บท
ตั้งค่า

บทที่1.

ปานไพลินไม่คุยกับลุงศักดิ์และทำท่าปั้นปึงใส่ และยังไม่ยอมให้เงินลุงศักดิ์ไปใช้หนี้ด้วย หล่อนทำมึนตึงไม่พูดไม่จากและหลบหน้าเขา ทำให้ผู้สูงวัยกลัดกลุ้มและยิ่งโดนพวกของเสี่ยป้อมโทร. มาข่มขู่ก็ยิ่งเครียด ชายสูงวัยนั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียวแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มย้อมใจ ก่อนจะเดินออกจากร้านประจำที่ตนมักมาดื่มบ่อยๆ ร่างสูงโปร่งที่ผอมลงกว่าเดิมมากเซน้อยๆ และด้วยความที่มีอาการมึนๆ อยู่ทำให้เขาสะดุดขาตัวเองจนเกือบจะล้มหากว่าไม่มีมือของใครมาพยุงไว้

“โอ๊ะ.. ขอบคุณมากครับ” แม้จะมึนเมาเล็กน้อย แต่ด้วยนิสัยของคนที่มีอัธยาศัยดี ลุงศักดิ์จึงเอ่ยขอบคุณเจ้าของมือที่หวังดี ก่อนจะเงยหน้ามองว่าคนที่ช่วยตนเป็นใคร

แต่เมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาเคร่งขรึมเรียบเฉยสวมแว่นสีดำและข้างๆ เขามีชายอีกสองคนยืนขนาบข้างท่าทางดุดัน ลุงศักดิ์ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอรู้สึกหายมึนหายเมาเป็นปลิดทิ้ง

“ดื่มหนักไปนะคุณศักดิ์..” คำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นการทักทายกันปกติ แต่น้ำเสียงเย็นๆ และดวงตาคมกริบเมื่อไร้แว่นสีดำปกปิดทำให้ปานศักดิ์รู้สึกเย็นสันหลังวาบๆ

“อะ เอ่อ ครับคุณดอม” ดอม คือเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขาอีกคน และดอมน่ากลัวกว่าไอ้เสี่ยป้อมเป็นไหนๆ เพราะเสี่ยป้อมยังต้องยอมหลีกทางให้ ดอม สกุลเดชเดโช โมซาลาซ หนุ่มลูกครึ่ง อิตาลี สวิสฯ ไทย ผู้เป็นเสมือนหนึ่งเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลของจังหวัดนี้ ในอดีตต้นตระกูลของดอมคือผู้ทรงอิทธิพลและเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่บุกเบิกพัฒนาจังหวัดนี้

ต้นตระกูลของเขาเป็นที่นับหน้าถือตา เป็นผู้นำชุมชน เป็นนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ และยังเป็นเจ้าของธุรกิจต่างๆ มากมายทั้งในไทยและเมืองนอก เรียกได้ว่าดอม คือทายาทตระกูลที่ร่ำรวยมหาศาล และทรงอิทธิพล ชี้นกเป็นนก หรือจะชี้นกแล้วบอกว่าเป็นไม้ก็ไม่มีใครขัดแย้ง และที่สำคัญ ดอมเนื้อหอมมาก สาวๆ ต่างอยากเป็นผู้หญิงของดอมกันทั้งนั้น แต่ชายหนุ่มวัยสามสิบเศษคนนี้ก็ยังไม่ลงเอยกับหญิงสาวคนไหน มีแค่คูควงไปวันๆ เท่านั้นพอใจก็คบหากันชั่วครู่ชั่วคราว สมใจอยากก็จากกันไปโดยดีและไม่มีหญิงสาวคนไหนมาเรียกร้องอะไรจากเขาเพราะว่า ได้ ไปจนพอแล้วนั่นเอง หรือหากไม่พอใจจะเรียกร้องมากกว่าที่เขาให้ ผลสุดท้ายก็จะไม่ได้อะไรเลยแม้แต่เศษสลึงเดียว...

“มีเวลาคุยกันหน่อยไหม คุณศักดิ์”

“เอ่อ มะ มีครับ” แม้ใจอยากจะปฏิเสธว่าไม่อยากมีเวลา และไม่อยากคุย แต่เขาไม่มีทางจะปฏิเสธดอมได้...

“งั้นเชิญที่รถ..” ดอมผายมือให้ ลุงศักดิ์กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออีกครั้งก่อนจะเดินไปที่รถหรูของเขาซึ่งมีคนเปิดประตูไว้รอ...

ปานไพลินชะเง้อมองทางจนคอจะยืดยาวเป็นยีราฟพลางลุกขึ้นเดินไปเดินมาอยู่หน้ารั้วบ้านพักของหล่อนซึ่งอยู่ติดกับรีสอร์ตและมีทางเข้าออกอีกด้าน

“ไปไหนของเขานะ ลุงศักดิ์นะลุงศักดิ์ ทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยเชียว..” แม้จะทำทีเมินหมางผู้เป็นลุงแต่หล่อนก็อดห่วงไม่ได้ กลัวว่าแกจะน้อยใจแล้วไปทำอะไรโง่ๆ ปานไพลินผุดลุกผุดนั่งอยู่หน้าบ้านทั้งง่วงและเหนื่อย แต่ก็อยากรอผู้เป็นลุงกลับมา ได้เห็นแกกลับมาก็จะได้ไปนอน.. หญิงสาวคิดแล้วปิดปากหาวหวอดๆ

“คุณป่านคะ วิวขอตัวไปนอนก่อนได้มั้ยคะ” วิลาวัลย์ เด็กสาวนักศึกษาที่ทำงานกับหล่อนมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลายจนตอนนี้ก็เรียนมหาวิทยาลัยปีที่สามแล้วเอ่ยขึ้นทั้งขยี้ตาไปมาอย่างง่วงงุน

“วิวไปนอนเถอะจ้ะ ปิดห้องดีๆ ล่ะ”

“ค่ะคุณป่าน” วิวเป็นเด็กขยันและรักดี หล่อนจึงให้วิวเข้ามานอนเป็นเพื่อนในบางวันโดยให้ค่าจ้าง เพื่อให้วิวได้มีทุนการศึกษาและดูแลยายที่แก่แล้ว วันนี้วิวมีรายงานและมาให้หล่อนสอนภาษาอังกฤษ ปานไพลินจึงวิวนอนที่บ้านด้วย ซึ่งวิวเองก็มานอนที่บ่อยๆ จนกลายเป็นบ้านหลังที่สองของวิวไปแล้ว

เสียงรถไม่คุ้นหูดังแว่วมาทำให้คนที่กำลังจะเคลิ้มหลับอยู่ที่เก้าอี้หวายตัวใหญ่ลุกพรวดพราดขึ้นชะเง้อมองแล้วต้องขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นว่ารถไม่คุ้นตาและยังหรูหราราคาแพงลิบมาจอดหน้าบ้านของตน ปานไพลินจึงเดินที่ประตูรั้วอย่างสงสัยและเป็นนึกห่วงคนที่กำลังก้าวลงมาจากรถ

“ลุงศักดิ์.. ลุง..” หญิงสาวเอ่ยเรียกผู้เป็นลงที่เดินคอตกมายืนหน้ารั้ว หล่อนรีบเปิดประตูรั้วออกไปประคองผู้เป็นลุงเข้าบ้าน และอดมองไปยังรถหรูคันนั้นไม่ได้ แต่เพราะแสงไฟหน้ารถมันสว่างจ้าทำให้หล่อนต้องยกมือป้องดวงตาไว้ก่อนจะรีบพาลุงของตนเข้าบ้านและปิดประตูรั้วใส่กลอนล็อกกุญแจอย่างแน่นหนาและหันไปมองรถที่กำลังเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ อีกครั้ง

“ลุงไปไหนมารู้ไหมว่าป่านเป็นห่วง” เมื่อพากันเข้ามาในบ้านและเปิดบ้านอย่างแน่นหนาแล้วปานไพลินก็หันมาพูดกับลุงศักดิ์ด้วยสีหน้ากังวล

“ห่วงเรอะ หึ.. ห่วงตายล่ะไม่เห็นจะพูดด้วยกันสักคำ”

ลุงศักดิ์กอดอกเชิดหน้าทำปากยื่นเหมือนเด็กๆ ปานไพลินยิ้มน้อยๆ ไม่ได้เห็นท่าทางแบบนี้ของลุงมานานมาก และเวลางอนหล่อนทีไรลุงศักดิ์ก็จะทำท่าแบบนี้ล่ะ

“ก็ลุงทำตัวไม่น่ารักนี่นา”

“งั้นก็ไม่ต้องมารัก”

ลุงศักดิ์ทำเมินหน้าหนีอย่างเด็กๆ ปานไพลินจึงเดินมาหยุดตรงหน้าแก แกก็หันหน้าหนี ปานไพลินก็เดินไปตรงหน้าแกอีก แกก็ทำท่างอนๆ ปานไพลินหัวเราะเบาๆ

“กินไรมายัง ป่านทำข้าวผัดแหนมไว้ให้ จะกินมั้ยเดี๋ยวป่านอุ่นให้”

“ไม่กิน..”

“อย่างอนป่านเลยน่า ทำท่าแบบนี้ไม่ได้ดูน่ารักหรอกนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel