขาเจ้าค่ะ!”

หลินเมิ่งหวันแก้มแดงก่ำ นัยน์ตาทั้งคู่เปล่งประกาย ท่าทางดูเหมือนหัวใจกำลังเบ่งบาน

หลินฮูหยินใหญ่ตกตะลึงและอดยิ้มไม่ได้ หัวใจที่ห้อยอยู่หล่นลง

มิน่าเล่าคืนนี้หลินเมิ่งหวันถึงได้พูดอย่างมีเหตุผลแบบนี้ ที่แท้ก็ได้รับการชี้แนะจากจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย

“เจ้าคิดได้เช่นนั้น เช่นนั้นก็เป็นเรื่องดี”

นางลุกขึ้นก้าวไปข้างหน้า และช่วยประคองหลินเมิ่งหวันให้ลุกขึ้นด้วยตนเอง

เพียงแต่……

เมื่อนึกถึงชื่อเสียงที่ไม่ดีของจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินฮูหยินใหญ่ก็ลดลงเล็กน้อย

จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยฉู่โม่หยวนเป็นพระโอรสองค์ที่หกของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน และเป็นพระโอรสองค์สุดท้องของฮองเฮา

แม้ว่าหลินเมิ่งหวันจะเป็นบุตรสาวโดยชอบด้วยกฎหมายของจวนซ่างซู แต่เมื่อนางแต่งงานกับฉู่โม่หยวน ยังคงกล่าวได้ว่าไม่อาจเอื้อม

แต่ฉู่โม่หยวนควบคุมดูแลสำนักตรวจการ วิธีการโหดร้าย ทำร้ายผู้คนมานับไม่ถ้วน นิสัยโหดเหี้ยมอำมหิตและสันโดษ

เขาเคยสังหารโหดครอบครัวของใต้เท้าฉีที่ทรยศต่อบ้านเมือง

ผู้คนหลายสิบคน ต่างใช้กฎหมายลงโทษที่แตกต่างกัน ถูกทรมานจนตายทั้งเป็น แต่ตกตะลึงที่ให้ตระกูลฉีคายความผิดออกมาอย่างหมดจดและฆ่าตายอย่างรวดเร็ว

ฉู่โม่หยวน “ออกรบจนมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว” ไม่มีใครในท้องพระโรงไม่กลัวเขา

แม้ว่าหลินฮูหยินใหญ่จะไม่ชอบหลี่จิ่นซู แต่จะให้หลินเมิ่งหวันแต่งงานกับจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย จะดีจริงหรือ?

ในขณะที่ครุ่นคิด หลินเมิ่งหวันก็กอดหลินฮูหยินใหญ่โดยตรงและอิงแอบอยู่ในอ้อมแขน

“ท่านย่า พรุ่งนี้ข้าอยากไปบ้านท่านตา และบอกท่านตาว่าข้าจะไม่ยกเลิกการแต่งงาน ท่านจะได้ไม่ต้องกังวล”

“ข้ายังอยากให้ท่านตาช่วยหาเครื่องประดับศีรษะที่สวยงามให้ด้วย และเตรียมเดิมเพิ่มอีกหน่อย”

หลินเมิ่งหวันเงยหน้าขึ้นมองหลินฮูหยินใหญ่ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวัง

แต่เบ้าตาของนางร้อนวูบชั่วขณะ และพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

ท่านตา ท่านลุง พี่ชาย ข้าคิดถึงพวกท่านเหลือเกิน

เมื่อสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดสนิทสนมอย่างกะทันหันของหลานสาว หลินฮูหยินใหญ่ก็ตกตะลึงเล็กน้อย

เนื่องจากเป็นเพราะหลี่จิ่นซู หลินเมิ่งหวันจึงไม่ได้ใกล้ชิดกับนางมานานแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงท่าทางออดอ้อนในตอนนี้เลย

