1| คนที่ไว้ใจ
“ตะวันไม่กลับค่ะ ตะวันจะรอคุณพ่อ”
“ไม่ได้นะครับคุณหนู”
“ทำไมจะไม่ได้คะ คุณพ่อรับปากแล้วว่าจะมารับแล้วเราก็จะไปกินซูชิด้วยกัน”
“คุณพ่อคงมารับไม่ได้แล้วนะครับคุณหนู”
“ไม่ได้ก็ไม่กลับค่ะ”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ ตะวันทำไมยังไม่กลับบ้านคะ”
“ตะวันจะรอคุณพ่อค่ะ”
“แต่นี่ห้าโมงเย็นแล้วนะคะ เพื่อนๆ กลับกันหมดแล้ว” ครูสาวก้มมองเวลาพร้อมพูดกับนักเรียนตัวน้อยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง
“ครูเตย คุณพ่อสัญญากับตะวันเอาไว้แล้วนี่คะ ถ้าครั้งนี้คุณพ่อไม่มาเท่ากับว่าผิดสัญญาครบสิบครั้ง”
“ ถ้าอยากรอก็ได้ค่ะ ครูเตยจะอยู่เป็นเพื่อนแต่ถ้าคุณพ่อไม่มา ตะวันต้องยอมกลับบ้านนะคะ” เมื่อเห็นท่าไม่ดีครูสาวจึงยื่นข้อเสนอเพื่อให้นักเรียนในปกครองใจเย็นลง สภาพจิตใจของตะวันในตอนนี้กำลังบอบช้ำเพราะถูกเบี้ยวนัดจากผู้เป็นพ่อ
“ได้ค่ะ ถ้าพ่อไม่มา ตะวันจะยอมกลับบ้าน”
“แต่คุณหนูครับ”
“ฉันจะดูแลให้เองค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” ครูสาวย้ำอีกครั้งว่าตนจะดูแลให้เอง ตอนนี้ตะวันคงกำลังโกรธและรู้สึกน้อยใจมาก หากอารมณ์เย็นลงก็คงอยากกลับบ้าน แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
“ฝากด้วยนะครับ ผมจะรีบแจ้งนายเดี๋ยวนี้เลย คุณครูเพิ่งย้ายมาใหม่เหรอครับ”
“ใช่ค่ะ”
“ครูเตยย้ายมาสอนตะวันแทนครูส้มค่ะ คุณพ่อคงไม่รู้หรอกเพราะมัวทำแต่งาน” หนึ่งในลูกน้องที่ถูกส่งมาหน้าเจื่อนเพราะสิ่งที่คุณหนูพูดออกมานั้นคือเรื่องจริง
“เราไปนั่งข้างในรอคุณพ่อมั้ยคะ”
“ค่ะ ครูเตยคะ”
“คะ”
“ครูเตยคิดว่าคุณพ่อจะมารับตะวันมั้ยคะ ตะวันทำแบบนี้คุณพ่อจะลำบากใจหรือเปล่าคะ ตะวันไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยค่ะ”
“คุณพ่อต้องมารับตะวันแน่นอนค่ะ”
“แต่ตะวันก็เข้าใจคุณพ่อค่ะ คุณพ่อทำงานหนักเพราะตะวัน”
“เราไม่คุยเรื่องนี้กันแล้วได้มั้ย ครูเตยอยากได้ผู้ช่วยจัดโต๊ะใหม่ ตะวันพอจะเป็นผู้ช่วยให้ครูได้มั้ยคะ” เพราะไม่อยากให้ลูกศิษย์ตัวน้อยหมกมุ่นอยู่กับความผิดหวังและสับสน ใบเตยครูประจำชั้นคนใหม่จึงหากิจกรรมฆ่าเวลาให้ตะวันลืมเรื่องนั้นไป
“ได้ค่ะ ตะวันทำได้ค่ะ”
“ไปกันเลย”
.
.
.
“นายครับ”
“ว่าไง ตะวันทำอะไรอยู่ ร้องไห้มั้ย”
“คุณหนูไม่ยอมกลับครับ บอกว่าจะรอนายมารับ”
“โอเค ดูแลอย่าให้คลาดสายตา ตะวันคงไม่อยากกลับบ้านหรอกงั้นพาตะวันกลับไปรอที่คอนโดก่อนก็ได้”
“คุณหนูยืนยันว่าจะรอนายอยู่ที่โรงเรียนครับ”
“งั้นมึงก็ต้องอยู่เฝ้าตะวัน จนกว่ากูจะเสร็จธุระบ้านี่” เขาเริ่มหัวเสียอีกครั้งเมื่อแผนจับคู่ของแม่มีผลกระทบกับความรู้สึกลูก
“นายไม่ต้องห่วงนะครับ คุณหนูมีคุณครูประจำชั้นอยู่ด้วย นายอย่าด่าผมเลยนะครับเพราะผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดกับคุณหนูยังไง”
“อืม ครูส้มใช่มั้ย”
“ไม่ใช่ครับ ครูส้มลาออกไปแล้ว ครูคนใหม่ชื่อครูเตยครับ” คีรินกุมขมับเพราะทุกอย่างมันดูแย่ไปหมด
“กูจะรีบไป ฝากด้วย”
“ครับนาย”
“อีกอย่าง ฝากบอกตะวันด้วยว่า พ่อขอโทษ” ลูกน้องรับปากและกดวาง นึกสงสารเจ้านายอยู่เหมือนกันที่ต้องยอมคนในบ้านทุกอย่าง ทำร้ายความรู้สึกคุณหนูตัวน้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
.
.
“คุยกับใคร”
“ลูกน้องที่ไปรับตะวันครับ โทรมาบอกว่าตะวันไม่ยอมกลับจะรอผมอยู่ที่โรงเรียน”
“รอไม่ไหวเดี๋ยวก็กลับเองนั่นแหละ”
“แม่”
“อย่าทำให้มันมีปัญหาได้มั้ย แม่ให้ทุกอย่างกับแกแล้วก็ลูกของแกแค่ทำตามที่แม่ขอเนี่ย มันยากนักใช่มั้ย”
“แม่ไม่ชอบฟ้าผมเข้าใจแต่แม่จะเอาอารมณ์นั้นมาลงกับตะวันไม่ได้”
“ถ้าอย่างนั้นแกก็รีบแต่งงานสักที แม่จะได้เลิกวุ่นวายกับชีวิตของแก”
“ผม ไม่ แต่ง”
“คีริน”
“อย่าบีบผมมากไปกว่านี้”
“จำวันแรกที่กลับเข้าบ้านได้มั้ย สภาพดูได้ที่ไหน ตะวันก็ป่วยเกือบไม่รอด จำได้มั้ยฮะคีริน”
“แม่อย่าเอาเรื่องนี้มาขู่ผม แม่ก็รู้ว่าตอนนี้ผมยืนด้วยขาของตัวเองแล้ว”
“แต่แกก็ยังต้องใช้ไม้ค้ำยันที่มั่นคงจากแม่และพ่ออยู่” เขารีบเบือนหน้าหนีก่อนที่จะหมดความอดทนแล้วทำเรื่องบ้าๆต่อหน้าแขกของแม่
.
.
“ตะวันหิวมั้ยคะ” ครูสาวอ้าปากถามในมือถือจานผลไม้หลายชนิดตรงมาที่นักเรียนตัวน้อยที่กำลังตั้งใจเรียงหนังสือเข้าชั้น
“ท้องมันร้องแต่คงกินไม่ลงค่ะครูเตย”
“โกรธคุณพ่อมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“โกรธคนอื่นที่ทำให้คุณพ่อผิดนัดมากกว่าค่ะ” จานผลไม้ในมือของครูสาววางลงตรงหน้า ตะวันเงยหน้ามองรอยยิ้มที่ไม่เคยจางของครูประจำชั้นเพราะมันทำให้รู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
“ทานหน่อยมั้ยคะ เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น”
“ครูเตยเคยโกรธมั้ยคะ”
“เคยสิคะ เวลาครูโกรธ น่ากลัวมากเลยนะ”
“ตะวันไม่อยากเชื่อเลยค่ะ”
“เพราะไม่เคยเห็นใช่มั้ยคะ”
“คงใช่ค่ะ ตะวันไม่เคยเห็นครูเตยโกรธเลย”
“การได้อยู่กับเด็กๆ คือความสุขของครูค่ะ ความสุขของตะวันคืออะไรคะ” เด็กน้อยนิ่งไปสักพักเมื่อได้ยินคำถามก่อนที่จะรวบรวมความคิดหาคำตอบออกมาได้
“ตะวันอยากให้คุณพ่อมีเวลาว่างอยู่กับตะวันมากขึ้นค่ะ เพราะเรามีกันแค่สองคนเท่านั้น”
“คุณพ่อก็คงคิดแบบเดียวกับตะวันค่ะ ให้โอกาสคุณพ่อหน่อยนะคะ”
.
.
.
20.30 น
“ผมมารับลูกกลับบ้าน” หญิงสาวงัวเงียเงยหน้าขึ้นหลังจากเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัว
“ตะวัน” ครูประจำชั้นก้มมองนักเรียนตัวน้อยที่นอนหนุนตักหลับไม่รู้เรื่องพร้อมเขย่าเบาๆ
“อื้อ”
“ตะวัน พ่อมารับแล้วครับ” ร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้พร้อมกับย่อตัวลงไปพลางใช้มือสะกิดแขนลูกสาวเบาๆ
“สงสัยจะหลับลึกแล้วค่ะ” เธอเอ่ยพร้อมกับขยับตัวเล็กน้อยเพราะขาเริ่มไม่มีความรู้สึก
คีรินหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องมาอุ้มตะวันไปที่รถ
“คุณลุกไหวมั้ย” เขาเอียงคอถามเมื่อเห็นท่าทางและสีหน้าของครูอนุบาลไม่ค่อยดี
“น่าจะไหวค่ะ”
“ผมช่วยดีกว่า” คีรินไม่รอคำตอบประคองแขนเล็กของครูสาวแล้วออกแรงช่วยพยุงร่างเล็กของเธอให้ยืนขึ้นอย่างง่ายดาย
“อ๊ะ ขอบคุณนะคะ” เขายังไม่ปล่อยมือรอให้เธอยืนตรงเสียก่อน หากปล่อยตอนนี้คงล้มไม่เป็นท่า
“โอเคแล้วบอกผมนะ”
“ปล่อยเลยก็ได้ค่ะ ฉันโอเคแล้ว รีบพาตะวันกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ” คีรินยอมปล่อยมือออก
“ลูกสาวผม เล่าอะไรให้คุณฟังบ้าง”
“ไม่มีนี่คะ”
“แน่ใจใช่มั้ยครับ”
“คุณควรไปถามแกเองนะคะ ไม่ใช่มาถามฉัน” ครูสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ขอโทษที่ทำให้คุณครูต้องลำบากนะครับ”
“ไม่ได้ลำบากเลยค่ะ เป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“ผมขอไปส่งได้มั้ยครับ”
“ฉันกลับเองได้ค่ะ” เธอหันหลังแล้วยื่นมือไปคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นบ่า
“ผมกำลังหาพี่เลี้ยงคนใหม่อยู่ สนใจมั้ยครับ ค่าตอบแทนตกลงกันได้”
“ไม่ค่ะ”
“ผมจะให้คนส่งรายละเอียดให้นะครับ เผื่อคุณจะสนใจ” คีรินหวังว่าเธอจะสนใจข้อเสนอที่ยื่นให้ หากได้เธอมาเป็นพี่เลี้ยงของลูกสาว เขาอาจจะสบายใจมากขึ้นกว่านี้เพราะเหตุการณ์วันนี้ทำให้เขาเห็นว่าเธอดูแลตะวันได้ดีมากเพียงใด
.
1 ชั่วโมงก่อนหน้า
นางสาว สิชาภัทธ์ ศิรินที
“ผมส่งประวัติครูเตยเข้าไลน์แล้วนะครับนาย”
----------------
