บท
ตั้งค่า

CHAPTER 4

บทบรรยายพิเศษ: คิน

วันนี้เป็นวันแรกเลยครับที่ผมเข้ามาทำงานในโรงพยาบาลของตัวเองหลังจากเรียนจบมาได้เพียงไม่ถึงสองอาทิตย์ การเริ่มต้นเร็วน่าจะเป็นโอกาสดีมากกว่าการเริ่มต้นช้าการเรียนรู้งานมันไม่ใช่ง่ายๆ ถึงผมจะยังไม่เป็นผู้บริหารยังอยู่ในคำว่า ทายาทคนเดียว งานที่พึ่งได้เรียนรู้ไม่ถึงวันก็สามารถพิจารณาได้ว่าแม่งโคตรหนักหนาสาหัส

ดีนะที่พ่อยังเป็นผู้บริหาร ประโยคนี้ผุดขึ้นในหัวสมองของตัวเองหลายครั้งในรอบวันจริงๆ ถ้าเปรียบเสมือนตัวเองเป็นคนไข้ผมคงอาการสาหัสแล้วควรได้รับการรักษาโดยด่วนก่อนที่จะไม่ทันการ ชีวิตการทำงานเริ่มต้นขึ้นแล้วสินะการเรียนที่เรียกว่ายากมาเจออะไรแบบนี้ยิ่งยากกว่าเป็นหลายเท่าทว่าผมไม่ได้มีทางเลือกขนาดนั้นเพื่อคลายความสงสัยผมอายุมากที่สุดในกลุ่มวายร้ายสอบเทียบได้เรียนหมอตอนนั้นอายุประมาณสิบเจ็ดจึงไม่ค่อยมีช่วงเวลาในการเที่ยวมากนักเพราะความรับผิดชอบมันถูกแบกรับมาตั้งแต่เล็กจนกระทั่งเรียนจบหมออายุประมาณยี่สิบสองจากนั้นก็ไปเรียนต่อเฉพาะทางต่างประเทศจนปัจจุบันเวลาก็ได้ล่วงเลยมาเกือบสามปีครึ่งแล้ว

“หมอคินสงสัยอะไรในแผนกเราอีกไหมครับ?”

ตรงหน้าผมเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองคนเก่งของโรงพยาบาลที่มีประสบการณ์การรักษาแบบโชกโชนมานักต่อนักแล้ว เขาเป็นคนที่ให้ความรู้ชี้แจงผมทุกอย่างไม่มีการกักคุณหมอไชยยัน ใบหน้าที่อายุประมาณเกือบห้าสิบมีรอยยิ้มเป็นมิตร

“ไม่แล้วครับคุณหมอ”

“ว่าแต่หมอคินดูเพลียๆ นะครับ”

ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ พร้อมทั้งใช้มือลูบไปทางท้ายทอยแก้เขิน ผู้ชายด้วยกันดูออกว่าเมื่อคืนผมไปทำอะไรมามันก็เป็นเรื่องอย่างเคยนั่นก็คือเที่ยวนั้นแหละครับ

“ก็...”

ก๊อกๆ ก๊อกๆ

แกร็ก!

“อาหมอคะ...”

เสียงเล็กแหลมหยุดไปเมื่อผมหันหน้าไปก็พบว่าเป็นนาซี ผมยอมรับว่ารู้จักเธอประมาณหนึ่งแต่มันก็หลายปีผ่านมาแล้วส่วนเธอดูตกใจมากนะที่เจอผมในห้องนี้ คุณหมอไชยยันเป็นอาของเธอผมจับใจความได้ว่านาซีมาเอาเอกสารให้แม่แต่เธอไม่ทักทายผมเลยสักคำ ดูเหมือนว่าจะคิดว่าผมเป็นเพียงธาตุอากาศที่ไม่มีตัวตนด้วยซ้ำไปแต่มันก็เหมาะสมกับคนอย่างผมแล้วแหละจะทำอย่างไรได้ผมจึงได้แต่นั่งเงียบๆ อยู่แบบนั้น

จนกระทั่งไม่นานผมก็ได้ยินนาซีพูดเป็นนัยๆ ภาษาบ้านๆ ว่าผมเสือกไปพูดกับอาของเธอแบบประมาณว่าเข้ามาตัดหน้าผมไม่รู้นะว่านาซีได้นัดอาของตัวเองไว้หรือเปล่าอีกอย่างคุณหมอไชยยันบอกผมว่าคุยได้มีเวลาว่างซึ่งผมคิดว่าเธอยังไม่รู้เลยว่าความจริงในข้อนี้มานานนักนาซีก็ได้กลับไปส่วนผมก็คงได้เวลาเหมือนกัน

“งั้นผมไม่รบกวนดีกว่าครับ ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ”

“ไม่เข้าใจสามารถปรึกษาได้ตลอดนะครับหมอคิน” รอยยิ้มส่งให้ผม

“ต้องมาแน่ๆ ครับ”

หลังจากออกมาแล้วสายตามันก็เห็นแผ่นหลังเล็กของคนรู้จักแบบแว๊บๆ จึงไม่รีรอที่จะตามไป ผมตามนาซีแบบไม่ติดหนักดีหน่อยที่เธอเลือกเบี่ยงออกทางด้านหลังการเดินจ้ำเอาๆ เหมือนเกือบวิ่งนั้นมันไม่ตลกหรอกสำหรับผม

เธอคงจะรีบอยากให้ออกไปให้พ้นจากกลิ่นของโรงพยาบาลมากกว่ากระทั่งผมคิดว่าถึงเวลาแห่งการทักทายจึงรีบความต้นแขนเล็กเพื่อรู้ว่ายังไงนาซีต้องหันใบหน้ามา

“ยังเหมือนเดิมเลยนะ”

มันเป็นประโยคแรกที่ผมเอ่ยกับคนตรงหน้าส่วนคู่สนทนาของผมดูเหมือนจะตกใจจนดวงตาเบิกกว้างมากกว่าปกติ

“นาย!”

“เจอหน้าไม่คิดจะทักทายกันเลยหรือไง?”

หลังจากจบประโยคนี้สายตาจิกกัดของนาซีในตอนแรกก็ปรับเปลี่ยนเป็นสายตาแห่งการเยาะเย้ยแสดงออกมาแบบชัดเจนเธอแกะมือผมออกจากต้นแขนด้วยความใจเย็น

“ไม่จำเป็นอะไรกับชีวิตขนาดนั้น” การเชือดแบบนิ่มๆ มันเหมือนจะเจ็บปวดมากแต่อีกทางหนึ่งก็สมกับผมดีทว่าประโยคนี้มันกับมีต่อ “เพราะนายมันไม่ได้สำคัญ...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel