ตอนที่สาม อุบัติเหตุ 2
พอหนุ่มๆ กลับที่ทำงานไปสามสาวก็พากันดึงปริมรตามานั่งจับกลุ่มคุยสรวลเสเฮฮากัน สุดท้ายกลายเป็นสี่สาวที่ถูกคอกันที่สุด เพราะต่างคนต่างถูกหักอกจากผู้ชายเฮงซวยเหมือนกันหมดราวกับโชคชะตากลั่นแกล้ง
ต่างคนต่างแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน
คิมมินยอง คบผู้ชายมาแล้วสามคน แต่ละคนต่างหลอกลวงและหวังเป็นเขยตระกูลดังของหล่อนให้ได้ แฟนของมินยองแต่ละคนต่างมีผู้หญิงอื่นขณะที่คบคุณหนูเอาแต่ใจอย่างหล่อน หลังจากที่จับได้ว่าแฟนมีคนอื่นถึงสามครั้งซ้อน มินยองก็ขอเป็นโสดตลอดชีพ
คิมซูจิน สาวลูกครึ่งไทยเกาหลีที่ไม่กระดิกหูกับภาษาไทยเท่าใดนักมีประสบการณ์โดนผู้ชายท้าพนันกันว่าจะฟันหล่อนให้ได้ คนที่หล่อนคบเป็นแฟนและรักมากนั้นเป็นหนึ่งคนในวงพนันหวังฟันหล่อนด้วย หญิงสาวจับได้เพราะเขาแพ้พนันและจ่ายเพื่อนไปร้อยล้านวอนเพราะฟันหล่อนไม่สำเร็จ จากนั้นมาซูจินก็ไม่ชายตามองผู้ชายเห็นแก่ได้ที่ไหนอีก
หนักที่สุด เห็นจะเป็น ปาร์คจียัง สาวหน้าหวานที่คบกับแฟนมามากกว่าแปดปี แฟนรักและให้เกียรติหล่อนมากไม่เคยล่วงเกิน ไม่เคยนอกใจไปกับผู้หญิงคนไหน เขากับหล่อนรักกันมากจนจะแต่งงานกันอยู่รอมร่อ ถ้าเกิดเพื่อนสนิทที่สุดของว่าที่เจ้าบ่าวจะไม่เอาคลิปที่ว่าที่เจ้าบ่าวกับเพื่อนคนที่เอาคลิปมาให้นั้นเสพสุขกันอยู่อย่างถึงพริกถึงขิงมาให้ดูก่อนวันแต่ง จียังช็อคจนเข้าโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์จนงานแต่งต้องล้มเลิกแบบต่อยังไงก็ไม่ติด แน่นอนว่าผู้ชายคนไหนที่เข้ามาหล่อนก็ไม่เปิดรับเพราะว่าระแวงอยู่ตลอดว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นเกย์หรือไม่ เพราะฉะนั้นจึงตัดปัญหาด้วยการไม่คบผู้ชายอีก
ทั้งสามคนมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายอยู่ไม่กี่คน แต่ผู้ชายเหล่านั้นเป็นข้อยกเว้นที่เป็นเพื่อนกันได้ เพราะแต่ละคนก็นิสัยดี และเป็นเพื่อนกันมายาวนานซึ่งคิมิยะ องศา และลิปดาก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
ถึงตาคราวปริมรตาต้องเล่าเรื่องรันทดให้เพื่อนฟังบ้าง หล่อนเล่ายาวที่สุดเพราะทุกคนยังไม่เคยฟังเรื่องของหล่อน อดีตครูสาวเล่าเรื่องเท้าความไปตั้งแต่หล่อนเป็นลูกเจ้าของร้านอาอาหารไทยในอเมริกา หัวสมองที่ดีและฝึกฝนอย่างหนักทำให้หล่อนเรียนจบหลายสาขาวิชาแต่สิ่งที่หล่อนชอบทำคือสอนเด็กปฐมวัยโดยใช้ความรู้ของหล่อนและการทำการบ้านอย่างหนักก่อนสอนเด็กและมีจิตวิทยาที่ดีทำให้มีชื่อเสียงจนทุกคนต่างต้องการตัวหล่อนมาให้ได้
หลายโรงเรียนหรือแม้แต่มหาลัยต่างติดตามเชิญหล่อนไปร่วมงานด้วย หากแต่ปริมรตากลับแพ้ใจให้พัธนันท์ลูกค้าร้านอาหารไทยของบิดามารดาที่มาเทียวไล้เทียวขื่อหล่อนจนหล่อนยอมใจอ่อน มาอยู่ที่เมืองไทยเพื่อมาเป็นครูสอนโรงเรียนอนุบาลที่แฟนหนุ่มของหล่อนบริหารอยู่ ชื่อโรงเรียนดังขึ้นเพราะหล่อนและผู้ปกครองต่างอยากให้ลูกได้เรียนกับครูลูกไก่จนเกิดการแข่งขันและเป็นเม็ดเงินก้อนโต
จากนั้นพัธนันท์ก็เอาอกเอาใจหล่อนตลอด ประกาศว่าเป็นแฟนหล่อน แม้เขาจะไม่ค่อยดูแลหล่อนดีมากมายนักแต่คำหวานก็มีไม่เคยขาด อีกทั้งหล่อนชอบผู้ชายไทยจึงคาดหวังกับเขามากเพราะอยากมาอยู่เมืองไทยตลอดไป แต่เรื่องร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน หล่อนได้รู้ว่าพัธนันท์ติดการพนันอย่างหนัก เงินที่ยืมหล่อนไปก็เอาไปละลายในบ่อน อีกทั้งเงินส่วนของโรงเรียนอนุบาลก็ถูกดึงไปจนแทบไม่เหลือหรอ หล่อนได้รู้ว่าความรักของเขาที่มีต่อหล่อนก็เป็นสิ่งจอมปลอมเมื่อมารดาเขาเอาคลิปวีดีโอที่เขาหมั้นกับลูกเพื่อนมารดาเขาเงียบๆ มาให้หล่อนได้ดูให้ตาสว่าง
เท่านั้นยังไม่พอเลขาเก่าของชายหนุ่มก็มาหาหล่อนเพื่อเปิดเผยว่าตนเลี้ยงลูกของพัธนันท์เองด้วยตัวคนเดียวเพราะเขาไม่รับผิดชอบก็โผล่มาอีกคนในวันเดียวกัน ผู้หญิงคนนั้นมาหาหล่อนพร้อมกับข้อแม้ว่าหากยอมเป็นครูสอนลูกของนางแล้วจะเล่าเรื่องพัธนันท์ให้ปริมรตาฟัง
ปริมรตายอมสัญญาเลขาสาวจึงเล่าว่าก่อนพัธนันท์รู้จักกับปริมรตาจากสื่อต่างๆ ว่าหล่อนดังไปทั่วโลกเพราะหล่อนไอคิวสูงจนคิดค้นวิธีการสอนเด็กสร้างพัฒนาการได้มากมาย อีกทั้งยังสอนเรื่องระเบียบวินัย และเรื่องต่างๆ ได้ผลลัพธ์อย่างน่าทึ่งเพราะลูกล่อลูกชนหญิงสาวมีมาก พัธนันท์จึงให้นักสืบตามหาข้อมูลของปริมรตาจีบหล่อนแล้วชวนมาอยู่เมืองไทยและแกล้งคบกับหล่อนเพื่อดึงหล่อนทำงานด้วยมาหลายปีโดยที่หล่อนไม่ระแคะระคาย ข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับประเดประดังมาวันเดียวทำให้คนที่ไอคิวสูงกับงานแต่ไอคิวติดลบกับเรื่องความรักนั้นตาสว่างและเริ่มฉลาดขึ้นมา จากนั้นก็ขนของหนีมาด้วยความเจ็บช้ำถึงสมุยจนมาได้งานดูแลคนชะตากรรมเดียวกันกับหล่อนอย่างสามสาวเกาหลี แต่ดูท่าทางหล่อนจะอาการหนักกว่าเพื่อนเพราะแผลเพิ่งเกิดสดๆ ร้อนๆ
“แล้ว เธอเสียตัวให้แฟนหรือยัง” คิมซูจินฟังแล้วก็ส่ายหัวก่อนจะถามตรงๆ
“ยังสิ เขาไม่แตะฉันเลย คงไม่คิดอะไรกับฉันหรอก” หญิงสาวเม้มปากรู้ว่าพัธนันท์ไม่ชอบหล่อนแน่เพราะหล่อนแสนเชย คนที่เขาหมั้นด้วยนั้นเป็นสาวเปรี้ยวเข็ดฟันแถมยังมีดีกรีเป็นลูกผู้ดีเก่าในวงสังคมเดียวกันกับมารดาเขา ดูยังไงหล่อนก็สู้ฝ่ายนั้นไม่ได้ ไม่แปลกใจที่พัธนันท์จะไม่รักและไม่คิดแตะตลอดหลายปีที่คบกันมา
“ดีมาก เราสี่คนก็ยังไม่ได้เสียอะไรให้ผู้ชายห่วยๆ พวกนั้นเหมือนกัน เรามาดื่มฉลองความเวอร์จิ้น และดื่มเพื่อลืมผู้ชายเฮงซวยพวกนั้นดีกว่า” เสียงหนึ่งในสามสาวดังขึ้นและเสียงคนตอบรับก็ดังผิดปรกติเพราะระหว่างที่นั่งจับเข่าคุยกันอยู่หลายชั่วโมงนั้นมีมือดีไปควักบรั่นดีในตู้โชว์ของคิมิยะมาดื่มขณะที่เล่ามาเรื่อยๆ จนทำให้สาวคออ่อนทั้งหลายเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับความโกรธแค้นเรื่องอกหักและอยากปลดปล่อยด้วยการแดนซ์ให้ฟลอร์สะเทือนทะลุพื้นพิภพไปถึงโลกอีกฟาก
เมื่อมีคนชวนดื่ม แน่นอนว่าทุกคนต้องตอบรับแม้แต่ปริมรตา เพราะหล่อนมีหน้าที่ต้องตามดูแลสาวๆ อีกทั้งหล่อนก็อยากจะมีความสุขไปด้วยกับสาวหัวใจแข็งแกร่งสามคนนี้ เมื่อใกล้ค่ำต่างคนต่างเฮอาและเล่าเรื่องสู่กันฟังอย่างเห็นอกเห็นใจ ส่วนใหญ่จะเป็นปริมรตาที่โดนสัมภาษณ์สามสาวผู้เข้าใจเรื่องอกหักดี ฟังไปฟังมาก็แทบจะรวมตัวกันซื้อตั๋วเครื่องบินไปรุมกระทืบพัธนันท์แล้วถ้าปริมรตาไม่ห้ามก่อน
“อย่าไปแคร์เลย เขาไม่มีความสำคัญอะไรมากกับฉันขนาดนั้นหรอก ฉันจะไม่แคร์เขาให้เป็นทุกข์อีก เขาไม่ใช่แม้กระทั่งคนที่ฉันเคยรู้จัก ฉันแฮปปี้มากตอนนี้ ไม่ต้องการคิดถึงเรื่องเขาอีก”
ปริมรตาแจงกับเพื่อนๆ ทุกคนจึงเออออตามไปด้วยที่จะพากันฉลองให้กับความโชคดีของพวกหล่อนที่ผ่านพ้นผู้ชายเฮงซวยเหล่านั้นมาได้อย่างปลอดภัย
มือเล็กๆ ของหญิงสาวทั้งสี่ประสานกันเอาไว้เเละสัญญาว่าจะต่อสู้กับวันข้างหน้าไปด้วยกัน สัญญาที่จะช่วยเหลือกันหากโดนแฟนเก่าตามรังควานอุบัติขึ้นด้วยเพราะสาวเกาหลีดูท่าแล้วปริมรตาดูจะไม่ค่อยมีอำนาจ อาจถูกแฟนเก่าหาเรื่องได้ ผู้จัดการวิลล่าสาวเมาเล็กน้อยความกล้าเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัวจึงพยักหน้ารับเออออไป
“เบื่อวิลล่านี้แล้ว เราไปเมากันต่อที่ผับเถอะ นี่ก็เริ่มค่ำแล้วไปหาอะไรดื่มกันต่อดีกว่า ฉันชักหิวและอยากเปลี่ยนสถานที่ดื่มแล้วด้วย” คิมซูจินชวนเพื่อน ซึ่งต่างคนต่างเห็นด้วยสาวๆ เกาหลีทั้งหลายลุกขึ้นยืนอย่างแข็งขันแม้จะชนแก้วกันหลายต่อหลายแก้วแล้วก็ตามเพราะพวกหล่อนอยู่เมืองหนาว ดื่มเหล้าโซจูแทนน้ำได้ด้วยซ้ำจึงคอแข็งแบบที่ดื่มเหล้าได้มากๆ โดยที่ไม่เมา แต่หนึ่งสาวไทยที่ดื่มไปเล็กน้อยก็มึนแล้วนั้นก็คิดว่าตนจะไม่ดื่มอีกแต่จะไปหาอะไรทานพร้อมๆ กับแขกที่ต้องดูแลอย่างทอดทิ้งไม่ได้เพราะวงเงินอาหารมื้อเย็นนั้นอยู่ที่หล่อนซึ่งมันเป็นอภินันทนาการจากคิมิยะที่ให้เงินจำนวนหนึ่งไว้บริการเพื่อนของเขา
“งั้นเราไปกันเถอะ ฉันจะพาไปร้านอาหารเจ๋งๆ ที่มีบาร์ริมทะเลด้วย รับรองพวกเธอติดใจ” ปริมรตาพยักหน้าเชิญชวนแขกของหล่อนให้ไปด้วยกัน ใกล้ๆ วิลล่าล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยว เดินทอดน่องทางชายหาดไปนิดเดียวก็เจอร้านที่มีชื่อเสียงมากมาย วันนี้หล่อนจะยังไม่พาแขกไปทานอาหารที่ร้านของโรงแรมมโนราเพราะว่าเป็นร้านใกล้ๆ จะกินเมื่อไหร่ก็ได้ แต่วันนี้จะพาไปบาร์ดังที่เน้นความบันเทิงยามราตรีมากกว่า
“เราไปฉลองความโสดของพวกเรากัน” เสียงแว่วๆ ของสาวๆ ขณะที่เดินเลียบชายหาดไป
ตอนที่เดินออกจากวิลล่าแน่นอนว่าแต่ละคนยังเดินตรงทาง และมองทางข้างหน้าอย่างแจ่มชัดได้ด้วยสติที่ไม่ลดไปมากนัก แต่ตอนกลับไม่มีใครอาจคาดเดาได้เพราะว่าส่วนใหญ่ต่างตั้งใจไปเมากันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าผู้จัดการสาวอย่างปริมรตาจะยัดปูใส่กระด้งได้เป็นอย่างดีหรือเปล่าก็เท่านั้น
