บท
ตั้งค่า

โรส

ผ่านไปสามวัน

“เป็นไง ทำงานกันเหนื่อยไหม?” ผมกล่าวถามเมื่อเข้ามาในออฟฟิศแล้วได้เห็นจีอายืนรอผมอยู่ โดยที่ทุกคนกำลังตั้งใจกับการไลฟ์สดอย่างมาก เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของตัวเอง และได้ข่าวมาว่าพวกเธอเริ่มทำช่องยูทูปกันแล้วด้วย

“อ่ะ ท่านประธานมาล่ะ” กิ่งกล่าวก่อนจะถือกล้องโทรศัพท์แล้วเดินมาหาผม

“ท่านประธานอะไรกันล่ะ?” ผมกล่าวถามกลับ เพราะจีอาต่างหากที่เป็นประธานบริษัท ซึ่งผมได้รับรายงานมาว่าเธอทำงานดีสุดๆเลย ซัพพอร์ตอินฟลูทุกคน และงานรีวิวของตัวเองก็ยังออกมาดีอีกด้วย ซึ่งเราได้จ้างคนตัดต่อคลิปมากฝีมือมาอีกสามคน โดยสามคนนั้นก็ถูกแนะนำมาจากมหาลัยโดยตรง พวกเขาเรียนเกี่ยวกับนิเทศศาสตร์ เป็นนักศึกษาฝึกงาน

และพวกเขาเข้าคอนแนคชั่นผ่านทางจีอา จีอาก็เลยตอบตกลงไป ก็ดีเหมือนกัน เป็นบริษัทที่เริ่มสร้างโดยนักศึกษา ผมอยากจะดูว่าแต่ละคนไฟแรงกันขนาดไหน และผลลัพธ์มันก็น่าพอใจมาก ทุกคนดูมุ่งมั่นสุดๆ ก็แน่ล่ะ โอกาสมาอยู่ตรงหน้าแล้ว แถมยังเป็นโอกาสที่ไม่มีใครเคยได้รับขนาดนี้มาก่อนด้วย นั่นก็คือการสนับสนุนจาก ไดมอนด์กรุ๊ป

เพราะหลังจากที่ผมเปิดเผยตัวตน จิมมี่ก็สั่งรวมทุกบริษัทเข้าเป็นกรุ๊ปเดียวกันแทน และจัดตำแหน่งใหม่กันเยอะมาก ซึ่งจุดสูงสุดก็ยังคงเป็นผมเหมือนเดิม ส่วนเรื่องมหาลัย เมื่อทางอาจารย์รับรู้ตัวตนของผม พวกเขาก็ไม่กล้าสอนผมอีกต่อไป เพราะกลัวว่าการสอนของพวกเขาอาจจะตามความคิดผมไม่ทัน ผมล้ำหน้ากว่าพวกเขาไปมาก

ในขณะที่พวกเขากำลังวิเคราะห์บริษัทของผม และทำแผนการตลาดของไดมอนด์กรุ๊ปที่เป็นเครือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มันสวนทางกับผมที่กำลังสร้างอะไรใหม่ๆที่ทุกคนคาดไม่ถึงขึ้นมา พวกเขาแทบจะอยากให้ใบจบการศึกษาผมเลยด้วยซ้ำ

“สวัสดีคนดูหน่อยเจเค” กิ่งกล่าวและทำให้ผมโบกมือและจ้องมองกล้องโทรศัพท์

“ทุกคน พักกันหน่อยไหม?" ผมกล่าว เพราะในเมื่อพนักงานของผมทำงานได้เป็นอย่างดี ผมคงต้องให้อะไรตอบแทนแล้วล่ะ

“ว้าว หัวหน้าจะให้รางวัลล่ะ" สาวๆกล่าวก่อนจะหัวเราะออกมา

“ไปนั่งคาเฟ่กัน” ผมกล่าว ซึ่งคาเฟ่ที่ผมพูดถึงก็คือสตาบัค มันอยู่ใต้ตึกของเรานี่เอง แถมยังเปิด 24 ชั่วโมงเลยด้วย

ณ สตาบัค

“นี่ เจเค” กิ่งเรียกผมทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะปิดโทรศัพท์ของตัวเองที่กำลังปั่นหุ้นอยู่

“ว่าไง?” ผมกล่าวถามกลับเมื่อเธอมีท่าทางเลิ่กลั่กกันทุกคน

“นายเคยบอกกับจีอาว่ามีคนสำคัญใช่ไหม?” กิ่งกล่าวถามและทำให้จีอาถึงกับสะดุ้ง

“ใช่” ผมตอบกลับไปตรงๆ

“พวกเราเป็นคนสำคัญของนายหรือเปล่า?” กิ่งกล่าวถาม ซึ่งดูเหมือนทุกคนจะรอลุ้นคำตอบจากผมมากเลยทีเดียว

