บท
ตั้งค่า

บทที่4 ทะเลาะ

ลิลลดาต้องระหกระเหินเร่ร่อนตามมารดา ครั้งนี้จำต้องบากหน้าขอญาติแม่อยู่ โรงเรียนที่เคยเรียนก็ไกลเหลือเกิน คงจะไม่ได้มีโอกาสที่จะได้เรียนเหมือนอย่างที่เคย คิดแล้วก็น้อยใจนัก เกิดมาเป็นคน มันช่างยากเย็นแสนเข็น กว่าจะผ่านไปได้แต่ละวัน เลือดตาแทบกระเด็น

“พี่ลัดดา พี่จะมานอนกินบ้านกินเมืองแบบนี้ไม่ได้นะ!” น้ำเสียงของมะลิดังขึ้นด้วยความไม่พอใจ เมื่อได้เห็นพี่สาวของตัวเองดื่มเหล้าเมาหนัก แล้วนอนตื่นสายทุกวัน

“กูจะนอน มึงจะโวยวายทำไม?”

“พี่ควรตื่นมาช่วยฉันทำมาหากิน ไม่ใช่มานอนให้ฉันเลี้ยงดู!”

“เลี้ยงดูเหี้ยไร มึงทำงานกูก็ให้ลูกกูช่วย ไม่ใช่อยู่เปล่า ๆ รอกินซะที่ไหนล่ะ มึงควรขอบใจกูนะ ที่กูใจดีให้ลูกสาวของกูไปช่วยมึงขายของ เพราะถ้าเกิดว่าลูกกูไม่ช่วย มึงต้องเหนื่อยกว่านี้แน่นอน”

“แต่อีลินมันเป็นเด็ก และที่สำคัญมันเด็กมาก ๆ มันจะช่วยงานฉันเท่าไหร่กันเชียว”

“แต่มันก็ช่วยหรือเปล่าวะ?” ลัดดาเสียงขุ่นลุกขึ้นนั่งมองน้องสาว ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะลงรอย ทะเลาะไม่คุยกันเกือบสิบปี แต่ที่มาขออาศัยอยู่ด้วยก็เพราะไม่มีที่ไป “มึงต้องการแบบไหนอีกอีน้องเวร!”

“ก็บอกอยู่ว่ามันช่วยไม่ได้มากเพราะมันเป็นเด็ก!”

“เด็กแล้วไง มีมือมีตีน มีทุกอย่างเหมือนคนโตมีนั่นแหละ อีลินมันช่วยมึงทำงานได้ และที่สำคัญนะ ต่อให้มึงอยากให้กูไปช่วยขายของมากแค่ไหน กูก็ไปไม่ได้ เพราะว่าวันนี้กูแฮงค์ กูปวดหัว กูจะนอนพักผ่อน!” ว่าจบก็ล้มตัวนอนไม่ได้สนใจไยดีเสียงก่นด่าของน้องสาวแม้แต่น้อย มะลิมองพี่สาวก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างระอา

บ่นไปก็เท่านั้น เพราะยิ่งบ่นก็ยิ่งเหมือนสีซอให้ควายฟัง นอกจากมันจะไม่ฟังแล้ว มันยังเฉยชาและไม่สนใจอีกด้วย

เฮ้อ พูดไปก็ป่วยการ

ที่จริงมะลิไม่ได้อยากจะรับสองแม่ลูกเขามาอยู่ที่บ้านด้วยเลย เพราะเกรงว่าจะมาสร้างความเดือดร้อนทำให้รำคาญใจ แต่วันที่สองแม่ลูกมาฝนมันตกหนักแล้วทั้งสองก็ไม่มีที่ไป หล่อนก็เลยให้อยู่พักอาศัยชั่วคราว

แต่สุดท้ายคำว่าพักชั่วคราวไม่มีอยู่จริง เมื่อพี่สาวของมะลิไม่ยอมไปไหน ไม่ช่วยงานไม่ทำอะไร แต่ให้ลูกสาวอายุเพียงแค่แปดเก้าขวบเองมาช่วยทำงาน เด็กตัวเล็ก ๆ กับงานขายส้มตำ ขายลาบขายก้อย มันก็ใช่ว่าจะทำได้ง่าย ๆ เหมือนคนโต

