บทที่3 ลูกเขยรวย
"ฉันขอโทษ "
"ไอ้!!" กำปั้นหนักๆของพงศ์พัฒน์เสยเข้าที่มุมปากครูสเต็มแรงจนเขาร่วงกองกับพื้น คนตัวเล็กตกใจสุดขีดเมื่อเห็นบิดาลงไม้ลงมือกับผู้ร่วมชะตากรรม
"พ่อ!! อย่า!! " ร่างเล็กรีบลงไปนั่งขวางกั้น
" พ่อผิดหวังในตัวลูกมากนะขนม !! พ่อพยายามให้ขนมมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ขนมกลับดึงตัวเองหยุดอยู่กับที่ ขนมยังต้องเจออะไรอีกมาก ทำไมขนมถึงทำแบบนี้ พ่อสงสัยมาตลอด ว่าทำไมขนมถึงไม่เรียนต่อที่อังกฤษ รบเร้าอยากกลับไทย ชอบกลับบ้านดึกๆดื่น พ่อเข้าใจแล้ว แอบไปคบกันนี่เอง "
" หนูขอโทษค่ะที่ทำให้พอผิดหวัง แต่หนูกับคุณโอลิเวอร์รักกันนะคะพ่อ ความรักไม่ใช่เรื่องผิด เหมือนกับที่พ่อรักแม่ แต่พอแม่รักพ่อ พ่อก็ทิ้งแม่ของขนมไป แม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว พ่อรู้มั้ยว่าแม่ขิงทรมานแค่ไหน ฮือ...แม่ไม่สบาย พ่อก็ไม่มาดูแล พ่อทิ้งแม่ของขนม ฮือ..." เสียงสะอื้นและคำอัดอั้นตันใจพวยพุ่งออกมาจากร่างเล็กที่กำลังสั่นเทา
ความเป็นจริงที่พงพัฒน์รู้สึกผิดมาตลอดตอกย้ำจนทำให้เขาไม่สามารถลบล้างการกระทำในอดีตที่มีต่อแม่ของขนมได้ ขณะเดียวกันนั้นครูสได้ยินได้ฟังก็เริ่มสงสารลูกสาวของพงศ์พัฒน์
"ขนม แต่ว่าพ่อก็พยายาม พยามที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้มันดีขึ้น ถึงแม้ว่าขิงจะไม่ได้อยู่กับเราก็ตาม แต่ขนมเป็นทุกอย่างของพ่อนะ”
" ให้ขนมไปกับคุณโอลิเวอร์เถอะนะคะพ่อ ...ขนมอยากอยู่กับคนที่ขนมรัก เหมือนที่แม่ขิงอยากอยู่กับพ่อ แต่ว่า..."
" พ่อเข้าใจแล้ว เข้าใจความต้องการของลูก ตกลง พ่อตกลง "
"ขอบคุณค่ะพ่อ ขอบคุณค่ะ "
พงศ์พัฒน์กอดลูกสาวไว้แน่น ขณะเดียวกันก็นึกถึงขิงแม่ของขนม หญิงสาวที่เขารักและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง เขาเจอเธอหลังจากแต่งงานกับสาวิตรีได้หกเดือน พงพัฒน์กับขิงแอบคบกัน ขิงเป็นเด็กฝึกงานอยู่ในร้านอาหารของเขา
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา หลังจากเกิดเรื่องวุ่นๆ ในยามค่ำคืนที่ทุกคนหลับสนิท แต่ภายในห้องนอนของพงศ์พัฒน์ เขากลับนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยูหลายตลบจนสาวิตรีรู้สึกตัวตื่น
" นี่คุณ นอนไม่หลับหรือไงคะ "
"อืม..."
"อย่าบอกนะว่า มัวแต่คิดเรื่องยัยขนมอยู่ "
" ใช่ ผมกำลังคิดเรื่องขนม ผมไม่อยากจะเชื่อ ว่าขนมกับครูสจะรักกันถึงขั้นแต่งงานภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว มันเหมือนกับการโกหก ผมไม่เคยรู้เลยว่าขนมกับครูสแอบคบกัน มันไม่น่าเป็นไปได้ อีกอย่าง ครูสก็อายุมากกว่าขนม ลูกผมจะไม่ถูกมองว่าเป็นเด็กเสี่ยหรือไง ผมเป็นห่วงความรู้สึกของขนม ผมกลัว กลัวสายตาของคนรอบข้าง ผมไม่ควรให้มันเกิดขึ้น ผมจะล้มเลิกงานแต่ง "
"อืม..นั่นน่ะสิคะ ไม่น่าเป็นไปได้ แล้วทำไมถึงรีบแต่งถ้าพึ่งคบกัน ต้องมีอะไรแน่ๆ หรือว่า ที่รีบแต่งเพราะ..."
"เพราะอะไรคุณวิ คุณกำลังจะพูดอะไร"
"วิไม่อยากออกความเห็นหรอกค่ะเดี๋ยวจะหาว่าวิใส่ร้ายลูกคุณ "
"พูดมาคุณวิ คุณกำลังคิดอะไร "
" ก็..เอ่อ...คุณไม่สงสัยบ้างหรือคะ ว่าขนมชอบกลับบ้านดึกๆดื่น เวลาโทรไปก็ได้ยินเสียงเพลงดังหนวกหูไปหมด แล้วขนมก็ชอบบอกว่านอนบ้านเพื่อน จริงๆแล้วลูกคุณอาจจะ..เอ่อ...ฉันหมายถึงคบกับคุณครูสถึงขั้นลึกซึ้ง ฉันว่าขนมฉลาดออกค่ะที่จับคุณครูสซะอยู่หมัด แต่งงานก็ดีแล้วนี่คะ คุณตอบตกลงเพื่อนของคุณไปแล้วด้วยจะมาคิดมากอยู่ได้ นี่ถ้าขนมอยากแต่งงานก็ปล่อยไปเหอะน่าหรือจะปล่อยให้ท้องไม่มีพ่อเด็กขึ้นมามันจะยุ่งไปกันใหญ่ อีกอย่างเพื่อนของคุณอายุมากกว่าขนมก็จริง แต่ถ้าเทียบในคนวัยสี่สิบ หรือแม้แต่กับคุณ ฉันว่าเขาดูเด็กกว่าคุณเยอะเหมือนพวกดารานายแบบยังไงยังงั้น ไม่แก่เหมือนคุณเลยสักนิด ที่สำคัญ รวยมาก ตอนนี้ร้านอาหารของคุณก็แย่ ฉันว่า ได้ลูกเขยหล่อรวยแบบครูสดีจะตาย ผู้ชายแบบครูสใช่ว่าจะจับได้ง่ายๆ นี่ฉันได้ยินคนเค้าพูดกัน ว่าทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ ไฮโซเซเล็บดีใจกันยกใหญ่ ที่เมียเค้าตาย สาวๆพวกนั้นรอต่อคิวเข้าหาครูสกันทั้งนั้น แต่ผู้ชายอย่างครูสดันเข้าหายาก นั่นน่ะสินะ ยิ่งยากยิ่งอยากได้ เฮ้อ...ฉันไม่น่าเจอคุณเลยให้ตาย”
"หึ!!แล้วคิดว่าผมอยากเจอคุณหรือไง "
"นี่!!คุณพัฒน์ คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง"
"คุณเองก็รู้อยู่แก่ใจคุณวิ ว่าผมกับคุณอยู่ด้วยกันเพราะผู้ใหญ่ ต้องให้ผมย้ำมั้ยว่าผมไม่เคยรักคุณ”
"หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณพัฒน์!!"
" ผมง่วง ผมจะนอน " พงศ์พัฒน์รีบหันหลังให้แล้วปิดเปลือกตาสนิท
" ยังไงซะ ฉันก็ได้คุณมา " ~ คนตายไปแล้วยังจะอาลัยอาวรณ์มันอยู่ได้ ~
สาวิตรีมองสามีด้วยความโมโหและไม่ได้อย่างใจหวัง จากนั้นนางก็รีบล้มตัวลงนอนหันหลังให้พงศ์พัฒน์เช่นกัน
