บทที่ 2 คนชั่วช้า (2/2)
นางไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใด เพียงแต่ปรายดวงตามองเขา ราวกับว่ากำลังหยั่งเชิงระหว่าง ‘เสแสร้งต่อไป’ หรือ ‘แสดงความเกลียด’ ออกไปดี ท้ายที่สุดนางก็เลือกที่จะส่งรอยยิ้มที่หวานหยด ทว่าแอบแฝงไปด้วยยาพิษร้ายแรงหลอกให้บุรุษเบื้องหน้าตายใจ
“อวี๋ชิงเหอ คารวะองค์รัชทายาท พระองค์ปากหวานเหลือเกินนะเพคะ” นางยอบกายลง และประสานมือด้วยกิริยาที่ตราตรึง
“นั่งลงก่อนสิ...” เขาผายมือเชื้อเชิญนางให้นั่งลง ก่อนจะดันถ้วยชาร้อนที่ส่งควันขาวให้แก่นาง
“ขอบพระทัยเพคะ พระองค์มีเรื่องอันใดหรือเพคะ ถึงได้เรียกหม่อมฉันมาดึกดื่นเพียงนี้” นางกรีดกรายปลายนิ้วหยิบถ้วยชาขึ้นจิบ ก่อนจะวางลงด้วยความแผ่วเบา และแหงนเงยดวงหน้าขึ้นถามไถ่
“ราชโองการสมรสนั้น...ข้าไม่อาจขัดพระประสงค์ของเสด็จพ่อ”
เขาเอ่ยเสียงต่ำด้วยเพราะคิดว่านางพอจะรู้เรื่องราวอยู่แล้ว ดวงตาคู่คมของบุรุษเบื้องหน้าฉายแววความเศร้าโศกอยู่ภายในนั้น เป็นสายตาที่ทำให้นางดำดิ่งกับความเสียใจที่จะต้องแต่งงานกับเซี่ยอ๋องตามราชโองการของฮ่องเต้ หากแต่ตอนนี้นางดีใจจนแทบบ้าที่จะได้แต่งงานกับเซี่ยอ๋องอีกครั้ง
“หม่อมฉันเข้าใจพระองค์เพคะ”
อวี๋ชิงเหอหลุบดวงตาลงต่ำ และแสร้งมองไปทางอื่นราวกับกำลังแสดงความเสียใจออกมาอย่างสุดซึ้ง
“เจ้าก็รู้ว่าข้าเองก็รักเจ้า เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ หากเจ้า...ช่วยข้าจัดการเซี่ยอ๋อง ข้าจะสู่ขอเจ้าเป็นชายา” เซี่ยหลานตี้โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
วาจาของเขานั้น ไม่ต่างจากครั้งก่อนเลยเลยแม้แต่น้อย หากแต่ครานี้อวี๋ชิงเหอไม่ใช่สตรีที่หัวอ่อน หลงในถ้อยคำหวานซึ้งอีกต่อไป
“พระองค์จะสังหารเซี่ยอ๋องหรือเพคะ”
นางยกมือทาบทับริมฝีปากของตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา และมีท่าทีตกใจราวกับพบเจอเรื่องที่ไม่คาดฝัน ทว่านางกลับเจอเรื่องที่ไม่คาดฝันเสียยิ่งกว่า เมื่อฝ่ามือหนาเอื้อมเข้ามาดึงรั้งฝ่ามือบางของนางเข้าไปแนบใบหน้า ที่ยามนี้นางรู้สึกเกลียดเข้าไส้
“ชู่ ๆ อย่าดังไปสิ หากเจ้าช่วยข้ากำจัดเขา ราชโองการของเสด็จพ่อก็ถือว่าถูกยกเลิก ยามนั้นเจ้าจะได้เป็นชายาร่วมเรียงเคียงหมอนกับข้า หรือว่าเจ้าไม่รักข้าแล้วหรือ อวี๋ชิงเหอ” ดวงตาคมที่อาบแฝงด้วยยาพิษทอประกายวาววับ หว่านล้อมให้นางเข้าร่วมแผนการชั่วร้าย
“แต่ท่านอ๋องเป็นน้องชายของพระองค์นะเพคะ...”
อวี๋ชิงเหอเบี่ยงใบหน้าและคว่ำริมฝีปากลงด้วยท่าทางขยะแขยง พร้อมกับดึงฝ่ามือออก ทว่าอีกฝ่ายกลับดึงฝ่ามือของนางไปอีกครั้ง
“ใช่เขาคือน้องชายของข้า แต่ก็เป็นน้องชายเพียงครึ่งสายโลหิต หากเขาคือขวากหนามที่เป็นภัยต่อบัลลังก์ของข้า ข้าก็คงต้องกำจัด และข้าก็ไม่อยากให้เขาได้เจ้าไปครอบครอง”
เซี่ยหลานตี้เชยปลายคางของนางให้สบตากับเขา ทำให้นางรู้สึกสะอิดสะเอียนจนอยากจะอาเจียนออกมา ดวงตากลมโตมองเห็นถ้วยชาที่ส่งควันฉุย นางจึงไม่รอช้าที่จะปัดมันให้ตกใส่ตักของรัชทายาทด้วยความแนบเนียน
เพล้ง
อ๊ากก
รัชทายาทใจโฉดรีบผละกายออกจากนางดั่งใจหวัง เมื่อความร้อนจากน้ำชาค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในเนื้อผ้าบริเวณกลางกายในทันที ดวงตาคู่คมตวัดมองนางด้วยความกราดเกรี้ยวอย่างลืมตัว ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนราวกับเมื่อครู่ไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้น
“มะ...หม่อมฉันขออภัยเพคะ”
นางรีบค้อมกายลงในทันที แต่ในขณะที่นางก้มหน้า ริมฝีปากบางก็แสยะยิ้มออกมาด้วยความสะใจ บุรุษเช่นเขาโดนแค่นี้ถือว่ายังน้อยไป แต่นี่เป็นการเริ่มต้นแค่เพียงเท่านั้น
“มะ...ไม่เป็นไร อวี๋ชิงเหอ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ข้อเสนอของข้าเจ้าก็นำไปไตร่ตรองให้ดี หากเจ้าแต่งงานกับข้าย่อมได้ตำแหน่งฮองเฮา มารดาของแผ่นดิน...” เขานิ่งไปเพียงแค่อึดใจเดียว ก่อนจะส่งยิ้มให้แก่นาง
อวี๋ชิงเหอก้าวเข้าไปใกล้ นางมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย และเอ่ยอย่างมั่นเหมาะ กลีบปากบางกระตุกยิ้มกว้างแล้วโน้มกระซิบข้างใบหูของเขา
“หม่อมฉันจะสมรสตามราชโองการของฝ่าบาท และหม่อมฉันก็จะทำตามปรารถนาของพระองค์ ขอพระองค์จดจำคำมั่นที่ให้แก่หม่อมฉันด้วยนะเพคะ”
“อืม ข้าสัญญา”
สีหน้าเซี่ยหลานตี้เปลี่ยนทันที เมื่ออวี๋ชิงเหอยืนยันที่จะร่วมมือกับเขา แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยสิ่งใด ร่างระหงก็หันหลังเดินจากไปเสียแล้ว
“หึ คนหน้าโง่...”
คล้อยหลังมาอวี๋ชิงเหอได้แต่เบะริมฝีปากให้กับบุรุษชั่วช้า นางปัดอาภรณ์ของตัวเองด้วยความรังเกียจที่ถูกอีกฝ่ายสัมผัสฝ่ามือ ก่อนที่นางจะรีบเดินจ้ำเพื่อออกจากสถานที่โสมมด้วยความรีบร้อน ในทุกย่างก้าวของนางหลังจากนี้ นางจะไม่เดินตามโชคชะตาอีกต่อไป แต่นางจะเปลี่ยนมัน ด้วยสองมือของตัวเอง
ทว่า ในระหว่างที่นางเดินผ่านทางเดินออกไปนั้น ปลายสายตาของนางกลับมองเห็นบุรุษร่างสูงสง่าที่ดูคุ้นตา กำลังจ้องมองนางจากระยะไกล หากนางมองไม่ผิดบุรุษผู้นั้นกำลังแค่นยิ้มส่งให้แก่นาง...
‘เซี่ยห่าวเฉิน’