ขายของเหนื่อยจะตาย ขนาดหล่อนเป็นผู้ใหญ่ยังแทบเอาชีวิตไม่รอด เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างลิลลดาไปช่วยขายของ ต้องเหนื่อยมากแน่นอน”

“เฮ้อ ลินก็ไปช่วยน้าขายของแล้วกัน” พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แม้จะเอ็นดูเด็กน้อยมากแค่ไหน ถ้ามีแม่อย่างลัดดา ก็คงได้แต่ถอนหายใจอย่างเอือม ๆ เพราะลัดดาเป็นแม่ที่ยอดแย่ที่สุดในโลก

ลิลลดาช่วยมะลิขายของอย่างเเข็งขัน แม้จะรู้ว่าการจะได้กลับไปเรียนแบบเดิมมันยาก หล่อนก็จะพยายามเข็มแข็ง สู้ทุกอย่างต่อไป ส่วนเรื่องเรียนก็ได้แต่หวังว่าจะมีโอกาสได้เรียนอีก เธอสัญญากับตัวเองเลยว่าเธอจะตั้งใจเรียน ให้คุ้มกับโอกาสที่เธอได้เรียนอีกครั้ง

“เอาอาหารไปให้ร้านข้าวมันไก่ท้ายซอย” มะลิยื่นถุงลาบให้

“ค่ะ” เด็กน้อยพยักหน้าแล้วหอบหิ้วถุงอาหารไปส่ง หลังจากที่ส่งอาหารกลับมาก็มาช่วยเสริฟ์อาหาร วันนี้ลูกค้าเยอะ มีหลานสาวมาคอยช่วยก็เบาแรงไปมากโข

“เอาไปเสริฟโต๊ะสาม ส่วนอีกถาดโต๊ะสอง”

“ค่ะ” เด็กน้อยพยักหน้าทำตามคำสั่งแต่โดยดี หลังจากที่ช่วยทำงานมาตลอดทั้งวัน ของที่เตรียมมาก็ขายหมดเร็ว ลิลลดารีบหยิบถาดและถ้วยไปนั่งล้างอย่างเงียบ ๆ

“อ่ะน้าให้!” มะลิยื่นเงินให้หลานสาว แม้จะเกลียดแม่ของหลาน ที่ไม่ทำงานทำการมากเพียงใด หล่อนก็อดที่จะให้ค่าตอบแทนหลานสาวไม่ได้อยู่ดี

“ขอบคุณค่ะ” เด็กน้อยยกมือไหว้อย่างสำรวม นอบน้อมถ่อมตนแตกต่างจากคนเป็นแม่ซะเหลือเกิน “เก็บไว้แล้วอย่าให้แม่เห็น เก็บไว้ซื้อขนมเก็บไว้ซื้อนมกินบำรุงร่างกายตัวเอง ถ้าแม่ของลินเห็น ก็จะเอาไปลงกับน้ำเมา เสียดายเงิน”

“ค่ะน้ามะลิ” เด็กน้อยรีบเก็บเงินไว้เป็นอย่างดี

“อยากกินก๋วยเตี๋ยวไหม เดี๋ยวน้าจะพาไปกิน”

“อืม มันแพงไหมคะ?”

“ไม่ต้องมาถามเรื่องราคาก๋วยเตี๋ยวหรอก ที่น้าบอกว่าจะพาไปกิน น้าจะเลี้ยงลินเอง ลินไม่ต้องจ่ายสักบาท”

“ค่ะน้ามะลิ” ลิลลดาเดินตามมะลิต้อย ๆ พอถึงถนนใหญ่ข้อมือเล็กของเธอก็ถูกผู้เป็นน้าคว้าแล้วพาเดินข้ามไป

“เอาเล็กน้ำตกสองชาม”

“ได้เลยครับ” พ่อค้ารีบทำก๋วยเตี๋ยว เพียงไม่นานก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำตกก็ถูกนำมาเสริฟ มันเป็นอาหารธรรมดาของคนทั่วไป แต่สำหรับเธอแล้ว มันเป็นอาหารที่แสนวิเศษ ตอนอยู่บ้านเช่าหลังเก่า ถ้าปรางแก้วไม่ซื้อมาเผื่อ ก็อย่าหวังว่าหล่อนจะได้ลิ้มรสความอร่อย เพราะมารดาไม่เคยคิดจะซื้อให้ทาน นอกจากเอาเงินไปลงขวดดื่มให้เมามายทุกวัน

กลิ่นของก๋วยเตี๋ยวหอมยั่วยวน ลิลลดามองถ้วยตรงหน้าแล้วรีบตักเข้าปาก รสชาติอร่อยจนน้ำตาไหลซึม เธออยากมีของอร่อย ๆ แบบนี่กินในทุก ๆ วัน ไม่อยากให้ท้องน้อย ๆ ของเธอต้องหิวโหยอีกแล้ว

“ไม่ปรุงเหรอลิน?”

“ไม่ค่ะ แค่นี้มันก็อร่อยมากแล้วค่ะ” เด็กน้อยเสียงเครือ มะลิมองก็ยิ่งเอ็นดู

“ถ้าไม่อิ่มเบิ้ลได้เลย วันนี้กินให้เต็มที่ไปเลย”

“ค่ะน้ามะลิ น้ามะลิใจดีที่สุดเลย”

ผ่านไปอีกหลายวัน ลิลลดาเก็บของใส่รถเข็นแล้วช่วยมะลิเข็นข้ามถนนใหญ่ที่มีรถพลุกพล่าน เด็กน้อยดีใจที่วันนี้ได้กลับบ้านเร็ว เพราะมีคนมาเหมาข้าวของที่น้ามะลิขาย

“ไปซื้อน้ำแข็งให้น้านะ น้าจะเอารถเข็นไปฝากแล้วไปบ้านก่อน ซื้อเสร็จก็รีบตามไปนะ” มะลิยื่นธนบัตรสีแดงให้

วันนี้มีคนมาทำถนนจึงไม่สามารถเข็นรถเข็นไปที่บ้านเช่าได้ มะลิจึงเลือกที่จะฝากไว้กับคนที่รู้จัก พรุ่งนี้หล่อนก็กะว่าจะหยุด เพราะไม่อยากหอบหิ้วข้าวของมาใส่รถ ดูจากลักษณะของถนนที่ทำแล้ว คงอีกหลายวันกว่าจะแล้วเสร็จ

“ค่ะ”

“ถ้าอยากกินขนมก็ซื้อกินเลย ไม่ต้องเกรงใจ”

“ค่ะน้ามะลิ” ลิลลดาพยักหน้าแล้วรีบเดินตรงไปร้านค้าขายของชำ อากาศร้อน ๆ มันทำให้เธอหงุดหงิดพิกล เกลียดอากาศหน้าร้อนเหลือเกินที่ทำให้ร้อนและเหนียวตัวอยู่ร่ำไป

“เอาน้ำแข็งสิบบาทกับน้ำแป๊บซี่ค่ะ”

“รอสักครู่นะครับ”

มะลิก้าวยาว ๆ มาที่หน้าบ้านเช่า มือเรียวเล็กชะงักเมื่อจะเปิดประตูเข้าไป เสียงครางดังแผ่ว ๆ ทำให้มะลิต้องเงี่ยหูฟัง

“อ๊า เสียวใจจะขาดแล้ว”

“ผมก็เสียวใจจะขาดแล้วเหมือนกัน พี่รู้ไหมว่าพี่เด็ดกว่าน้องสาวของพี่อีก อ๊า”

“คงเดชจ๋า เมียไม่ไหวแล้ว อ๊า”

“ผมก็ไม่ไหวแล้วครับพี่ลัดดา”

มะลิกำมือเข้าหากันด้วยความโกรธจัด หล่อนไปขายของหาเงิน ด้วยความยากลำบาก แต่ถูกไอ้ผัวชั่วกับพี่สารเลวสวมเขาให้ ทำเรื่องที่มันแสนเลวระยำอย่างไม่น่าให้อภัย

ปัง! ประตูถูกถีบเข้าไปอย่างแรง ทำให้ร่างสองร่างที่กำลังเล่นบทสวาทถึงพริกถึงขิงผละออกจากกัน ความอดทนของมะลิขาดผึงกระโดดเข้าไปถีบสามีจนหงายท้อง มือคว้าผมพี่สาวแล้วฟาดฝ่ามือตบที่แก้มนุ่มลัดดาไม่ยั้ง

“กรี๊ด!”

“กูฆ่ามึงแน่ อีพี่ชั่ว!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel