บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 คำเตือนของมู่เสี่ยวชิง

บทที่ 4

คำเตือนของมู่เสี่ยวชิง

หลี่ฉิงเซียวมาที่ห้องรับรองแขกด้วยสีหน้าไม่ดีนัก แม้นางจะสนิทกับสหายผู้นี้แต่ใช่ว่านางจะยอมให้เสียทุกอย่าง ตัวนางถูกสั่งสอนจากท่านพ่อและท่านแม่เป็นอย่างดีย่อมพอคาดเดาได้ในใจถึงการมาของสหาย

"ฮุ่ยผิง เหตุใดเจ้าถึงมาหาข้าที่จวนวันนี้ เจ้าไม่รู้หรือว่านี่เป็นเรื่องไม่สมควรนัก"

"ขะ ข้าแค่คิดถึงเจ้าเท่านั้นเอง นี่ข้าก็เพิ่งกลับมาจากอารามนอกเมืองจึงเพิ่งทราบข่าวตอนที่มาถึงจวนของเจ้าแล้ว"

'ชุนฮุ่ยผิง' บุตรีคนรองของเสนาบดีชุนกรมคลัง นางมีใบหน้างดงามหยาดเยิ้ม อายุเพียง 15 หนาวทว่าส่อเค้าความงามมิต่างจากผู้เป็นพี่สาวที่ล่วงลับไปแล้วเลย เพียงแต่นิสัยของนางค่อนข้างเอาแต่ใจมากไปเสียหน่อย ด้วยเป็นบุตรสาวคนเล็กที่มีแต่คนตามใจ คิดอ่านสิ่งใดก็ไม่รอบคอบนัก

"ชุนฮูหยินไม่ได้บอกเจ้าหรือว่าจวนของข้าเวลานี้ไม่สะดวกรับแขก"

"เหตุใดเจ้าถึงได้มาตำหนิข้าเช่นนี้เล่า ท่านแม่ข้าก็เอาแต่สวดมนต์ไม่รู้เรื่องภายนอกนักหรอก ส่วนข้าก็เพิ่งกลับมาแล้วรีบตรงมาหาเจ้าที่นี่เลย ทำไมหรือ... แค่เจ้ามีพี่สะใภ้คนใหม่ก็ลืมเลือนสหายเช่นข้าไปใช่หรือไม่ ฮึก ๆ น่าเสียใจแทนพี่สาวผู้โชคร้ายของข้ายิ่งนัก นางต้องตายไปเพราะเรื่องไม่คาดฝัน สองปีให้หลังท่านพี่เหวินซานก็ลืมเลือนพี่สาวของข้าจนหมดสิ้น แต่งงานกับสตรีอื่นไปเสียแล้ว พี่สาวของข้าช่างน่าสงสารยิ่งนัก เช่นนี้นางจะนอนตายตาหลับได้อย่างไร ฮือ ๆ"

ชุนฮุ่ยผิงร้องไห้ฟูมฟายเสียใจแทนผู้เป็นพี่สาว ที่แท้นางก็คือน้องสาวของคนรักเก่าหลี่เหวินซานนั่นเอง!

"เจ้า! พูดจาอะไรเช่นนี้ วันนี้คู่บ่าวสาวจะต้องยกน้ำชาให้ญาติผู้ใหญ่ ใครไม่รู้บ้างว่าเดิมทีประตูจวนก็จะปิดไม่ต้อนรับแขกอยู่แล้ว อีกอย่างพี่ใหญ่ของข้าจะแต่งงานใหม่มิได้เลยหรือ เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร"

หลี่ฉิงเซียวโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ นางมองดูสหายที่ร้องไห้ฟูมฟายด้วยความไม่พอใจนัก เป็นอีกฝ่ายที่ไม่รู้ความแล้วยังกล้าเอ่ยวาจาตำหนิพี่ใหญ่ของนางอีก

ครอบครัวนางต้องอยู่ในความเศร้าเสียใจมานานแค่ไหนแล้วเล่า ชุนฮุ่ยผิงเคยรู้บ้างหรือไม่ อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้พี่ใหญ่ต้องสูญเสียคนรักไป พวกนางที่รักพี่ใหญ่มิต่างกันก็เสียใจมิน้อยเลย ยิ่งพี่ใหญ่เอาแต่นึกโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง และยังเก็บตัวเอาแต่ทำงานหนักจนไม่กินไม่ดื่มร่วมหลายเดือน ครอบครัวของนางล้วนรู้สึกทุกข์ใจยิ่งนัก!

"ไม่ใช่ว่าไม่ได้ เพียงแต่คำสัญญาที่เคยให้ไว้กับพี่สาวของข้าเล่า ท่านพี่เหวินซานคงจะไม่ลืมกระมัง"

"คำสัญญาอะไรหรือ"

หวงไป๋เฟิ่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าชุนฮุ่ยผิง นางนึกสังหรณ์ใจอยู่แล้วว่าจะต้องมีอะไรเป็นแน่จึงได้ลอบขอตัวกลับเรือน แต่นางกลับเดินย้อนมาทางเรือนใหญ่ นางมาทันได้ยินคำพูดเมื่อครู่นี้ของสตรีนางนี้พอดีเลย

"เจ้าเป็นใคร?!"

ชุนฮุ่ยผิงเช็ดน้ำตาแล้วมองสตรีตรงหน้าอย่างพิจารณา ชุนหลันที่ติดตามเจ้านายสาวรีบตวาดเสียงดังก้องอย่างตำหนิ

"บังอาจ! ท่านผู้นี้คือท่านหญิงแห่งวังชินอ๋องในแดนเหนือ คุณหนูยังไม่คารวะท่านหญิงหวงไป๋เฟิ่งอีกหรือ"

"ที่แท้ก็พี่สะใภ้ของเจ้าเองสินะ" ชุนฮุ่ยผิงหันไปพูดกับหลี่ฉิงเซียว นางหันกลับมามองหวงไป๋เฟิ่งแล้วยอบกายคารวะตามมารยาท "ขออภัยท่านหญิงเจ้าค่ะ ข้าชุนฮุ่ยผิงบุตรคนรองของท่านเสนาบดีกรมคลังเจ้าค่ะ"

"ที่แท้ก็คุณหนูรองชุนนั่นเอง แล้วที่เจ้าเอ่ยเมื่อครู่นี้หมายความว่าอย่างไร ท่านพี่เคยให้คำมั่นสัญญาอะไรกับเจ้าหรือ"

"เรียนท่านหญิง นี่เป็นคำสัญญาที่ท่านพี่เหวินซานให้ไว้กับพี่สาวของข้าเจ้าค่ะ"

ชุนฮุ่ยผิงเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี นางไม่นึกให้ความเคารพหวงไป๋เฟิ่งที่มีฐานะสูงกว่าเลยแม้แต่น้อย ด้วยคิดว่าก็แค่ท่านหญิงจากแดนเหนือจะมีความสำคัญอะไร

"อ้อ... เช่นนั้นหรือ ข้าที่เป็นท่านหญิงและฮูหยินของท่านพี่คงไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้สินะ"

"เจ้าค่ะ"

หลี่ฉิงเซียวเห็นท่าไม่ดีรีบพูดแทรกขึ้นมา "เอ่อ... พี่ใหญ่เคยสัญญาว่าจะช่วยดูแลฮุ่ยผิงเจ้าค่ะพี่สะใภ้ เป็นเพียงคำสัญญาที่ให้ไว้เพราะรู้สึกผิดเท่านั้น ขอพี่สะใภ้อย่าได้คิดมากเลยนะเจ้าคะ"

"เช่นนั้นหรือ แล้วคำสัญญานั่นจะต้องทำไปจนถึงเมื่อไหร่ จนท่านพี่ของข้าแก่ชรา เจ้าแต่งงานหรือว่าเจ้าตาย!"

สายตาคมกริบอันเย็นเยียบมองชุนฮุ่ยผิงนิ่ง นางที่เคยกล้าเชิดหน้าถึงกับตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว กลิ่นอายของความสูงศักดิ์และกดข่มนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก

"ระ เรื่องนี้..."

"คุณหนูรองชุนควรทราบ ท่านพี่ของข้าบัดนี้ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว คนที่เขาควรปกป้องก็คือข้าผู้เป็นภรรยาเพียงหนึ่งเดียวของเขา ส่วนเจ้านั้นท่านพี่ของข้าก็ยังคงสามารถปกป้องเจ้าได้ แต่มันก็ต้องมีขอบเขตด้วยมิใช่ว่าจะต้องทำตราบชั่วชีวิตของเขา เจ้าลองคิดดูนะว่าถ้าหากข้ากับเจ้าตกน้ำและกำลังจะตาย ท่านพี่ของข้าจะเลือกผู้ใดระหว่างเจ้าที่เป็นน้องสาวของอดีตคนรักเก่า กับข้าซึ่งเป็นภรรยาของเขา ท่านพี่จะเลือกใครเจ้าลองตรองดูให้ดีเถิด"

"ทะ ท่าน! รังแกกันเกินไปแล้ว ฮือ ๆ"

เมื่อสู้ไม่ได้ชุนฮุ่ยผิงก็ร่ำไห้ออก และเพราะเสียงร้องไห้ของนางนั่นเองที่ได้ยินไปถึงหูของมู่เสี่ยวชิง นางเดินออกมาจากเรือนด้านในเพื่อมาดูว่าที่เรือนรับรองเกิดอะไรขึ้น

"มีอะไรเช่นนั้นหรือ เหตุใดคุณหนูรองชุนถึงร้องไห้อยู่ที่นี่" คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจ

"ฮึก ๆ หลี่ฮูหยินต้องให้ความเป็นธรรมกับข้านะเจ้าคะ ท่านหญิงเอ่ยวาจาข่มขู่ข้าเจ้าค่ะ"

ชุนฮุ่ยผิงรีบเข้าไปฟ้องมู่เสี่ยวชิง นางร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสารนัก

"จริงหรือเฟิ่งเอ๋อร์ เซียวเอ๋อร์"

"ไม่จริงเจ้าค่ะท่านแม่ พี่สะใภ้แค่เอ่ยเตือนฮุ่ยผิงเท่านั้นเองเจ้าค่ะ"

"จะว่าอย่างนั้นก็ได้เจ้าค่ะ เพราะข้าคิดว่าคำพูดของคุณหนูรองชุนนั้นจาบจ้วงท่านพี่มากเกินไป ทั้งยังเอ่ยวาจาไม่น่าฟังจนข้าอดไม่ได้ที่จะเอ่ยตักเตือนนางไปเช่นนั้นเจ้าค่ะ" หวงไป๋เฟิ่งยอมรับตามตรง

มู่เสี่ยวชิงหันไปมองชุนฮุ่ยผิง "แล้วเหตุใดคุณหนูรองชุนถึงมาที่จวนของข้าวันนี้เล่า เจ้าไม่รู้หรือว่าวันนี้จวนของข้าปิดประตูไม่ต้อนรับแขก"

"คะ คือข้า"

"ชงเหยา ไปสอบถามว่าใครเป็นคนให้คุณหนูรองชุนเข้ามาในจวน สั่งโบย 20 ไม้แล้วขายออกไปทันที โทษฐานที่ไม่รู้จักทำหน้าที่ของตนให้ดี วันนี้นายท่านสั่งแล้วว่าไม่เปิดประตูจวนต้อนรับแขก แต่ยังกล้าฝ่าฝืนเช่นนั้นก็จงไสหัวออกไปจากจวนตระกูลหลี่เสีย"

"เจ้าค่ะฮูหยินใหญ่"

น้ำเสียงอันเด็ดขาดของมู่เสี่ยวชิงทำให้ชุนฮุ่ยผิงรู้สึกหวาดกลัว นางรีบคุกเข่าขออภัยผู้อาวุโสเป็นการใหญ่

"ขะ ข้าไม่รู้ความเอง ขออภัยหลี่ฮูหยินเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอกลับจวนเลยนะเจ้าคะ"

ชุนฮุ่ยผิงไม่กล้ารั้งรออีกต่อไป การแสดงออกของมู่เสี่ยวชิงก็เป็นการบอกใบ้แล้วว่าถือหางท่านหญิงผู้นั้น ลงโทษบ่าวเมื่อครู่ก็แค่กำลังตักเตือนให้นางหยุดเสีย

"เดี๋ยวก่อนคุณหนูรองชุน ข้าขอฝากไปบอกเสนาบดีชุนด้วยว่าเร็ว ๆ นี้ข้าอาจจะไปหาเขาที่จวน เพื่อพูดคุยเรื่องที่มันค้างคามานานกว่า 2 ปีให้จบสิ้นเสียที หวังว่าเสนาบดีชุนจะอยู่รอต้อนรับข้ากับท่านพี่"

"จะ เจ้าค่ะ"

ชุนฮุ่ยผิงตัวสั่นเทิ้มด้วยความขลาดกลัว นางรีบยอบกายคารวะมู่เสี่ยวชิงและหวงไป๋เฟิ่งแล้วจากไปทันที ไม่มีแล้วน้ำตาที่ร้องไห้ออกมาเมื่อครู่นี้

"หมดเรื่องแล้ว พวกเจ้าก็ไปพักผ่อนเถิด" มู่เสี่ยวชิงหันมายิ้มให้กับทั้งสองคน

"ท่านแม่ช่างเก่งกาจยิ่งนัก แค่พูดไม่กี่ประโยคก็ปิดปากฮุ่ยผิงไปเลยเจ้าค่ะ"

"เจ้าน่ะ จะคบหากับสหายก็ดูให้ดีหน่อยเถิด สหายที่ดีจะนำพาเจ้าไปในเรื่องที่ดี ๆ แต่ถ้าสหายคนไหนที่ทำให้เจ้าทุกข์ใจก็ควรจะหลีกถอยออกมาเสีย"

"ข้าจะจดจำคำสอนของท่านแม่เจ้าค่ะ"

มู่เสี่ยวชิงยิ้มอย่างเอ็นดู บุตรสาวของนางยังเล็กนักจึงยังมองคนไม่ขาด นางจึงต้องช่วยชี้แนะเสียหน่อยเพื่อที่เซียวเอ๋อร์ของนางจะได้ไม่พลาดท่าอย่างที่นางเคยเป็นเมื่อชาติก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel