บท
ตั้งค่า

8

“เดี๋ยวเราช่วยนะกฤช กฤชเอาน้ำอะไรดี” พร้อมสวมบทละครเพื่อนที่แสนดีต่อได้อย่างแนบเนียน จนคนที่เดินไปแล้ว

แต่หันกลับมามองต้องส่ายหน้า ยอมความเล่นละครเก่งงงง!

ในคราที่มีการจัดงานเรียบง่ายของบ้านธนทรัพย์สมบูรณ์ มักจะมีอาหารทำเองจากครัวใหญ่ กับการทำบุฟเฟต์ง่ายๆ

ให้หยิบหรือกดได้เอง เช่นปิ้งย่าง น้ำหวานและขนมที่วางเรียงเอาไว้

“เราดื่มแค่น้ำเปล่ากับกาแฟดำ จำไม่ได้รึไง” เขาตอบกลับสบายๆ เอื้อมมือไปกดนมชมพูใส่แก้วหนึ่ง

พร้อมยกขึ้นจิบทั้งๆ เพิ่งจะพูดประโยคนั้นกับเพื่อนสาวไปแท้ๆ

“จำได้ว่า ที่เอาเข้าปากไปน่ะ ไม่ใช่กาแฟดำหรือว่าน้ำเปล่านะ” ทำเป็นเสียงงอนกฤชนิดๆ แต่ก็เจือรอยยิ้มตามประสาคนที่อยากเป็นคนที่ทำให้เขาสบายใจได้ที่สุด เหมือนที่เป็นมาเสมอ

“ลองหน่อยมั้ย ใช้ได้อยู่นะ” การเชิญชวนกลับแบบสบายๆ ของเขา ทำเอาพลอยไพลินแทบจะลืมเลือนเรื่องอื่น

เพราะวินาทีที่ได้อยู่กันสองต่อสอง และผู้หญิงตรงหน้าเขามีแค่เธอเพียงคนเดียวนี้ เป็นช่วงเวลาหายาก...

นับตั้งแต่ที่มีเด็กผู้หญิงคนนั้นเข้ามา กฤชก็แทบจะไม่เคยสอดส่ายสายตาไปหาใคร เธอรู้ว่าเขาทำไปตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับเพื่อนรัก

แต่ริ้วรอยแห่งความสุขที่สะท้อนระเรื่ออยู่ในนัยน์ตาสีไม้โอ๊คของเขา มันชัดเจนเหลือเกิน ว่ามีบางความรู้สึกกำลังฟักตัวอยู่ในนั้น แบบที่เขาเองก็ไม่ได้รู้ตัว

ส่วนเธอก็พยายามที่จะหาทางปัดเป่ามันออกไป ก่อนที่จะชัดเจนขึ้นมา จนเจ้าตัวรับรู้...

เพราะความเอ็นดู สงสาร หรือแม้แต่ภาระหน้าที่กับความรักฉันชู้สาว มีแค่เส้นบางๆ กั้นอยู่เท่านั้น

“ไม่เอาด้วยหรอก เรากลัวอ้วน” พลอยไพลินเลือกที่จะยื่นแก้วไปกดชาใบเตยไม่ใส่น้ำตาล ที่มีกลิ่นหอมพองาม รสชาติพอใช้ แต่ชื่นใจได้ทุกคราที่ลิ้ม

หญิงสาววัยสามสิบสามปีผู้นี้ รักสุขภาพยิ่ง ตามวันและเวลาและวัยที่ล่วงเลยมา ทำให้รูปร่างยังคงได้รูปสวย

มีกล้ามเนื้อไร้ไขมัน รับกับผิวสีขาวนวลเหลืองเพราะมีเชื้อสายมาจากทางเหนือ

ใบหน้าศัลยกรรมไร้ที่ติ ที่บินตรงไปถึงเกาหลี ทำให้เธอยิ่งดูอ่อนกว่าวัย มองผิวเผินก็อายุอานามคล้ายคลึงกับมาระดา

แน่ล่ะ การลงทุนนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าคู่แข่งของตัวเองเป็นใคร เป็นเด็กเมื่อวานซืนที่มีข้อได้เปรียบทางด้านรูปร่างและความอ่อนวัยนี่แหละ!

“ไม่อ้วนหรอก นี่ผอมไปด้วยซ้ำ กินให้มันเยอะกว่านี้หน่อย”

“จริงเหรอ! ไม่ได้ล้อเราเล่นใช่มั้ย!” กฤชหัวเราะร่วนขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักมีทีท่าตกใจจริงจัง เหมือนคำพูดจากปากเขา มีอิทธิพลต่อเธออย่างยิ่งใหญ่

“จริง หักโหมเกินไปรึเปล่า เห็นเวทหนักมาหลายสัปดาห์” คนพูดก็พูดทั่วไปแหละ แต่คนฟังกลับเหมือนจะลอยได้

“นี่รู้ด้วยเหรอ ว่าเราเวทหนัก?”

“ก็ลงในสตอรี่ IG รัวขนาดนั้น ไม่เห็นก็แย่แล้ว” คำตอบของเขาทำเอาเธอต้องเอียงคอใหญ่

“เดี๋ยว...? เล่น IG ด้วยเหรอ ปกติมีไว้พอเป็นพิธีไม่ใช่เหรอ” เพราะรู้อย่างนั้น

เธอก็เลยไม่เคยดูเลยว่าใครมาส่องสตอรี่ IG ของตัวเองบ้าง ต่อไปเราต้องดูแล้วสินะ!

แค่คิดว่าเขามาดูความเคลื่อนไหวของตัวเอง เธอก็อยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ เสียให้ได้

“ทำไงได้ เป็นผู้ปกครองคน มันก็ต้องตามทันวัยรุ่นเขาหน่อย” ว่าพร้อมถอนหายใจ สื่อความหมายชัด ว่า ‘วัยรุ่น’ ที่ว่า หมายถึงใคร

“ลืมไป...ว่าเพื่อนเรา เขาเป็นพ่อลูกอ่อน” กฤชส่ายหน้าให้กับความพยายามตอกย้ำสถานะตัวเขาของพลอยไพลิน

เธอพยายามเตือนเขาเรื่องนี้มาเสมอ เธอห่วงเขาพอๆ กับที่คนอื่นห่วง นั่นคือเหตุผลที่เขาพยายามจะระวังทุกการกระทำ

ไม่ให้ทั้งมาระดาและตัวเองเสียหาย

“พลอยล่ะเป็นไงบ้าง ร้านรองเท้าขายดีไหม”

“ก็โอเคนะ ไปได้เรื่อยๆ แต่ก็กำลังวุ่นกับการหาแบบใหม่ พวกตัวแทนจำหน่ายมีเพิ่มขึ้น

การขายแบบออนไลน์ในระบบตัวแทนก็เลยเฟื่องฟูไปด้วย ของก็เลยระบายออกได้สบายๆ”

“ต้องเรียกเจ๊พลอยแล้วมั้งแบบนี้” ว่าติดไปทางเล่น พร้อมถามสัพเพเหระเรื่องส่วนตัวทั่วไป เพราะโอกาสที่จะได้ยืนคุยกันเป็นส่วนตัวแบบนี้ ค่อนข้างที่จะหายาก

สำหรับกฤช พลอยไพลินเป็นเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุด และไม่ว่าเธอจะคิดกับเขาเกินเลยไปเพียงใด เขาก็ต้องรักษาน้ำใจและคงสถานะนี้ไว้ตลอดไปเช่นกัน

“จะว่าไป เด็กสองคนนั่นเขาก็ดูเหมาะสมกันดีนะ...” มารตี ธนทรัพย์สมบูรณ์ หนึ่งในสะใภ้ของธนทรัพย์สมบูรณ์

เอ่ยขึ้นพร้อมเชิญชวนให้คนอื่นๆ หันไปมองการยืนสนทนากันอย่างออกรสของพลอยไพลินกับกฤช

โดยที่เด็กสาวผู้นั่งนิ่ง ฉีกยิ้มเชิงทำเป็นตั้งใจฟังผู้หลักผู้ใหญ่ ถึงกับสะดุดเล็กน้อย แต่ก็ต้องรีบเก็บอาการ

เพราะความตั้งใจของเธอคือ ทำลายแผนการทุกอย่างของคนร้ายกาจ

คนร้ายกาจที่อยู่ในคราบของคนแสนดี ที่ใครๆ ก็เห็นพ้องต้องกัน ยกเว้น...เธอนี่แหละ!

“ไม่ได้หรอก ถึงหนูพลอยจะแสนดีหรือน่ารักแค่ไหน แต่สะใภ้ของธนทรัพย์สมบูรณ์ ก็จะต้องสมบูรณ์พร้อมไปทุกๆ ด้าน”

โฉมสวรรค์ขัดขึ้นเชิงหยิ่งทะนง เพราะครอบครัวของพลอยไพลินไม่ได้ทำธุรกิจใหญ่โต เป็นแค่พ่อค้าคนกลาง ณ ตลาดค้าส่งของจังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออกเท่านั้น ไม่ได้มีหน้ามีตาเทียมทัด ธนทรัพย์สมบูรณ์แต่อย่างใด

แต่ที่ได้เข้านอกออกในที่นี่อย่างนี้ ก็เพราะว่าพี่สาวเป็นเลขาของท่านประธานใหญ่ก็เท่านั้น โอกาสที่ได้เป็นเพื่อนกับทายาทของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ

จึงเป็นโอกาสที่สูงที่สุดแล้ว คิดหวังไปเกินกว่านี้นั้นไม่ได้

“ขนาดหนูพลอยยังไม่พร้อมไปทุกๆ ด้านแล้ว คนบางคนก็คงหมดสิทธิ์เหมือนกันสินะคะ...”

หลินฟ้า ปานฤกษ์ เพื่อนสนิทของโฉมสวรรค์เอ่ยขึ้นเชิงอยากจะเอาใจเพื่อนรัก แซะเด็กที่เป็นเหมือนหนามทิ่มตำใจคนเป็นแม่มาตลอด

เพราะกลัวบุตรชายจะถูกคนครหา เพราะต้องอุปการะเด็กคนนี้

“เรียกว่าไม่มีเลย ตั้งแต่แรกจะดีกว่า” ประโยคนี้ของโฉมสวรรค์ ทำเอาทุกคนหันมามองที่มาระดาเป็นตาเดียวกัน พร้อมหัวเราะคิกคักเชิงเยาะเย้ย

“ไม่มีได้ยังไงคะ อายุ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว มีสิทธิตามกฎหมายนะคะ”

“นั่นมันสิทธิเลือกตั้ง ไม่ใช่สิทธิที่จะเป็นสะใภ้ของธนทรัพย์สมบูรณ์!” มารตีรีบแก้ให้เชิงขัน แต่ก็ติดโมโหนิดๆ ที่เด็กสาวเลือกที่จะกวนผู้ใหญ่กลับ แบบไร้มารยาท

“อันนั้นยิ่งไม่เกี่ยวกับอายุใหญ่เลยค่ะ เกี่ยวกับอย่างอื่นมากกว่า” พอได้พูดแล้วก็พูดคล่อง อย่างหลงลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังฝึกสงบปากเพื่อชนะศึกอยู่

แต่ก็ไม่ทันแล้วแหละ มันเกินกว่าที่มาระดาจะควบคุมตัวเองแล้ว

“เกี่ยวกับอะไร!” หลินฟ้ารับไม่ได้ จนต้องเปล่งเสียงดังขึ้นมา

“มีอะไรกันเหรอครับ” กฤชเดินกลับมาที่โต๊ะด้วยสีหน้าบึ้งตึง มองไปยังคนนั่งคอตรงเม้มริมฝีปาก

สู้สายตากลมโตกับพวกผู้ใหญ่แบบไม่มีมารยาทนั้น ด้วยสายตาตำหนิชัด

“ดูเด็กนี่สิตากฤช เถียงคำผู้ใหญ่ไม่ตกฟาก สอนยากสอนเย็น” โฉมสวรรค์ได้โอกาสก็รีบฟ้องบุตรชาย จนคนสอนยากสอนเย็นถอนหายใจเชิงหน่ายออกมา

ก็จะไม่ให้เธอหน่ายได้อย่างไรล่ะ เธอพยายามควบคุมตัวเองมาตลอดงาน ดันมาตกม้าตายตอนท้ายเสียได้

ใช่...เธอไม่มีหน้าไปเบื่อหน่ายใคร มากเท่าตัวเองแล้วแหละตอนนี้!

“ผมต้องขอโทษแทนน้องด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะอบรมแกให้เข้มกว่านี้ครับแม่ ขอโทษด้วยนะครับคุณอา”

ว่าพร้อมค้อมศีรษะลง และมองไปยังคนที่เอามือกอดอกเชิดใบหน้าขึ้น แต่ตวัดสายตาไปมองคนยิ้มกริ่มเชิงพึงพอใจแบบเก็บอาการ

มาระดารู้แล้ว ว่าตัวเองพลาดตรงไหน มีจุดอ่อนอะไร โดนตำหนิน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ให้คนคนนี้มาเยาะเย้ยได้ มันคือการโดนหยาม!

“มายด์ ขอโทษผู้ใหญ่เดี๋ยวนี้” เมื่อเห็นว่าเธอยังเฉยอยู่ กฤชก็ทำเสียงเข้ม ความจริงจังของเขาในเวลานี้ ทำเอาพวกผู้ใหญ่ที่ว่า ชูคอขึ้นกันใหญ่

“จะไม่ถามหน่อยเหรอคะ ว่าเรื่องมันเป็นมายังไง ใครเริ่มก่อน...”

“พี่บอกให้ขอโทษ” ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น หน้าง้ำเข้าจนแทบจะหัก ตวัดดวงตากลมโตไปสบกับเขาเชิงจะงอน

มองไปยังพวกผู้ใหญ่ที่เชิดใบหน้ายิ้มรอคำขอโทษ และโฉมสวรรค์ที่ส่งสายตาเคืองชัดมาให้

สุดท้ายก็คือพลอยไพลิน ที่ทำสีหน้าหนักใจไร้รอยยิ้มอย่างแนบเนียน ทั้งๆ ที่ภายในแทบจะหัวเราะลั่นเชิงสะใจอยู่

อย่างน้อยการพาเด็กผู้หญิงคนนี้ของเธอที่นี่ ก็บรรลุวัตถุประสงค์

“ขอ โทษ ค่ะ” เน้นคำเชิงไม่เต็มใจ ก่อนลุกขึ้นยืน เดินฉับๆ ออกจากบริเวณนี้ไป จนกฤชต้องรีบเดินตาม

เขาไม่ชอบใจที่เธอทำแบบนี้ และคิดว่าคงจะต้องสั่งสอนและตักเตือนกันให้หนักหน่อย
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel