บทที่ 3
“ใช่ค่ะ ว่าแต่คุณคือ…” หญิงสาวรับคำพร้อมสำรวจคนตรงหน้า เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อน และดูจากท่าทางการวางตัวของเขามันทำให้เธอคิดได้เพียงอย่างเดียวว่าเขาคงจะเป็นคนรู้จักของรังสิมันต์ไม่ผิดแน่ ยังไม่ทันได้คำตอบอะไรอีกฝ่ายก็เอ่ยเฉลยออกมาเสียก่อนพร้อมๆ กับส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้กันอย่างเป็นมิตร
“ผมประวิทย์ครับ คุณปัญญ์ให้ผมมารับคุณเล็กไปที่ไร่ครับ” ประวิทย์เอ่ยบอกพร้อมกับสำรวจหญิงสาวตรงหน้าขึ้นลงอย่างถูกใจ นับว่าคุณหญิงอุสาร้ายไม่ใช่น้อยที่ส่งตัวเธอคนนี้มาที่นี่เพื่อมัดใจลูกชายท่าน หญิงสาวดูสวยอ่อนหวานและน่ามองมากกว่าใครคนไหนที่เคยพบเจอมา แต่แค่ความสวยอ่อนหวานเพียงอย่างเดียวคงอาจไม่พอที่จะมัดใจเจ้านายของเขาก็เป็นได้ แต่เรื่องแบบนี้หากไม่ลองสักตั้งก็คงไม่รู้คำตอบ บางทีเธออาจมีดีซ่อนอยู่มากกว่าที่ตาเห็น และเขาก็มั่นใจสายตาตัวเองว่ามองคนไม่ผิด
“ขอบคุณคุณประวิทย์มากนะคะที่อุตส่าห์มารับเล็กถึงที่นี่ ถ้างั้นเราไปกันเลยไหมคะ”
พิมพ์พิมลเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายก่อนประวิทย์จะพยักหน้ารับพร้อมอาสาช่วยหญิงสาวยกกระเป๋าเดินทางใบเล็กเดินไปยังรถกระบะคันเก่าสีแดงที่จอดรอไม่ไกลจากจุดที่เขาและเธอยืนอยู่เท่าไหร่
“ที่นี่อากาศดีจังเลยนะคะ ไม่เหมือนกรุงเทพที่มีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด” หญิงสาวเปิดฉากชวนคุยเพราะไม่อยากให้ความเงียบเข้าครอบงำภายในรถ ซึ่งคนที่ทำหน้าที่ขับก็ลอบยิ้มก่อนจะหันมาตอบ
“นี่ยังถือว่าน้อยนะครับ ถ้าถึงไร่เมื่อไหร่คุณเล็กจะหลงรักจนลืมทางกลับกรุงเทพไปเลย”
พิมพ์พิมลยิ้มรับ อยากให้ถึงที่หมายโดยเร็วเช่นกัน แต่เธอไม่ได้อยากเห็นไร่ส้มไปมากกว่าเจ้าของของมันสักเท่าไหร่ นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอหน้าเขา ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเลิกนิสัยเย็นชาปากร้ายไปมากน้อยแค่ไหน หรือบางทีอาจจะมากขึ้นกว่าเดิมจนทำให้เธออึ้งไปเลยก็ได้ ก็อย่างว่านิสัยร้ายๆนั่นน่ะแก้ยากจะตายไป
และเธอก็รู้..ว่าคนแบบนั้นคงไม่คิดเปลี่ยนแปลงตัวเองแน่ๆ
