บท
ตั้งค่า

อยู่ข้างๆกัน

“ข้างกัน อยู่ข้างๆกัน” ผมกล่าวตอบเธอด้วยความเขิน เพราะผมไม่เคยร้องขอใครมาก่อน ผมจะทำทุกอย่างด้วยตัวเองหมดเลย แต่ถ้าสั่งก็ไม่นับล่ะนะ

“เจเค…”

“ทำไม-…นายเคยพูดแบบนี้กับใครรึเปล่า?” จีอากล่าวถามผมกลับก่อนจะก้มหน้าลง

“เคยสิ” ผมตอบกลับไป

“ใครเหรอ?” จีอากล่าวถามผมทันที

“ก็…กับคนสำคัญไง” ผมตอบกลับไปและนึกถึงเอ็กเซล เพราะในจังหวะนาทีชีวิต มันเกือบจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ ขอร้องให้มันฮึบเอาไว้จนรอดมาได้

“แล้วคนคนนั้นยังอยู่หรือเปล่า?” จีอากำผ้าห่มไว้แน่นแล้วกล่าวถาม

“ยังอยู่” ผมตอบกลับไป จะไม่อยู่ได้ยังไงเดี๋ยวก็ได้เจอมันแล้วตอนไปงานแถลงข่าว

“แล้วนายมาพูดแบบนี้กับฉันทำไมเจเค?” จีอากล่าวถาม และในครั้งนี้ผมรู้สึกว่าเธอมีอารมณ์โกรธ

“แล้วมาอยู่ข้างกันไม่ได้หรือไง?” ผมกล่าวถาม เพราะด้วยความที่ผมไม่เคยขอร้องใครแบบนี้มาก่อน ผมเลยรู้สึกแปลกๆ ถ้าไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร มันก็แค่ความผิดหวังล่ะนะ

“กะ…ก็ได้” จีอาคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าวตอบผม

“ป่ะ งั้นไปกันเถอะ” ผมกล่าวก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นมานั่งบนเตียงและก็เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ

ผ่านไปสามชั่วโมง

13 : 41

“จีอา เธอสวยมาก” ผมกล่าวชมเมื่อจีอาเดินออกมาจากห้องแต่งหน้าในบ้านหลักของผม ซึ่งเธอได้สวมชุดเดรสที่หรูที่สุดของแบรนด์ Label และยังมีเครื่องประดับราคาหลักแสนบนตัวเต็มไปหมดอีก ซึ่งในครั้งนี้เราจะเดินทางไปด้วยรถที่ผมถูกใจมากที่สุดจากแบรนด์ แมคราเรน และมันมีเพียงสามคันในเอเชีย โดยรถคันนั้นได้มาจอดที่หน้าบ้านของผมแล้ว รวมถึงได้มีรถตู้อีกเกือบสิบคันมาจอดเรียงกันอยู่ แต่ละคันก็มีบอดี้การ์ดของผม และหน่วยของฮิวที่มารอ

“เจเค…แปลกๆนะ” จีอากล่าวก่อนที่ผมจะเดินไปเปิดประตูให้จีอาขึ้นไปนั่งบนรถ และผมก็เดินไปที่นั่งคนขับพร้อมกับขับออกไปที่ห้างของผมในทันที

ณ ห้างเขตสุขุมวิต

“ครับ ผมจะไม่ขอปิดบังอีกต่อไปครับ”

“ผมเป็นเพียงเลขาของท่านเจเคหรือคนที่กำลังเป็นข่าวอยู่ครับ”

“เขาต่างหากที่เป็นผู้นำความสำเร็จในทุกๆอย่างครับ” จิมมี่กล่าวต่อหน้านักข่าวจำนวนมากอยู่หน้าทางเข้าห้าง ซึ่งภายในห้างชั้นหนึ่งเราได้จัดงานรวมตัวเหล่าผู้บริหารและ CEO ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เจ้าของภัตคารอาหารหรู แบรนด์ Label ระดับโลก บริษัทอหังสาที่มีพื้นที่อยู่ทั่วประเทศไทย และแขกอื่นๆอย่างเช่นผู้มีอำนาจทางการเมือง ทหาร ตำรวจ ใครก็มากันหมด ดาราระดับท็อป วงไอดอล มีครบหมดทุกอย่าง

บรี้นนน

“ว้าว นั่นมันแมคราเรนที่มีเพียง 3 คันในเอเชีย!?” และเมื่อเสียงรถของผมดังขึ้นหน้าห้าง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นหันมามองกันหมด จนเมื่อขบวนรถบอดี้การ์ดของผมได้ขับเข้ามาในห้างด้วย แสดงว่าคนที่ขับแมคราเรนคันนี้ จะต้องเป็นชายคนที่ชื่อว่าเจเคอย่างแน่นอน พวกนักข่าวจึงไม่รอช้าแพลนกล้องไปที่รถของผมทันที

ฟุบๆๆๆ

และทันทีที่ผมจอดรถ ก็มีผู้คนจำนวนมากวิ่งกรูกันออกมาจากห้าง ซึ่งพวกเขาก็คือเหล่าผู้บริหารของบริษัทผมนี่แหละ และนั่นก็รวมถึงคนจากหน่วยความมั่นคงแห่งชาติด้วย พวกนักข่าวตกใจกันมากเลยทีเดียวที่พวกเขาปรากฏตัว แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับมือขวาของผมอย่างเอ็กเซล

“ถอยไป” เอ็กเซลกล่าวอย่างจริงจังซึ่งเขาก็มาลูกน้องมาด้วยสิบกว่าคน และเมื่อเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างรัฐบาลและกลุ่มของผม ทำให้บอดี้การ์ดในรถตู้เกือบห้าสิบคนได้ออกมาจากรถและล้อมรอบบริเวณรถของผมเป็นระยะกว้างทันที

“บอกให้ถอยไป” เอ็กเซลกล่าวกับหัวหน้าหน่วยความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งทำให้พวกเขาต้องยอมถอย เพราะแน่นอนว่าถ้าตัวตนของผมถูกเปิดเผย มันอาจจะถูกขุดคุ้ยจนไปถึงพวกที่รับส่วยไปจากพวกเราจำนวนมาก และมีผลกระทบกันไปทั้งระบบการปกครอง

“นายท่านเชิญค่ะ” แมวเดินมาเปิดประตูรถให้ผมพร้อมกับกล่าวออกมา

“อ่า…” ผมส่งเสียงเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับแสงจากกล้องถ่ายรูปจำนวนมาก วินเซนต์จึงเดินไปบอกพวกนักข่าวก่อนจะเดินมาหาผม และเลขาทั้งเจ็ดคนของผมก็ได้รวมตัวอีกครั้งต่อหน้าผม

“ท่านเจเค!” เหล่าเลขาทั้งเจ็ดได้ก้มหัวทำความเคารพผม ส่วนผมก็เดินไปที่ประตูฝั่งที่นั่งและเปิดประตูขึ้นมาพร้อมกับง้างแขนไปให้คนในรถจับแขนผมพยุงตัวขึ้นมา

“แล้วนั่นใครน่ะ?” ผู้คนพากันสงสัยเมื่อมีผู้หญิงเดินควงผมมาเดินพรหมแดงด้วย ซึ่งระหว่างที่เราเดิน ก็มีพวกนักข่าวพยายามเข้าถึงตัวผมมากมาย แต่ใครจะกล้าในเมื่อรอบตัวผมก็มีบอดี้การ์ดที่ดูทรงแล้วไม่น่าจะใช่การ์ดธรรมดา แต่เป็นมาเฟียซะมากกว่า ทั้งรอยสัก ทั้งรอยแผลบนหน้าบนแขนบนมือมันบ่งบอกว่าพวกเขาผ่านประสบการณ์การต่อสู้มานับไม่ถ้วนได้เลยทีเดียว

“ประจำที่" เอ็กเซลกล่าวจบเหล่าชายสูทดำก็กระจายไปรอบๆเพื่อคุมทุกพื้นที่ดูว่าจะมีบุคคลน่าสงสัยเข้ามาหรือเปล่า ส่วนพวกเราทั้งเก้าคน มีผม จีอา และเลขาทั้งเจ็ดได้มายืนต่อหน้ากล้องมากมาย

“อย่างที่ทุกคนทราบครับ”

“ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจไหนในเครือใหญ่ยักษณ์นี้”

“ท่านเจเคเป็นคนก่อตั้งขึ้นมาครับ” จิมมี่กล่าว

“และผมต้องขอภัยด้วยครับ ท่านเจเคเป็นคนไม่ค่อยพูด”

“ท่านไม่ชอบสถานที่ที่มีคนเยอะๆครับ” จิมมี่กล่าวอีกครั้งก่อนที่จะมีเสียงมากมายดังขึ้นหน้าห้าง พร้อมกับมีชายคนนึงปรากฏตัวพร้อมกับคนคุ้มกันนับสิบ

“นายกเต้!?” พวกนักข่าวพากันสงสัยเมื่อนายกยังมาเยือนที่นี่ด้วยตัวเอง

“คุณเจเค…” นายกเดินมาตรงหน้าผมและยื่นมือออกมา ซึ่งผมก็ได้ยื่นมือออกไปจับมือของเขาเช่นกัน

“อาจจมีหลายคนไม่เชื่อเกี่ยวกับตัวตนของเจเคนะครับ”

“แต่ผมจะขอยืนยันอีกเสียงนึง”

“เขาเป็นผู้ร่วมโครงการพัฒนาเศรษฐกิจต่างๆในประเทศไทยครับ”

“ด้านเกษตรกร การผลิตสินค้าและส่งออกไปสร้างชื่อต่างประเทศ”

“ฟื้นฟูพื้นที่แห้งแล้ง และอื่นๆอีกมากมาย”

“รวมถึงเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆก็มาจากความคิดของเจเคครับ” นายกเต้กล่าว และมันทำให้นักข่าวทุกคนอึ้งกันเลยทีเดียว นี่ไม่ใช่เพียงแค่จิมมี่ผู้ทรงอิทธิพลในประเทศไทยที่ยืนข้างเจเค แม้แต่นายกที่มีอำนาจในการขับเคลื่อนประเทศชาติยังมายืนยันด้วยตัวเองอีกด้วย แสดงว่าเจเคคนนี้

คือของจริง!

“เราอยากทราบว่าเพราะอะไรคุณถึงไม่เคยเผยตัวตนมาก่อนครับ?” นักข่าวคนนึงยกมือขึ้นกล่าวถามในขณะที่ทุกคนพากันเงียบด้วยความเหลือเชื่อ

“มันยุ่งยากครับในการรับมือกับพวกคุณ” ผมกล่าวไปตรงๆ ก็แน่ละ ถ้าชีวิตถูกตามติดโดยพวกนักข่าวจะทำอะไรแต่ละทีก็ลำบาก แค่หน่วยความมั่นคงแห่งชาติมาจับตาดูผมตลอดเวลามันก็อึดอัดมากๆแล้ว

“ในตอนนี้อันดับมหาเศรษฐีของโลกได้มีการเปลี่ยนแปลง”

“ใช่คุณเจเคหรือเปล่าคะที่เป็นอันดับสอง?” นักข่าวคนนึงกล่าวถาม เพราะชื่อของมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเป็นอันดับต้นๆของโลกอยู่ๆก็ผุดมาจากไหนไม่รู้ เนื่องจากที่ผ่านมาผมจะใช้บัญชีแยกมาตลอด แต่ละบัญชีก็มีหลักร้อยล้าน พันล้านขึ้นไป มีมากมายหลายบัญชี แต่ในปัจจุบันผมนำกลับมารวมกันหมดแล้วภายใต้ชื่อ J

“ครับ” ผมตอบกลับก่อนจะยกมือข้างซ้ายขึ้นมาปรากฏแหวนเพชรสีดำที่มีสัญลักษณ์ตัว J และถ้าหากมีแสงไฟส่องไปที่มัน มันจะสะท้อนแสงออกมาเป็นประกายอีกด้วย

“เรายังได้ข่าวมาว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลชื่อ J มีเหรียญคริปโต Bitcoin กว่า 30% ของทั้งหมด?”

“คุณเจเคเป็นผู้ถือครองใช่ไหมครับ?” นักข่าวด้านการลงทุนกล่าวถาม ซึ่งเหรียญ Bitcoin มันมีทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ ตอนนี้ถูกขุดไปแล้วกว่า 19 ล้านเหรียญมั้ง แต่ผมถือไว้ 600,000 กว่าเหรียญ ตั้งแต่ราคามันอยู่ที่หลักพันดอลลาร์

“นั่นก็ใช่ครับ” และการที่ผมยอมรับแบบนี้ ผมเชื่อเลยว่าเหรียญ Bitcoin ราคาจะพุ่งในไม่ช้า เพราะวาฬลึกลับหรือผู้ถือครองเหรียญ Bitcoin จำนวนมากได้ออกมาเปิดเผยตัวตนแล้ว แถมคนคนนี้ยังเป็นคนที่ขับเคลื่อนประเทศไทยอีกด้วย มีอิทธิพลสุดๆ

“ไม่ทราบว่าหลังจากนี้เป้าหมายของคุณเจเคคืออะไรครับ?” นักข่าวหลายคนกล่าวแต่ก็มีเพียงคำถามนี้ที่ดูน่าสนใจที่สุด

“คือการใช้ชีวิตครับ” ผมกล่าวจบก็วางมือทั้งสองข้างลงบนไหล่ของจิมมี่

“หลังจากที่จิมมี่จะเป็นคนตอบคำถามทุกอย่างแทนผมครับ”

“ผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมกล่าวจบก็จับมือจีอาและเดินออกไปจากบริเวณนี้ทันที ซึ่งก็มีเอ็กเซลกับฮิวเดินประกบผม ไม่มีใครเข้าถึงตัวผมได้สักคน

“เหนื่อยจัง” ผมกล่าวเมื่อเราทั้งคู่เดินมาที่เงียบๆกันสองคน

“จับแก้มสิ” จีอากล่าวก่อนจะยกมือของผมที่จับแก้มเธออยู่ขึ้นไปสัมผัสแก้มนุ่มนิ่มของเธอ

“ว่าแต่คนสำคัญของนายคนนั้นเขามางานนี้หรือเปล่า?” จีอากล่าวถามด้วยความสงสัย

“มาสิ” เมื่อผมกล่าวจบ เธอก็ปล่อยมือผมทันทีและขยับตัวห่างจากผม

‘เป็นอะไรของเธอนะ?’ ผมคิดในใจเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของจีอา

“ไปหยิบน้ำดื่มก่อนนะ” จีอากล่าวก่อนจะเดินไปที่ตักอาหารและหยิบน้ำส้มมาพร้อมกับชาเขียว เดาว่าชาเขียวน่าจะเอามาให้ผม

“!?" และเพียงพริบตาผมก็ได้เห็นบุุคคลปริศนากลุ่มนึงเดินไปหาจีอาเป็นขบวนสามเหลี่ยม

“เฮ้ย!” ในขณะที่ผมกำลังเดินไปหาจีอา เอ็กเซลก็ไปถึงตัวของเธอก่อนแล้ว และทำการจับแขนคนที่ใกล้ถึงตัวจีอาเอาไว้พร้อมกับจับร่างมันกดลงพื้น ส่วนผมก็เดินไปจับมือของคนข้างซ้ายที่กำลังจะชักอะไรบางอย่างขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อและใช้แรงกดหน้าอกของมันลงพื้นอย่างแรงจนร่างของมันแนบลงพื้น ส่วนอีกคนนึงก็โดนฮิวรวบตัวเอาไว้

“พาตัวไป” ผมกล่าวกับเอ็กเซลและเอ็กเซลก็ส่งตัวพวกมันสามคนให้ลูกน้อง ซึ่งที่จริงแล้วสามคนนี้เป็นคนของเรานี่แหละ เราแค่สร้างเหตุการณ์ขึ้น และทำให้สถานการณ์นี้มีคนสนใจกันเป็นจำนวนมาก ผมเพิ่งจะปรากฏตัวไม่นานก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว

“ผมขอพูดอะไรหน่อยนะครับ” ผมเดินไปที่จิมมี่ยืนอยู่และจิมมี่ก็ถอยให้ผม พวกนักข่าวถึงกับรีบขึ้นกล้องกันใหม่ทันที

“ใครที่มีปัญหากับผมไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่”

“ก็มาเล่นกับผม มาเผชิญหน้ากับผมได้เลย”

“ผมจะรอรับทุกรูปแบบ”

“แต่อย่าไปยุ่งกับคนรอบตัวผม”

“เพราะถ้าหากเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นอีกครั้งนึง” ผมกล่าวแต่อยู่ๆนายกเต้ก็เดินมาหาผม

“ไม่มีแน่นอน พวกเราเองก็จะช่วยดูแลคุณเจเคอย่างดี”

“เพราะการมีอยู่ของคุณสำคัญกับการพัฒนาประเทศของเราอย่างมาก” นายกเต้กล่าวเสริม ซึ่งแน่นอนว่าเราทุกคนล้วนรู้เรื่องนี้ เราดีลกันมาแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น และใครต้องทำอะไร

ถ้าหากผมเป็นเงาแล้วยังมีคนล่าผม งั้นถ้าผมออกจากเงาก็จะมีคนล่าผมมากกว่าเดิม และถ้าเป็นแบบนั้นผมก็จะกลายเป็นแสงสว่างที่ไม่มีใครจับต้องได้ จับเท่ากับตาย และมันไม่จบเพียงแค่นั้น ผมได้ออกสื่อไปแล้วด้วย ทุกคนบนโลกจะรับรู้ตัวตนผม และจะไม่มีใครกล้าทำอะไรผมอย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel