บทที่ 4
บทที่ 4
เจ้าหลิ่งจิ้งคิดทบทวนข้อเสนอขององค์ชายสี่แห่งทะเลใต้ด้วยความเคร่งเครียด การมีผู้มีฝีมืออาสามาช่วยดูแลพรรคพวกและบุตรสาวถือเป็นเรื่องดี แต่จิ้งจอกเฒ่าก็ยังอดห่วงไม่ได้ว่าบุตรสาวจะสร้างปัญหาให้อีกฝ่ายหรือไม่ เอ๋าซื่อหลงเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อดี จึงแจ้งว่าอีกสามวันจึงจะมารับคำตอบแล้วขอตัวกลับไป
“ท่านพ่อ” น้ำเสียงเจ้าหลิ่งฟางเองก็มีความกังวลไม่แพ้กัน แม้ข้อเสนอนั้นจะเป็นเรื่องดีแก่บิดา แต่นางก็ไม่ได้อยากอยู่ภายใต้การดูแลขององครักษ์หน้าหวานนั่นสักเท่าไร
“ข้าอยากให้ท่านไปที่ป่าไผ่แห่งทะเลใต้” จิ้งจอกสาวเอ่ยตามตรง
“พ่อไม่อยากทิ้งเจ้า” บิดาถอนหายใจดังๆ ด้วยความกลัดกลุ้ม
“ท่านไม่ได้ทิ้งข้า การที่ท่านสำเร็จเป็นเซียนมันจะเป็นเรื่องดีกับข้าและเหล่าพี่น้อง ที่ป่าไผ่มีเจ้าแม่กวนอิมโพธิสัตว์ผู้ทรงพระเมตตา มังกรตนนั้นบอกว่าท่านสามารถชี้ทางให้ท่านพ่อพบทางสำเร็จเป็นเซียนได้เร็วขึ้น ข้าอยากให้ท่านพ่อสมความปรารถนา”
“หลิ่งฟาง” ฟังคำของบุตรสาวแล้วจิ้งจอกเฒ่าได้แต่ซึ้งใจจนพูดอะไรไม่ออก
“ข้ารู้ท่านเป็นห่วงพรรคพวกของเราและห่วงข้ามาก ที่ผ่านมาข้าอาจจะเกเรไปบ้างแต่ก็เอาตัวรอดได้ ข้ามั่นใจว่าจะสามารถดูแลพรรคพวกของเราได้เช่นกัน” สีหน้าและแววตาจิ้งจอกสาวมุ่งมั่นอย่างเอาจริงเอาจัง
“เจ้ายังเด็กนัก” จิ้งจอกเฒ่าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ท่านพ่อ ข้าอายุเก้าร้อยปีแล้วนะ โตพอที่จะรับผิดชอบทุกอย่างแทนท่านได้ ไม่ต้องห่วงข้าหรือผู้ใดทั้งนั้น”
“แล้วทำไมเจ้าไม่ไปกับพ่อ” เจ้าหลิ่งจิ้งสบตาบุตรสาว ความปรารถนาเป็นเซียนมิใช่เพียงแค่ตนเองอย่างเดียว หากหมายถึงดวงใจที่อยู่ตรงหน้าด้วย
“ข้ายังไม่พร้อมที่จะเป็นเซียน วิถีแห่งเซียนน่าเบื่อจะตาย” จิ้งจอกสาวส่ายหน้า
“แต่มันดีกับตัวเจ้าเอง” บิดาพยายามกล่อม เพราะหมายจะให้เจ้าหลิ่งฟางพ้นจากการดูถูกเหยียดหยามของผู้อื่น
“ถ้าข้าไปกับท่านแล้วใครจะปกป้องพวกพี่น้องเรา ใครจะดูแลที่นี่ ข้าอาจจะไม่ได้เก่งกาจมากนัก แต่ข้าเชื่อว่าสามารถทำหน้าที่นี้ได้ ท่านพ่อไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น เชื่อข้าสิ”
เจ้าหลิ่งจิ้งนิ่งคิด ดูเหมือนว่าบุตรสาวจะไม่พร้อมในวิถีเซียนจริงๆ ซ้ำดูเหมือนว่ามีอคติเสียด้วย การที่เอ๋าซื่อหลงมาช่วยดูแลอาจจะช่วยกล่อมเกลาจิตใจนางให้ดีขึ้นก็ได้
“ถ้าพ่อไปแล้ว องค์ชายมังกรจะมาดูแลที่นี่ เจ้าต้องอย่าดื้อกับเขานะ” บิดาเอ่ยเสียงเข้ม
“ท่านพ่อเชื่อใจเขามากแค่ไหน” จิ้งจอกสาวย้อนถาม คำของคนที่เพิ่งรู้จักจะเชื่อถือได้อย่างไรกัน
“มังกรแห่งทะเลใต้ขึ้นชื่อเรื่องรักษาคำสัญญานัก พ่อเชื่อว่าองค์ชายเอ๋าซื่อหลงต้องดูแลพวกเจ้าเป็นอย่างดีแน่” น้ำเสียงจิ้งจอกเฒ่าชื่นชมอย่างเห็นได้ชัด
“เราเพิ่งรู้จักเขา ท่านแน่ใจได้อย่างไรกัน”
“ถึงเพิ่งรู้จักแต่ก็เคยได้ยินชื่อเสียงของพวกเขามานานแล้ว ทั้งทะเลตงไห่ หนานไห่ เป๋ยไห่และชิไห่ล้วนเป็นเจ้าสมุทรที่มีคุณธรรม ยิ่งทะเลหนานไห่ด้วยแล้วบรรดาโอรสมังกรของทะเลใต้ล้วนเป็นผู้ที่มีคุณธรรมไม่แพ้บิดา การที่องค์ชายสี่ออกปากเองก็เท่ากับมั่นใจว่า สามารถดูแลเจ้าและพรรคพวกของเราได้”
เจ้าหลิ่งฟางพูดไม่ออก อยากจะเถียงว่ามังกรตนนั้นไม่ชอบหน้าตนเองสักเท่าไร คอยหาเรื่องแต่ก็พูดไม่ได้เพราะไม่อยากให้บิดาไม่สบายใจ
“ข้าจะยอมไปป่าไผ่ก็ต่อเมื่อ เจ้าสัญญาว่าจะเชื่อฟังองค์ชายสี่แห่งทะเลใต้” บิดายื่นข้อเสนอ
“ท่านพ่อ” เจ้าหลิ่งฟางขัดใจแต่ไม่กล้าพูดมาก
“ถ้าเจ้าไม่สัญญา ข้าก็จะไม่ไป” จิ้งจอกเฒ่าเมินหน้าหนีท่าทีหงุดหงิดนั้นเสีย
“ก็ได้ ข้าสัญญา” เพื่อให้เรื่องทุกอย่างจบ เจ้าหลิ่งฟางจำต้องรับคำไปก่อน แต่ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะต้องเชื่อเขาทุกเรื่อง...
ปิศาจจิ้งจอกเจี่ยซุ่นแทบล้มทั้งยืนเมื่อถูกเจ้าหลิ่งฟางซัดพลังเข้าใส่แบบไม่ทันตั้งตัว มารสาวตั้งท่าฟาดพลังใส่เป้าหมายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พลาดเนื่องจากอีกฝ่ายหลบทัน ปิศาจจิ้งจอกรุ่นใหญ่จ้องหน้าผู้ที่กล้าทำร้ายด้วยความไม่พอใจ และเตรียมตั้งรับเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ยอมหยุด
“หลิ่งฟาง เจ้าเป็นบ้าอะไร” ปิศาจจิ้งจอกเจี่ยซุ่นตะโกนถาม
“ยังมีหน้ามาถาม ไอ้ขี้ขลาด ไอ้ปิศาจผมน้อย ใจเสาะ” เจ้าหลิ่งฟางตะโกนกลับไปด้วยท่าทีโมโห
“มันจะมากไปแล้วนะ นางตัวดี เจ้าเด็กกว่าข้าหลายพันปี แต่กลับเรียกข้าไม่ให้เกียรติแถมยังด่าข้าด้วย” ปิศาจจิ้งจอกเจี่ยซุ่นเองก็ชักจะโมโหแล้ว
“ข้าอยากจะฆ่าเจ้าด้วยซ้ำ เจ้าทำให้พ่อข้าและพี่น้องต้องเดือดร้อน”
“มันไปที่ป่าหิมะจริงๆ หรือนี่” ปิศาจจิ้งจอกเฒ่าพึมพำลำพัง
“ใช่ แล้วมันก็ตายเรียบร้อยแล้ว”
“ก็ดีแล้วนี่ พ่อของเจ้าช่วยปราบมารก็เท่ากับว่าทำในสิ่งที่ดี”
“ทำไมเจ้าไม่ปราบมันเอง คุยว่าเก่งนักเก่งหนา ตัวเองฝีมือดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับโยนความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ไอ้ที่พูดมามันก็คงเป็นแค่ราคาคุยสินะ” เจ้าหลิ่งฟางเม้มปากแน่นซัดฝ่ามือใส่อีกฝ่าย
“ปากดีนัก เจ้าเด็กเมื่อวานซืน” มารจิ้งจอกเริ่มโต้กลับบ้าง
การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดไม่มีใครยอมใคร ปิศาจผมน้อยนั้นได้ชื่อว่ามีฤทธิ์มากตนหนึ่ง ส่วนเจ้าหลิ่งฟางนั้นถึงแม้พลังจะน้อยกว่า แต่นางก็จับได้ว่าจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้นั่นก็คือผมบนศีรษะ จึงจ้องเล่นงานตรงส่วนนั้นเป็นหลัก
“ไอ้ตัวดี ไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน วันนี้ถ้าข้าจัดการเจ้าไม่ได้อย่ามาเรียกข้าเจี่ยซุ่นจอมมารจิ้งจอก” เจี่ยซุ่นโกรธจัดเมื่อถูกมารรุ่นลูกดึงผมเป็นกระจุกออกมา ผมที่ว่าน้อยอยู่แล้วยิ่งน้อยไปใหญ่ ที่สำคัญบรรดาพวกที่มามุง ดูการต่อสู้ต่างพากันลอบยิ้มเมื่อตนพลาดท่า
“เอาสิ ถ้าข้ายอมให้เจ้าทำร้ายง่ายๆ ก็อย่ามาเรียกข้าว่า เจ้าหลิ่งฟาง”
การต่อสู้ดำเนินต่อไป จนหลายคนเริ่มเดือดร้อนเมื่อรัศมีการทำลายล้างเริ่มรุนแรงขึ้น จิ้งจอกเฒ่าเจี่ยซุ่นฟาดพลังใส่อีกฝ่ายไม่ยั้งด้วยความโกรธ ส่วนเจ้าหลิ่งฟางเองก็หลบหลีกได้ว่องไวไม่แพ้กัน แต่แล้วการต่อสู้ก็หยุดลงเมื่อมังกรหนุ่มแห่งทะเลใต้ปรากฏตัวขึ้น เอ๋าซื่อหลงแทรกกลางระหว่างที่ทั้งสองกำลังต่อสู้ พยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จเมื่อไม่มีผู้ใดยอมฟัง องค์ชายแห่งวังมังกรตัดสินใจเสกฟองอากาศครอบมารจิ้งจอกกับเจ้าหลิ่งฟางไว้
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องสู้กัน” เจ้าหลิ่งฟางจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยความขัดใจเมื่อถูกขัดขวาง เจี่ยซุ่นก็เช่นกัน
“อย่ามายุ่งเรื่องนี้ ข้าจะจัดการมัน” เจ้าหลิ่งฟางเอ่ย
“นี่เจ้ากล้าหรือ” เจี่ยซุ่นก็ไม่ยอมเช่นกัน
“หยุดทั้งสองตนเลย” เอ๋าซื่อหลงเอ่ยเสียงเรียบแต่ทำให้ทั้งสองหยุดนิ่ง พอจะรู้แล้วว่าทำไมถึงเกิดการต่อสู้ขึ้น ถ้าเดาไม่ผิดมารผู้ที่กำลังต่อสู้กับ เจ้าหลิ่งฟางนั้นคือต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องในป่าหิมะเมื่อวันก่อน
“แต่นางก้าวร้าวข้า” เจี่ยซุ่นรีบบอก
“ข้าจะจัดการนางให้เอง”
“ฟ้ามีตาแท้ๆ จัดการเลย นางเป็นพวกครึ่งเทพครึ่งมารที่นิสัยไม่ดี หาเรื่องพรรคพวกของข้าอยู่เป็นประจำ แถมยังทำตัวไม่น่ารักชอบบุกไปก่อกวนสวรรค์” เมื่อได้ทีจิ้งจอกผมน้อยก็รีบฟ้อง
“ถึงจะนิสัยไม่ดีเกเรไปบ้าง แต่นางก็ไม่ทำเรื่องเลวร้ายเหมือนเจ้า การกระทำของเจ้าทำให้บรรดาปิศาจจิ้งจอกรักสงบที่อาศัยในป่าหิมะ เดือดร้อนไม่ใช่เหรอ”
“ข้าไม่ได้ทำ ไอ้ปิศาจนั่นมันบอกว่าต้องการจะต่อสู้กับปิศาจจิ้งจอกเก้าหางที่เก่งกาจที่สุดซึ่งก็หมายถึงพ่อของนาง ข้าพูดตามความจริง” เจี่ยซุ่นเอ่ย
“ไอ้ขี้ขลาด เจ้าตั้งใจหาเรื่องพวกของข้าต่างหากล่ะ” เจ้าหลิ่งฟางตะโกนแทรกขึ้นมาอย่างทนไม่ได้ เจี่ยซุ่นชอบหาเรื่องนางและพรรคพวกเสมอหากมีโอกาส
“เจ้าเงียบก่อน” เอ๋าซื่อหลงดุนางมารน้อยเสียงเข้ม
“จัดการนางเลย นางร้ายกาจมาก” ปิศาจเจี่ยซุ่นยุยงเพิ่ม
“ข้าจัดการนางแน่ แล้วก็ต้องสั่งสอนเจ้าด้วย”
“ข้าไปเกี่ยวอะไรด้วย” ปิศาจจิ้งจอกเฒ่าหน้าถอดสี
“เพราะความขี้ขลาดและความคิดร้ายของเจ้า ทำให้หลายคนต้องเดือดร้อนและบาดเจ็บ ดังนั้นเจ้าก็ต้องรับผิดชอบ” มังกรหนุ่มพูดอย่างยุติธรรม
“ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด มารจิ้งจอกร้ายนั่นต่างหากไม่ใช่ข้า”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าบอกให้มันไปที่นั่น พวกเขาก็ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ใช่หรือ ดังนั้นข้าจะลงโทษเจ้าอย่างเบาๆ จงอยู่ในนั้นสักสี่ชั่วยามก็แล้วกัน” ผู้ที่ถูกลงโทษเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เจ้าหลิ่งฟางยิ้ม ถึงแม้จะไม่ถูกใจนักที่เอ๋าซื่อหลงเข้ามายุ่งเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยการตัดสินนี้ก็ทำให้คู่แค้นอีกฝ่ายอับอายได้
“ส่วนเจ้า มากับข้า” เอ๋าซื่อหลงทำลายฟองอากาศที่ครอบตัวของเจ้าหลิ่งฟางและออกคำสั่ง ก่อนที่จะตามไปนั้น นางตรงเข้าไปหามารจิ้งจอกที่ถูกฟองอากาศมังกรล้อมรอบตัวด้วยแววตาเยาะเย้ย
“มารผมน้อย อยู่ในนั้นไปสักสามสี่ชั่วยามนะ” จากนั้นก็หันไปหาบรรดาพวกที่เริ่มเข้ามามุงดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นต่อ
“นี่คือตัวอย่างของพวกขี้ขลาด ดูไว้ พวกที่ชอบหาเรื่องชอบทำให้ ชาวบ้านเดือดร้อนก็ต้องโดนแบบนี้แหละ และถ้าใครคิดจะหาเรื่องข้าคิดดูให้ดี ข้ามีผู้คุ้มครองที่นอกจากจะเป็นเทพชั้นสูงแล้ว ยังเป็นองครักษ์บนสวรรค์อีก ถ้าไม่อยากมีเรื่องอย่ามาหาเรื่องข้าจำไว้” เจ้าหลิ่งฟางได้โอกาสรีบ ป่าวประกาศ
“หยุดพูดแล้วมากับข้าได้แล้ว นางมารน้อย” องค์ชายมังกรบอกเพียงสั้นๆ จิ้งจอกสาวรีบทำตามทันที
“อย่าบอกท่านพ่อ เรื่องที่ข้าไปหาเรื่องปิศาจจิ้งจอกผมน้อยได้ไหม” เจ้าหลิ่งฟางเกรงว่าบิดาจะไม่ยอมไปที่ป่าไผ่อีก หากรู้ว่านางเอาเรื่องตัวต้นเหตุของเรื่องเมื่อวันก่อน
“ถ้าท่านพ่อรู้ต้องไม่สบายใจ ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อเป็นห่วง” จิ้งจอกสาวก้มหน้าอย่างรู้ความผิดของตนเอง
“ถ้าไม่อยากให้พ่อของเจ้าเป็นห่วงก็ควรทำตัวให้ดีกว่านี้” เอ๋าซื่อหลงเอ่ยเสียงเรียบ
“แต่มันสมควรโดนแล้ว” จิ้งจอกสาวไม่มีท่าทีสำนึก
“นี่เจ้า ยังไม่หยุดอีกหรือ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเข้ม สายตาตำหนิในที
“ถ้ามันไม่ปากมาก ไอ้มารตนนั้นจะมาหาเรื่องพ่อกับพรรคพวกของข้าไหมล่ะ” เจ้าหลิ่งฟางยังไม่หายแค้น
“แต่เจ้าก็ไม่ควรไปหาเรื่องกลับ มารจิ้งจอกตนนั้นพลังแกร่งกว่าเจ้า”
“เก่งกว่าแล้วไง มันโง่จะตาย ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่ดึงผมมันมาได้เป็นกระจุกหรอก” เจ้าหลิ่งฟางหากลัวสิ่งใดไม่
“อย่าคิดว่าตนเองฉลาดกว่าผู้อื่น เพราะมันจะทำให้พลาดสักวันหนึ่ง ผู้ที่ทะนงตัวคือผู้ที่โง่เขลาไม่ต่างจากผู้ที่เจ้ากล่าวหาหรอก สิ่งที่เจ้าทำจะยิ่งทำให้พวกนั้นไม่ชอบหน้ามากขึ้น” มังกรหนุ่มเตือนด้วยความหวังดี
“ข้าไม่สนหรอกว่าใครจะรักจะชอบ เพราะข้ามีชื่อท่านเป็นเกราะกำบังชั้นดี” จิ้งจอกสาวยิ้มเล็กน้อย
“เจ้านี่มัน เจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัวจริงๆ” เอ๋าซื่อหลงไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
“อย่ามาหาเรื่องด่าข้าได้ไหม ว่าแต่ท่านมาทำไม” เจ้าหลิ่งฟางถามถึงเรื่องสำคัญ
“มาฟังคำตอบจากพ่อของเจ้า แต่ยังไม่ทันที่จะไปถ้ำหิมะก็ต้องมาเห็นเจ้าก่อเรื่องเสียก่อน”
“บอกแล้วว่าไม่ได้ก่อเรื่อง แค่จัดการคนที่คิดทำร้ายท่านพ่อเท่านั้น”
“ไปได้แล้ว ข้าไม่อยากเสียเวลากับเจ้า” มังกรหนุ่มตัดบทเดินนำไป เห็นทีงานนี้คงต้องว่ากันอีกยาว
“ขอถามหน่อยสิ” เจ้าหลิ่งฟางถามขณะไปที่ถ้ำหิมะ
“อะไร”
“ที่ป่าไผ่ ท่านพ่อของข้าจะปลอดภัยใช่ไหม”
“ที่นั่นเป็นที่ของเจ้าแม่กวนอิม ไม่มีปิศาจหรือมารตนไหนกล้าเข้าไปก่อเรื่องแน่นอน”
“แล้วข้าไปหาท่านพ่อที่นั่นได้ไหม”
“ที่นั่นเปิดรับทุกผู้ทุกตน” ได้ฟังอย่างนี้แล้วนางค่อยรู้สึกสบายใจหน่อย และหวังว่าบิดาจะมีความสุขกับการบำเพ็ญอยู่ที่นั่น