การกระทำของหลินเมิ่งหวัน ทำให้หลินฮูหยินใหญ่รู้สึก “ปลื้มอกปลื้มใจ”

มือของนางสั่นเล็กน้อย แต่ก็ยังคงกอดหลินเมิ่งหวันอย่างอ่อนโยน

นางยิ้มและดุว่า “เจ้าเด็กขี้อ้อน ยังไม่ทันได้แต่งงานก็อยากเอาใจสามีแล้ว ไม่รู้จักอายเอาเสียเลย”

“แน่นอนว่าข้าอยากแต่งงานออกไปอย่างสง่างาม ท่านย่า ท่านรับปากเถอะ......”

หลินเมิ่งหวันยิ้มอย่างร่าเริง และผู้คนในห้องก็มองไปที่หลินเมิ่งหวันด้วยรอยยิ้ม

แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นความไม่สบายใจในแววตาของหลินเมิ่งหวัน

เช้าตรู่วันต่อมา หลินเมิ่งหวันสั่งให้คนผูกม้าเข้ากับรถม้า และเตรียมไปที่จวนฉิน

เมื่อคืนนางบอกกับท่านย่าว่าตัวเองจะไปที่จวนฉิน เพราะอยากให้ท่านตาช่วยหาเครื่องประดับศีรษะให้นาง

แต่นั่นเป็นเพียงข้ออ้างของหลินเมิ่งหวัน

จุดประสงค์ที่แท้จริงในการออกไปของหลินเมิ่งหวัน คือการให้ท่านตาช่วยนางหาใครบางคน

อาจารย์ของนาง หมอเทวดากู่เยว่หาน!

เพียงแต่หลินเมิ่งหวันยังไม่ทันจะออกไปข้างนอก หลินเป้ยเหยาก็พาสาวใช้เดินมาที่เรือนของหลินเมิ่งหวันอย่างช้าๆ

หลินเป้ยเหยาชุดกระโปรงพลิ้วไหว

ผมสีดำสลวยของนางทำเป็นมวยร้อยดอกไม้ ปิ่นปักผมสีทองฝังทับทิมถูกสอดเข้าไปในมวยผมของหลินเป้ยเหยาในแนวทแยงมุม

ทับทิมเม็ดนั้นขนาดเท่าลูกเดือยถูกรอยเป็นพู่ระย้ายาว ย้อยลงมาที่หน้าผากของหลินเป้ยเหยาพอดี

พู่ระย้าแกว่งไปมาเบาๆ ตามฝีเท้าของหลินเป้ยเหยา ขับผิวที่ขาวดุจหิมะของหลินเป้ยเหยา และดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างง่ายดาย

แต่เมื่อมองลงมาก็จะเห็นรอยฝ่ามือจางๆ บนใบหน้าของหลินเป้ยเหยา

นั่นเป็นรอยตบของหลินเมิ่งหวันเมื่อคืนนี้!

“น้องเมิ่งหวัน ข้าทำโจ๊กหมูฝอยเป๋าฮื้อมาให้เจ้า เจ้าดื่มตอนร้อนๆ สักชามเถอะ”

หลินเป้ยเหยามองไปที่หลินเมิ่งหวันด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงอ่อนโยน แต่ในใจเต็มไปด้วยความโกรธแค้นชิงชัง

หลินเป้ยเหยาได้ข่าวว่าวันนี้หลินเมิ่งหวันจะไปที่จวนฉิน

ดังนั้นหลินเป้ยเหยาที่ยังจำได้ว่าเมื่อคืนหลินเมิ่งหวันตบนาง แต่วันนี้นางตั้งใจตื่นแต่เช้าตรู่มาทำอาหารเช้าให้หลินเมิ่งหวันด้วยตัวเอง

อีกอย่าง หลินเป้ยเหยาแต่งกายอย่างระมัดระวัง แต่จงใจทำให้รอยตบบนใบหน้าของตัวเองชัดเจนขึ้น

นางแค่ต้องการให้หลินเมิ่งหวันเห็น และทำให้หลินเมิ่งหวันรู้สึกผิด!

หลังจากนั้นนางก็พูดถึงหลี่จิ่นซูอีกครั้ง หลินเมิ่งหวันจะต้องรีบนำของขวัญมาให้นางอย่างแน่นอน

หลินเป้ยเหยาหันหน้าไปด้านข้าง และวางกล่องอาหารลงบนโต๊ะ เสียงลูกคิดในใจระเบิด

หลินเมิ่งหวันเห็นปิ่นปักผมบนหัวของหลินเป้ยเหยาแล้ว ดวงตาหรี่ลงอย่างอันตราย และหัวใจก็บีบรัดอย่างแรง

หลินเป้ยเหยายังมั่นได้เปิดกล่องอาหาร ทันใดนั้นหลินเมิ่งหวันก็ก้าวไปข้างหน้า และดึงปิ่นปักผมของหลินเป้ยเหยาออกมา

ผมดำสลวยสยายลงมาในทันที และตกลงบนแก้มของหลินเป้ยเหยา

หลินเป้ยเหยามองไปที่หลินเมิ่งหวันด้วยความประหลาดใจ “น้องเมิ่งหวัน นี่เจ้าทำอะไร? ”

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาที่หม่นหมองของหลินเมิ่งหวัน หลินเป้ยเหยาก็เปิดสงครามเย็น

“น้องเมิ่งหวัน......เจ้า เจ้ายังโกรธข้าอยู่หรือ?”

“เมื่อคืนเป็นเพราะข้าเป็นห่วงเจ้า ถึงได้พลั้งปากพูดออกไป ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

“วันนี้ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อขอโทษเจ้า น้องเมิ่งหวัน เจ้าอย่าโกรธได้หรือไม่?”

นางอธิบายอย่างลุกลี้ลุกลน และยื่นมือไปดึงแขนของหลินเมิ่งหวัน

จากประสบการณ์ของหลินเป้ยเหยา แค่นางพูดนุ่มนวลเพียงไม่กี่คำ หลินเมิ่งหวันก็จะรีบขอโทษ

แต่คราวนี้หลินเมิ่งหวันสลัดหลินเป้ยเหยาออกด้วยความรังเกียจ

หลินเมิ่งหวันกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เจินจู ไปเชิญท่านย่ามา”

เชิญท่านย่า?

“น้องเมิ่งหวัน เจ้าจะไปเชิญท่านย่ามาทำไมทำ?”

หลินเมิ่งหวันไม่สนใจนาง เพียงแค่จับปิ่นปักผมในมือไว้แน่น

นางยับยั้งความเกลียดชังที่เพิ่มขึ้นในใจ และพูดกับเฝ่ยชุ่ยว่า “เฝ่ยชุ่ย หาคนมาเฝ้าพี่สาวใหญ่ไว้ รอให้ท่านย่ามาแล้วค่อยลงโทษ”

“น้องเมิ่งหวัน?!”

“เจ้าค่ะ! ”

เฝ่ยชุ่ยตอบรับและเดินไปข้างหน้าหลินเป้ยเหยา

“คุณหนูใหญ่ เชิญเจ้าค่ะ”

เฝ่ยชุ่ยละเอียดรอบคอบมากกว่าเจินจู นางเดาได้ไม่ยากว่าหลินเมิ่งหวันต้องการจะทำอะไร!

ไม่นานหลินฮูหยินใหญ่ก็ถูกเจินจูเชิญมา

หลินเป้ยเหยาก้าวไปข้างหน้าอย่างน้ำตาซึม ต้องการจะคำนับและฟ้อง

แต่หลินเมิ่งหวันเร็วกว่านึ่งก้าว นางคุกเข่าลงตรงหน้าหลินฮูหยินใหญ่

“ท่านย่า หลานขอให้ท่านช่วยจัดการ เพื่อขอความเป็นธรรมให้หลานและท่านแม่!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel