บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

“ไง...แม่หัวขโมยตัวน้อยๆ” คำทักทายของคนตรงหน้ายิ่งจะสร้างความงุนงงสับสนให้แก่หญิงสาวมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว หัวขโมยอย่างงั้นเหรอ เขากำลังเข้าใจอะไรผิดอย่างมหันต์ หล่อนไม่เคยแม้แต่จะคิดขโมยของๆ ใครเลยสักครั้งในชีวิตแค่คิดยังไม่กล้า และเขาก็ไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาตนเองโดยไร้ซึ่งหลักฐานแบบนี้ด้วยเช่นกัน

“เกรงว่าคุณคงจะเข้าใจอะไรผิดแล้วนะค่ะมิสเตอร์ ดิฉันไม่ใช่ขโมย!!”

ชญาวีร์ตอบเสียงสูงก่อนจะเชิดใบหน้ารั้นๆ ขึ้นเพื่อแสดงจุดยืนของตนเองให้คนตรงหน้าได้เห็นอย่างชัดเจนที่สุด เพราะมันคือความจริงทุกคำที่เอ่ยบอก ตลอดชีวิตที่ผ่านมาแม้จะต้องอยู่อย่างยากลำบากแค่ไหนแต่หล่อนก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะคิดขโมยของๆ คนอื่น ไม่มีเลยสักครั้งที่จะคิดทำเรื่องที่เสียศักดิ์ศรีเช่นนั้นได้!!

“โอ้ว! นี่ถ้ามีขโมยคนไหนในโลกยอมรับซึ่งๆ หน้าว่าตัวเองเป็นขโมย โลกนี้คงจะน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยนะครับว่าไหม” คำตอบยียวนกวนโทสะของคนเบื้องหน้ายิ่งทำให้ชญาวีร์หมดสิ้นคำพูดจะตอบโต้ เขาไม่ฟังคำเธอแต่กลับใส่ร้ายไม่ยอมหยุด

“ไหนล่ะค่ะหลักฐาน คุณจะมากล่าวหาคนอื่นลอยๆ โดยไร้ซึ่งหลักฐานไม่ได้หรอกนะค่ะมิสเตอร์ บ้านนี้เมืองนี้มีกฎหมาย”

“และบังเอิญว่าผมก็ดันอยู่เหนือกฎหมายเสียด้วยสิ หลักฐานคุณคงจะทำลายไปแล้ว ผมคงเอาผิดอะไรกับคุณไม่ได้มากนักนอกเสียจากการสั่งสอนและขอค่าเสียหายนิดๆ หน่อยๆ ให้ได้ชื่นใจเท่านั้น”

คำพูดที่ว่าน่ากลัวแล้วนั้นยังเทียบไม่ได้ครึ่งกับแววตาของเขาที่กำลังใช้โลมเลียเรือนร่างของหญิงสาวตรงหน้าเลยสักนิด ก่อนนัยน์ตาคมกริบจะไปหยุดที่เรียวขาสวยของหล่อนช้าๆ และนั่นทำให้หญิงสาวเข้าใจได้อย่างชัดเจนแล้วว่าจุดประสงค์ของคำพูดประโยคนั้นของเขามันหมายถึงอะไร...

“หยุดความคิดของคุณเอาไว้แค่นั้นเถอะนะคะ...ดิฉันยังขอยืนยันเหมือนเดิมว่าคุณกำลังเข้าใจผิดอย่างมหันต์กับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น!!”

“แต่อันที่จริงจะว่าไป...รูปร่างหน้าตาอย่างคุณไม่น่าทำอาชีพแบบนี้เลย ยังมีงานดีดีที่แทบจะไม่ต้องเปลืองแรงรอรับหากคุณยอมเลือกเสียใหม่...”

ไร้เหตุผลที่จะเอ่ยบอกอีกต่อไป เพราะคนๆ นี้แทบจะไม่รับฟังคำพูดของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว เขายังคงยืนกรานด้วยน้ำเสียงที่เย้อหยิ่งและหนักแน่นเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงว่าหล่อนนั้นคือหัวขโมย

และงานดีดีที่เขาหมายถึงนั้น แน่นอนว่าชญาวีร์รู้ได้ในทันทีถึงความหมายของมันเมื่อมือหนาของเขาค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาตะปบเนินขาเรียวสวยของหล่อนอย่างตั้งใจ ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัวก่อนจะตวาดเสียงแข็งด้วยน้ำเสียงที่โมโหอย่างหนักให้กับการกระทำที่ป่าเถื่อนของเขา...

“คุณจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะค่ะ! ในเมื่อหลักฐานก็ไม่มี พยานสักคนที่เห็นว่าฉันขโมยของๆ คุณก็ไม่มี ดิฉันเกรงจะต้องขอตัวและภวนาให้เราอย่าได้พบเจอะเจอกันอีกเลย!!”

สิ้นเสียงหวานที่ดังอย่างถือสิทธิ์ ร่างเล็กก็ลุกพรวดจนมือหนาใหญ่หลุดล่วงออกไปจากต้นขาของตนในทันที แต่เพียงก้าวเดินไปได้ไม่กี่ก้าวร่างของหล่อนกลับถูกกระชากอย่างแรงให้ต้องหันกลับมาเผชิญหน้ากับคนบ้าอำนาจอีกครั้งเข้าจนได้...

“ไม่เคยมีผู้หญิงหน้าไหนกล้าเดินหนีผม!!” คาร์ลเค้นเสียงที่จงใจแสดงให้อีกฝ่ายได้เห็นถึงความไม่พอใจกับท่าทีของหล่อนอย่างชัดเจนที่สุด

“ก็มีแล้วนี่ยังไงล่ะค่ะ ฉันควรจะภูมิใจดีไหมที่ไม่ตกเป็นหนึ่งในผู้หญิงพวกนั้นที่ลุ่มหลงไปกับหน้าตาและเงินทองของคุณ”

“อวดดี ปากเก่ง!! คุณคงไม่รู้สินะว่ากำลังคุยกับใครอยู่!”

คาร์ล ไดม่อนคอร์ฟตวาดถามดังลั่นก่อนจะกดแนบร่างเล็กที่กำลังพยายามดิ้นรนอย่างหนักด้วยร่างกายกำยำของตนเอง ยิ่งหล่อนออกแรงดิ้นเขาก็ยิ้งแทรกร่างกายของตนเองให้เบียดเสียดแนบชิดมากขึ้นไปอีกราวกับจะจงใจทำให้หล่อนได้สำนึกว่าเรี่ยวแรงเท่ามดแค่นี้ไม่มีทางเลยที่จะเอาชนะตนเองได้

“คุณจะเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากที่ไหนมันก็เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับฉัน ปล่อยค่ะ!!”

ทว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เพราะนอกจากเขาจะไม่ยอมปล่อยตามคำขอแล้วนั้น ร่างสูงใหญ่ยังกดทับร่างบางจนโอนเอียงลงไปนอนราบกับโซฟาสีแดงเพลิงที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ก่อนที่ตัวเขาจะตามมาคร่อมร่างของเจ้าหล่อนเอาไว้ด้วยท่าคุกเข่าก่อนจะเอ่ยเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงยียวนทันที...

“ท่านี้ก็ไม่เลวแหะ คุณนี่ก็ซาดิสไม่เบาเลยนี่น้ำหวาน...”

“คนเลว!!! คุณไม่มีสิทธิ์ดูถูกฉันแบบนี้นะค่ะ ปล่อยนะ!!”

“ดูถูกงั้นเหรอ...อะไรมันทำให้คุณคิดว่าผมกำลังดูถูกคุณ หรือคุณจะบอกว่าไอ้ที่เที่ยวมาเดินเตร่ในบ่อนที่เต็มไปด้วยคนรวยมากมายไม่ได้มาเพราะอยากจะขาย...” คำดูถูกดูแคลนของเขามันช่างร้ายกาจ

ชญาวีร์ไม่เคยเจอใครที่จะสามารถดูถูกหล่อนทั้งคำพูดและการกระทำในเวลาเดียวกันเช่นนี้มาก่อนในชีวิต เขามันเลวร้าย และเธอก็เกลียดนักเชียวคนที่มีแต่เงินไร้ซึ่งสมองแบบนี้ การมีเงินมากมายแค่ไหนก็ไม่ได้เป็นการแสดงว่าเขาสูงส่งกว่าหล่อนเสียหน่อย หากรวมทรัพย์สมบัติทุกชิ้นที่เขามีแล้วนำมันมาหักลบกับนิสัยเลวร้าย คำพูดที่ชอบดูถูกคนอื่นนั้นสุดท้ายผลที่ได้คงจะเหลือเพียงศูนย์เท่านั้น!

“ว่ายังไงสาวน้อย...สรุปว่าจะขายหรือไม่ขาย!!”

“ถึงฉันจะขาย!! คุณก็ไม่ใช่ลูกค้าที่ฉันจะขายให้ค่ะ และไม่มีวันนั้นด้วย!!”

“ทำไม!! หรือเพราะกลัวว่าผมจะจ่ายให้คุณไม่คุ้มเสียหรือไง“ ยิ่งได้ยินคำพูดที่หลุดออกมาจากปากคนตรงหน้า ชญาวีร์ก็ยิ่งเกลียดชังเขาขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีเหตุผลว่าทั้งชีวิตเธอจะสามารถเกลียดใครสักคนได้รวดเร็วเช่นกับคนตรงหน้านี้

“เปล่าค่ะ แต่เพราะคุณคงจะเป็นพวกที่ชอบใช้เป็นแต่เงิน ไม่ใช้สมอง ดิฉันกลัวจะเปลืองเวลาเปลืองตัวไปเสียเปล่าๆ”

คำตอบที่ได้ทำเอาคาร์ลพูดไม่ออกไปนานหลายนาที หล่อนเป็นใครถึงได้กล้าว่าเขาได้ถึงเพียงนี้ และเชื่อเถอะว่าเขาจะสั่งสอนแต่หัวขโมยปากดีคนนี้ให้ถึงแก่ใจเลยทีเดียวเชียว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel