6
บรรยากาศการรับประทานอาหารในงานเลี้ยงวันเกิดเล็กๆ ของแม่นมนี้เป็นไปอย่างราบรื่น มีเสียงพูดคุยและหัวเราะเป็นระยะ
“พอดีว่าวันนี้พี่ไทม์ต้องไปทานมื้อเย็นกับลูกค้าน่ะค่ะ ก็เลยตามมาด้วยไม่ได้” บุตรสาวคนโตของก้องเกียรติ เอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใส กิริยางามงด
รับกับชุดผ้าไหมสีขาว ที่เจ้าหล่อนมักจะสวมใส่มันอยู่เนืองๆ แม้จะไม่ใช่โอกาสสำคัญอะไรก็ตาม
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหนู แค่คุณหนูมา นมก็ดีใจมากแล้วค่ะ” มือเหี่ยวย่นของเจ้าของวันเกิด เอื้อมไปรับกล่องของขวัญชิ้นขนาดกลาง ที่ห่อด้วยกระดาษสีทองแบบเรียบหรูและดูจะราคาแพงไม่น้อย อย่างแววตาชื่นใจ
“นมสบายดีนะคะ”
“สบายดีค่ะคุณหนู คุณหนูก็ดูอวบอิ่มขึ้น ดูสวยขึ้นนะคะ” คำชื่นชมของนมใหญ่ ทำเอาทิพยวรรณต้องรีบจับแก้มตัวเองไปมา
“น้ำหนักขึ้นมาสามกิโลค่ะนม ลดยังไงก็ลดไม่ลง...งือ ใครมีวิธีช่วยบอกทิพย์ทีสิคะ” ทีท่าจะร้องไห้เหมือนเด็กของทิพยวรรณ ทำเอาคนอื่นพากันขำคิกคัก
“ก็ต้องอย่างนี้แหละ ช่วงนี้บำรุงเยอะ ก็ต้องน้ำหนักขึ้นเป็นธรรมดา แสดงว่ายาสมุนไพรที่แม่ให้รับประทาน ใช้ได้”
โฉมสวรรค์ว่าเชิงภาคภูมิใจ แววตาแสดงความรักใคร่เหมือนดังบุตรในสายเลือด
“ขอให้เป็นอย่างนั้นจริงเถอะค่ะคุณแม่ ใจเสียทุกครั้งที่เห็นประจำเดือนมาเลยค่ะ” แล้วคำพูดเชิงสดใสของผู้หญิงเรียบร้อย
ก็ทำให้เกิดเสียหัวเราะของทุกคนตามมาอีกครั้ง
ทิพยวรรณมีใบหน้าเรียวคมสมส่วน ดวงตากลมโตเป็นประกาย ขนตางอนเป็นแพรับ จมูกโด่งเป็นสันเรียวสวย
ไม่ได้พุ่งชัดเหมือนกฤช หากแต่งามสมความเป็นหญิง หากมองผิวเผิน สองพี่น้องมีความละม้ายคล้ายคลึงกัน ทิพยวรรณเหมือนกฤชใส่วิก
กฤชเหมือนทิพยวรรณตัดผมสั้น
“คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ” ผู้ที่ลงมาช้ากว่าใคร ทั้งๆ ที่ทุกคนรับประทานอาหารกันไปจนจะอิ่มแปล้แล้ว เอ่ยเสียงทุ้มกังวาน
เรียกความสนใจจากคนทั้งโต๊ะอาหารไปได้ทั้งหมด
“แหม มาขนาดนี้ นึกว่าจะไม่มาแล้วซะอีก” พลอยไพลินเอ่ยเชิงแซวพร้อมขยับพื้นที่ เชิงเชื้อเชิญให้เพื่อนชาย มานั่งเคียงข้างตน
ตีเนียนๆ เหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่แววตาที่แอบเผยความรู้สึก มีหรือคนที่สังเกตอยู่ตลอดจะมองไม่ออก
Mind: ดูสตรอเบอร์รี่ของป้ายุคเก่าสิ...
Mind: ส่งรูปแล้ว
มิหนำซ้ำ ยังแอบถ่ายรูป พร้อมส่งไปเมาท์กับเพื่อนรักที่ไปนั่งเบื่อๆ จิบไวน์บนดาดฟ้าและส่งภาพบรรยากาศมาถึงเธอเช่นกัน
Ti!cha: สตรอเบอร์รี่เชื่อมซะด้วย ยิ้มนี่หวานซะ...!
Mind: หวานจนอยากจะอ้วกออกมาให้ด้ายยย
ตอบกลับเพื่อนรัก พร้อมตวัดสายตาไปมองคนที่นั่งตามคำเชื้อเชิญของเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ด้วยทีท่าซื่อๆ ไม่เท่าทันผู้หญิง
แถมยังไม่มองมายังเธอ ที่บังเอิญนั่งตรงกันข้ามกับเขาเลยสักนิด
ญาติสนิทอีกสองสามคน ที่เป็นญาติทางฝั่งโฉมสวรรค์นั่งฝั่งเดียวกันกับมาระดาทั้งหมด โดยที่นมใหญ่เจ้าของวันเกิด
นั่งอยู่บนสุดของแถวฝั่งนั้น ติดกับทิพยวรรณและโฉมสวรรค์ผู้นั่งอยู่หัวโต๊ะ
ทุกคนทำราวกับว่า เด็กสาวผู้ไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีตัวตน ไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ แต่คนที่ไม่ได้สนใจว่าใครจะคิดกับตัวเองเช่นไร
หาได้สนใจไม่ นั่งก้มหน้าก้มตาตอบข้อความเพื่อนรักเพียงคนเดียว ด้วยใบหน้าแสนระรื่น
จนคนที่มองมาที่เธอเป็นระยะอยู่ก่อน นึกสงสัย คุยกับใครนักหนา
“ทานเยอะๆ นะคะคุณหนู เมนูนี้นมทำเองกับมือเลยค่ะ” เจ้าของวันเกิดรีบเชื้อเชิญให้กฤชได้ลิ้มรส แกงเทโพฝีมือตัวเองอย่างกระตือรือร้น
“โห ไม่ได้ทานฝีมือนมตั้งนานแล้ว ต้องรีบจัดสักจานสองจานแล้วครับ” ใบหน้าคมคายว่าอย่างสดใส เผยรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว
เด็กสาวเหลือบสายตาขึ้นมองเขาพอดีและได้สบเข้ากับรอยยิ้มนั้น
ความสว่างวาบของความเป็นเขาที่โดดเด่น ทำเอามาระดามองตาปรอย จนคนที่เหลือบมองมายังเธอพอดีอย่างพลอยไพลินเห็นเข้า
“น้องมายด์ทำไมเอาแต่เล่นมือถือแบบนั้นละจ๊ะ ผู้ใหญ่คุยกัน ก็ควรจะให้ความสนใจ ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ”
น้ำเสียงเตือนด้วยความหวังดี เหมือนออกมาจากใจ เหมือนผู้ใหญ่เตือนเด็กด้วยความเอ็นดู ทำเอาทุกคนหันมามองยังผู้ถูกเตือนเป็นตาเดียวกัน
มาระดามองโทรศัพท์มือถือในมือของตัวเองเล็กน้อย พร้อมรีบคว่ำมันลงบนโต๊ะ หันไปสบตาผู้ใหญ่ทุกคนที่มองมาด้วยสายตาเชิงตำหนิอย่างพร้อมเพรียง
โดยเฉพาะสายตาของโฉมสวรรค์ผู้ไม่ชอบใจเธอมาแต่ไหน
“นั่นสิ ทำตัวแบบนี้ คราวหลังก็ไม่ต้องมานะ” ตามมาด้วยถ้อยคำเชิงตำหนิชัด แบบที่เป็นมาเสมอ
“มายด์ขอโทษค่ะทุกคน” มาระดายกมือขึ้นไหว้เชิงนอบน้อมผิดวิสัย ด้วยแววตาที่เหมือนสำนึกผิดจริงๆ
จนทุกคนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา โดยเฉพาะ...
คนที่ตั้งใจตำหนิเธอออกไป เพื่อให้เธอเถียงคำไม่ตกฟาก อธิบายเหตุผลนานัปการออกมา ตามนิสัยปกติของเธอ
ทำไมมันถึงได้ขอโทษออกมาง่ายดายขนาดนั้น
“ดีแล้ว ทำผิดก็ต้องรู้จักขอโทษ ผมต้องขอโทษด้วยเหมือนกันนะครับ ที่ไม่ได้ดูแลพฤติกรรมน้องตั้งแต่แรก”
กฤชออกโรงคล้ายกับว่าเดินไปยืนข้างๆ เด็กสาว เชิงปกป้องและพร้อมจะรับผิดแทน จนเนื้อของคนต้นเรื่องแทบเต้น
“เอาเถอะ คุยกันเรื่องอื่นเถอะ แม่ไม่ได้ติดใจอะไร” แล้วทุกคนก็พากันไปคุยเรื่องอื่นๆ ต่อ โดยที่พลอยไพลินรีบไปผสมโรงด้วย
ส่วนกฤชก็ตักอาหารรับประทานต่อและเยินยอฝีมือแม่นมอย่างเอาใจ แต่ก็แอบมองมาที่มาระดาผู้สงบปากสงบคำ หันไปตั้งใจฟังผู้ใหญ่อย่างสงบเรียบร้อย
ไม่มีทีท่าดื้อดึงหรือแสนกวนใดๆ หลุดออกมาจากแววตาหรือกิริยา จนกฤชต้องแอบส่ายหน้า
เขาไม่ได้เชื่อหรอกว่าเจ้าหล่อนสำนึกผิดจริงๆ แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าที่เธอทำไปแบบนั้นเพื่ออะไรกันแน่