“ใช่ พวกเธอเป็นคนสำคัญ” ผมตอบกลับด้วยท่าทีสบายๆ

“แล้วที่นายบอกว่าให้จีอาอยู่ข้างๆล่ะ?” กิ่งกล่าวถามต่อ และในครั้งนี้จีอาถึงกับลุกขึ้นไปปิดปากกิ่ง แต่กิ่งก็ยังคงตั้งใจฟังคำตอบของผมต่อ

“ก็รู้สึกว่ามีจีอาอยู่ข้างๆแล้วมันผ่อนคลายและมั่นใจ” ผมตอบไปตรงๆเหมือนเดิม

“พวกเราด้วยหรือเปล่า?” กิ่งกล่าว ซึ่งจากที่จีอาพยายามปิดปากกิ่ง ในคำถามนี้เธอกลับคลายมือของตัวเองออก

“ก็…ใช่นะ”

“กับพวกเธอเรารู้สึกเป็นกันเองมากกว่า” ผมตอบกลับไปและทำให้กิ่งยิ้มออกมา

“แล้วคนนั้นล่ะ คนที่นายขอให้อยู่ข้างๆเหมือนกับจีอา” กิ่งกล่าวถามและมันทำให้ผมเงียบไปสักพัก

“นี่เรากำลังสัมภาษณ์งานกันอยู่รึเปล่า?” ผมกล่าวถามกลับไป

“เดี๋ยวสิ ตอบคำถามก่อน จริงจังกันอยู่เนี่ย” กิ่งกล่าว

“คนนั้นก็คือเอ็กเซลไง!” ผมตอบออกไปก่อนจะยกแก้วชาเขียวขึ้นมาดื่ม มันก็อายๆล่ะนะ กับคนที่ไม่เคยขอใครมาก่อน กับต้องมาขอลูกน้องตัวเอง มันเป็นคำพูดที่น่าอายมาก ในเมื่อเอ็กเซลมันก็เป็นเพื่อนสนิทของผมอยู่แล้ว ยังไงก็เจอหน้ากันไปตลอดชีวิตนั่นแหละ

“อ๋อออออ” สาวๆส่งเสียงออกมาอย่างเข้าใจ ตามด้วยจีอาที่ถอนหายใจออกมา

“มีอะไรกันเหรอ?” ผมกล่าวถามซึ่งทุกคนก็ส่ายหน้าออกมา

“เจเค นายเคยมีความรักไหม?” กิ่งกล่าวถามต่อ

แต่เดี๋ยวก่อน

พวกเธอยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะ

“ไม่เคย” ผมตอบกลับเมื่อพวกเธอแสดงสีหน้าจริงจังกันมากๆ

“ชัดแล้วล่ะเพื่อน” กิ่งหันไปกล่าวกับจีอา ซึ่งสีหน้าของจีอานั้นบ่งบอกว่าเธอรู้สึกดีมากๆ

“ชัดอะไร จะบอกได้ยังว่านี่มันเรื่องอะไรกัน?” ผมกล่าวถามด้วยความสงสัย ผมตอบคำถามพวกเธอไปมากมายแล้วแต่พวกเธอกลับไม่ตอบคำถามของผมเลย

ขี้โกงกันชัดๆ!

“นาย-"

“พอแล้ว” เมื่อกิ่งกำลังอ้าปากจะถามผม จีอาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของกิ่งเอาไว้ทันที

“หาตัวตั้งนานนะเจเค” เสียงใสกล่าวและทำให้ทุกคนหันไปมองต้นเสียง ซึ่งเธอคนนั้นดูยังไงก็เหมือนเซเลปจากฮอลีวูด หน้าสวยคมเหมาะกับเป็นนางเอกของหนังสายลับ หุ่นก็เป๊ะ ผมทองอีกต่างหาก

“โรส” ผมกล่าวชื่อของเธอ ซึ่งเธอกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ และการพบเจอกันของเราทำให้สีหน้าของสาวๆเปลี่ยนไปทันที

“คิดถึงกันไหม?" โรสกล่าวถามก่อนจะเดินมาวางมือบนบ่ากว้างๆของผม

“คิดถึงสิ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”

“ไปทำอะไรมาบ้าง?” ผมกล่าวถามด้วยสายตานึกสนุก มันเป็นเรื่องราวในอดีต ที่นอกจากเอ็กเซลแล้วก็มีโรสนี่แหละที่เติบโตมากับผม เราเป็นเพื่อนกัน ไปหาเรื่องกลุ่มผู้มีอิทธิพลด้วยกัน ทำภารกิจด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันเธอคือผู้นำองค์กรณ์มืดในอเมริกา

“ระเบิดโน้นระเบิดนี่ไปทั่วแหละ”

“ว่าแต่สาวๆพวกนี้คือใครเหรอ?” โรสกล่าวถามก่อนจะกดแว่นของตัวเองลงต่ำ ซึ่งเหล่าลูกน้องของผมก็ได้เดินมาทำความเคารพกับโรสกันทุกคน ทำเอาเพื่อนสาวของผมหน้าเสียกันเลยทีเดียว

“เพื่อนน่ะ” ผมตอบกลับก่อนที่จะมองไปที่พนักงานแล้วชี้ที่แก้วผมให้เขาเข้าใจว่าสั่งชาเขียวเพิ่มอีกแก้วนึง

“ว้าว แล้วเราเป็นเพื่อนกันรึเปล่า?” โรสกล่าวถามก่อนจะนั่งลงข้างผม ซึ่งตอนแรกมันเป็นที่ของจีอา

“เราทั้งคู่ต่างก็รู้ว่าไม่ใช่” ผมตอบกลับ

“แล้วเป็นอะไรกันเหรอ?” กิ่งกล่าวถามเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้เราทั้งคู่หันไปมองเธอ

“เพื่อนของนาย ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีมารยาทเลยนะ” โรสกล่าวก่อนจะปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมาถึงขนาดทำให้เพื่อนของผมหลบหน้าหลบตาด้วยความกลัวกันเลยทีเดียว

“แต่ก็ไม่เป็นไร ก็เพื่อนของเจเคนี่” โรสกล่าวก่อนจะผ่อนคลายลง

“ว่าแต่พอมีเวลาว่างสักแปปไหม?”

“พ่อของฉันมาด้วย และต้องการคุยกับนาย” โรสกล่าวก่อนจะรับแก้วชาเขียวมาและดื่ม

“เย็นจัง” โรสกล่าว เพราะโดยปกติแล้วเธอจะชอบของอุ่นๆซะมากกว่า

“ได้สิ” ผมตอบกลับก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา

“ไปคุยธุระก่อนนะ" ผมกล่าวพร้อมกับจ้องมองไปที่จีอา

“ฝากดูแลเจบีด้วยนะ” ผมกล่าวกับจีอาก่อนจะเดินตามโรสออกไปจากร้าน ซึ่งเมื่อเราเดินออกไปจากร้านก็มีรถตู้เป็นสิบคันมารับพวกเรา ซึ่งครึ่งนึงในนั้นก็เป็นพรรคพวกของผมด้วย

ณ ห้องอาหาร VIP

“สวัสดีครับ” ผมกล่าวทักทายพ่อของโรสที่นั่งหั่นสเต็กอยู่ และเขาก็ยิ้มให้ผมพร้อมกับพยักหน้าให้เป็นการทักทาย

“เป็นยังไงบ้างเจเค ไม่คิดเลยนะว่าจะออกมาจากเงา”

“แบบนี้สัญญาแต่งงานของเราก็มีเรื่องวุ่นวายแล้วสิ” พ่อของโรสกล่าวก่อนที่ผมจะนั่งลงตรงข้ามกับพ่อของโรส โดยที่เบื้องหลังของผมมีเอ็กเซลกับเฟรมยืนอยู่ด้วย สองครอบครัวเรานั้นรู้จักกันดี

ยิ่งตอนที่ทำภารกิจด้วยกัน และธุรกิจร่วมกัน พ่อของพวกเราจึงตกลงกันให้พวกเราแต่งงานกันในอายุ 26 ปี ซึ่งตอนนี้มันก็ใกล้เวลาแล้วด้วย อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าผมก็ยี่สิบหกแล้วล่ะ ส่วนโรสก็ยี่สิบหกไปก่อนผมแล้วเดือนนึง

“ไม่มีปัญหาหรอกครับ” ผมตอบกลับ แต่ในใจลึกๆไม่รู้ว่าทำไมหน้าของจีอาถึงโผล่เข้ามาในหัวของผม

“ป๊า เจเคเขามีเพื่อนแล้วด้วยแหละ” โรสกล่าวกับพ่อของตนเอง

“จริงเหรอ ในปีนี้มีอะไรเปลี่ยนไปเยอะเลยนะเจเค” พ่อของโรสกล่าวและจ้องมองหน้าของผม เดาว่าเขาคงจะเห็นสีหน้าของผมแปลกๆไปด้วยแหละ เพราะตัวผมเองก็คิดว่าผมเปลี่ยนไปเหมือนกัน

“ใช่ครับ” ผมตอบกลับ และในหัวของผมกลับคิดถึงเรื่องของจีอามากมาย และผมพยายามไล่ความคิดนี้ออกไปจากหัวอยู่

“นายคิดว่ามันไม่มีปัญหาอะไรแน่นะ” พ่อของโรสกล่าวถามผมซ้ำ

“ครับ ทุกอย่างราบรื่นดี” ผมตอบกลับ

“แต่ช่วงนี้มีคนท้าทายอำนาจของนายบ่อยมากเลยนะเจเค” พ่อของโรสกล่าวตอบทันที

“ธรรมดาแหละครับ มันเป็นสีสันของชีวิตผม” ผมตอบกลับไป ซึ่งผมคิดว่าอีกฝ่ายกล่าวแบบนี้น่าจะมีนัยแปลกๆ

“ให้เราช่วยจัดการไหม?” พ่อของโรสกล่าวก่อนจะหันไปมองลูกสาวของตนเอง

“โรสจัดการไปแล้วค่ะ ถอนรากถอนโคนไปหมดเลย” โรสกล่าวก่อนจะหัวเราะคิกๆออกมา บางครั้งผมก็แอบคิดว่ายัยนี่มันโรคจิตหรือเปล่า แต่ก็ไม่ใช่แหละ เพราะมันคือสิ่งที่ต้องทำจริงๆ เพื่อไม่ให้มีตัวปัญหาเกิดขึ้นมาในอนาคตอีก

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณครับ” ผมตอบกลับก่อนที่พ่อของโรสจะวางส้อมและมีดลง

“นายอ่อนแอลงนะเจเค” พ่อของโรสกล่าวอย่างจริงจัง

“ผมคิดว่าไม่นะครับ” ผมตอบกลับและเราก็จ้องตากัน

ฟุบ ฟับ

แกร๊ง

พ่อของโรสได้ปามีดใส่ผม และผมก็คว้ามีดนั้นมาก่อนจะถึงกลางหัวของผมและวางมันลงบนจานของตัวเองอย่างเบามือ

“คุณคิดว่าผมอ่อนแอลงยังไงครับ?” ผมกล่าวถามกลับไป

“นายอ่อนโยน กล่าวขอบคุณ และมีสีหน้าที่ขาดจิตสังหารไป”

“รอบๆตัวของนายมันดูไม่มีแรงกดดันเหมือนเมื่อก่อน” พ่อของโรสกล่าว

“อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้ผมไม่ได้ลงมือเองครับ”

“เพราะผมได้ลองไปใช้ชีวิตใหม่ดู”

“ตามคำขอร้องของพ่อ” ผมกล่าว

“งั้นเหรอ แสดงว่าปีศาจในตัวของนายมันหลับไปแล้วสินะ”

“ฉันสมควรต้องปลุกมันขึ้นมาไหม?” พ่อของโรสกล่าวและมันทำให้บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้น

“อย่างเช่นพาเจบี-”

ฟุบ!

ก่อนที่พ่อของโรสจะกล่าวจบ ผมก็ชักปืนขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะด้วยสีหน้าจริงจัง

“อย่าเข้าใกล้เจบีครับ" ผมกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“โทษที ลืมไปว่าช่วงนี้น้องชายกับน้องสาวของนายกำลังถูกตามตัว” พ่อของโรสกล่าวและยิ้มออกมา

“แต่นี่แหละคือตัวตนของนาย จำไว้ล่ะ” พ่อของโรสกล่าวก่อนจะหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดปากและเดินออกไปจากห้อง VIP

“รอบนี้ล้อเล่นกันแรงไปรึเปล่าเนี่ย?” โรสกล่าวถาม แต่ผมรู้สึกเหมือนเมื่อครู่ไม่ใช่การหยอกล้อ

“ช่างเถอะ” ผมกล่าวก่อนที่โรสจะโบกมือลาผมและเดินตามพ่อของตัวเองออกไปจากห้อง VIP เหลือเพียงผมกับเลขาทั้งสอง

“ตรวจห้องนี้ให้ละเอียดแล้วเจอกันที่บ้าน” ผมกล่าวเมื่อรู้สึกแปลกๆ เฟรมจึงรับคำสั่งและทำการเดินเช็คทั่วทุกมุมห้อง รวมถึงอาหารบนโต๊ะด้วยเช่นกัน ส่วนเอ็กเซลก็ขับรถพาผมกลับบ้านหลัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel