อะไรสนุกๆ...
ณ โรงแรม XZ
บรื้นนน
ผมได้ขับรถ Audi ป้ายแดงมาจอดในที่จอดของโรงแรมพร้อมกับบอกว่าเป็นนักศึกษาจากที่ไหน ซึ่งเมื่อลงจากรถพวกเขาก็นำทางเราไปที่ห้องโถงของโรงแรมทันที มันดูหรูมากเลยทีเดียว และนี่ทำเพื่อเป็นการปลุกไฟสำหรับนักธุรกิจตัวน้อยให้เห็นว่าเมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จ ชีวิตที่พวกเขาจะได้รับในอนาคตจะเป็นยังไงบ้าง
“เจเค…” หลายคนกล่าวทักทายผมเมื่อผมเดินผ่านพวกเขาไป ซึ่งผมไม่รู้จักพวกเขา แต่ชื่อเสียงของผมน่าจะดังไปไกลแล้วล่ะ เพราะผมได้เห็นมีคนพูดถึง “เจเค” ในกลุ่มมหาลัยมากมายเกี่ยวกับเด็กใหม่มหาอำนาจคนนี้
“สวัสดีครับน้องเจเค” รุ่นพี่คนที่เป็นลูกของเจ้าของที่นี่เดินมาทักทายผม
“สวัสดีครับ” ผมกล่าวทักทายกลับไป ถ้าเขารู้อายุของผมคงจะไม่พูดกับผมแบบนี้แน่ๆ
“น้องจีอาด้วย สวัสดีครับ”
“เดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วโมงเราจะไปรับน้องกันที่สระว่ายน้ำนะครับ” เขาเดินมากล่าวจบก็เดินไปบอกน้องๆคนอื่นต่อ และปล่อยให้พวกเราทานข้าวกันอย่างสบายๆ แต่ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆยังไงชอบกล เพราะพวกผู้ชายพากันมองผู้หญิงในสาขากันไม่หยุด แทนที่จะมองอาหารตรงหน้า
‘สระว่ายน้ำงั้นเหรอ?’ ผมคิดในใจก่อนจะหันไปมองชุดที่จีอาใส่มา ซึ่งเธอยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่ ต่างจากคนอื่นที่เปลี่ยนชุดกันมาเรียบร้อยแล้ว ส่วนผมใส่สูทราคาแพงเลยแหละ
1 ชั่วโมงผ่านไป
“น้องๆปีหนึ่งรบกวนไปยืนที่ริมระด้วยครับ” รุ่นพี่ปีสามกล่าวและทำให้พวกเราเดินไปที่นั่นทันที ส่วนผมยังคงยืนอยู่นิ่งๆ รวมถึงจีอาด้วยเช่นกัน
“น้องเจเคไม่เล่นเหรอครับ?” รุ่นพี่คนเดิมเดินมากล่าวถามผมก่อนจะยักคิ้วไปทางจีอา และเมื่อผมสังเกตรอบๆ ดูเหมือนหลายคนจะจ้องมองจีอาด้วยเช่นกัน
เอาล่ะ
ผมเข้าใจแล้ว
เจ้าพวกนี้อยากให้น้องๆเล่นน้ำสินะ
แต่จีอาใส่ชุดนักศึกษามานี่สิ
“เล่นครับ แต่ขอเวลาสักครู่” ผมกล่าวก่อนจะถอดสูทออกและสวมให้กับจีอา ซึ่งเมื่อผมทำแบบนี้มันทำให้หลายคนแสดงความไม่พอใจออกมาทันที
“ไปกันเถอะ” ผมกล่าว แต่เมื่อผมจะเดินไปปรากฏมีแต่หัวแถวที่ว่าง และระหว่างทางเดินก็มีรุ่นพี่ผู้หญิงมองผมกันตาเป็นมัน แต่สิ่งที่พวกเธอมองไม่ใช่แค่หน้าตานี่สิ มันเป็นร่างกายของผม…
“อุ๋ย!” และก็มีรุ่นพี่คนนึงสะดุดขาเพื่อนตัวเองมาชนกับจีอา ผมที่มีปฏิกริยาว่องไวจึงเอนตัวไปรับจีอาเอาไว้และมันทำให้เราทั้งคู่ตกลงไปในสระว่ายน้ำ จนเสื้อเชิ้ตของผมมันเริ่มแนบเนื้อ
“โห…” ตามด้วยเสียงคนที่สะดุดเมื่อครู่เมื่อเห็นร่างกายแน่นๆของผม
“น้องจีอาผิวใสมากเลยว่ะ แต่เสียดายมีสูทคลุมไว้” และบังเอิญหูผมก็ดีด้วยนี่สิ แสดงว่าสะดุดเมื่อกี้คงจะเป็นการแกล้งกันแน่ๆ
เอาสิ
อยากเห็นกันนักใช่ไหม…
ฟุบ
“อึก…” แต่เมื่อผมถอดเสื้อเชิ้ตออก สายตาและท่าทางของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที เพราะพวกเขาได้เห็นรอยแผลบนร่างกายของผมมากมาย และผมก็ได้อุ้มร่างของจีอาขึ้นมาพร้อมกับเดินขึ้นไปบนริมสระ
“อ่า…รุ่นพี่ครับ” ผมกล่าวก่อนจะวางร่างของจีอาบนเก้าอี้และเดินไปหารุ่นพี่คนเดิม พร้อมกับหยิบปืนออกมาจากกางเกง
“ถ้าเดาไม่ผิดกิจกรรมจะเป็นการเล่นน้ำใช่ไหม”
“ผมลงน้ำไปแล้วแบบนี้ก็ถือว่าเล่นแล้วนะครับ” ผมกล่าวพร้อมกับยกปืนที่เปียกน้ำขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งไม่ว่าจะใครก็ต่างกลัวผมกันไปหมดในเวลานี้ ผมไม่ใช่นักศึกษาธรรมดาจริงๆด้วย ทั้งรอยสัก รอยแผล และยังมีปืนอีก
นี่มันไม่ต่างจากมาเฟียชัดๆ!
“อะ เอ่อ ครับ ใช่ครับ..” และในครั้งนี้เขากล่าวอย่างระมัดระวังกับผมมา
“ทางนี้ครับคุณจิมมี่ ผมจะพาไปดูอะไรสนุกๆครับ” เจ้าของโรงแรมเดินมาพร้อมกับจิมมี่ และทำให้หลายคนหันไปมอง เพราะจิมมี่อาจจะแก้ไขสถานการณ์สุดกดดันตรงนี้ได้ ในวงการธุรกิจไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักและเคารพจิมมี่ทั้งนั้นแหละ
“ท่านเจเค!?”
“นี่เหรอที่คุณบอกว่าอะไรสนุกๆน่ะ!?” จิมมี่กล่าวก่อนจะรีบวิ่งมาหาผมและคว้าผ้าเช็ดตัวมาด้วย
“เอาไปให้จีอา” ผมกล่าว และจิมมี่ก็รับคำสั่งรีบเอาผ้าเช็ดตัวไปให้จีอาก่อนจะเดินกลับมา
“อะไรน่ะ เด็กนั่นมีปืน!?”
“การ์ด!” เมื่อเจ้าของโรงแรมเห็นผมถือปืน เขาก็ตะโกนเรียกบอดี้การ์ดในทันที
“ฉันก็มี จะจับฉันด้วยไหมล่ะ!?" จิมมี่ตวาดดังลั่นก่อนจะเปิดเสื้อสูทออกมาให้เห็นว่าเขามีปืนเหน็บไว้ในสูทจริงๆ พวกการ์ดจึงยืนนิ่ง
“คุณบอกว่าจะพาผมมาดูกิจกรรมรับน้องของเด็กรุ่นใหม่”
“นี่มัน..ทำบ้าอะไรกันห้ะ!?”
“เวรเอ้ย!” จิมมี่สบถเมื่อเห็นว่าปืนของผมเปียกน้ำ ซึ่งการที่ปืนของผมถูกใช้งานหรือเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ มันจะส่งสัญญาณไปที่ฮิวทันที
และทันทีที่จิมมี่กล่าวจบ ชายสูทดำนับสิบคนก็วิ่งกรูกันเข้ามาที่สระว่ายน้ำทันที ซึ่งคนนำกลุ่มก็คือฮิว ต่อมาก็มีวินเซนต์ และนอกจากฮิวจะรู้แล้ว เลขาทั้งเจ็ดของผมก็จะรู้ด้วย ซึ่งวินเซนต์นั้นอยู่ไม่ห่างตัวผมตลอด
“เอ่อ คุณจิมมี่ไม่ทราบว่าชายคนนี้คือใครเหรอครับ?” เจ้าของโรงแรมกล่าวด้วยความตกใจ
“งั้นแสดงว่าเรื่องนี้สองพ่อลูกก็รู้เรื่องสินะ” ผมกล่าวพร้อมกับเดินไปเผชิญหน้ากับเจ้าของโรงแรม และฮิวก็ตามผมมาติดๆพร้อมกับลูกน้องของเขาที่ระวังนักศึกษารอบข้างเป็นวงกว้าง
“ท่านเจเค..เดี๋ยวผมจัดการทุกอย่างเองครับ” จิมมี่รีบกล่าวพร้อมกับไปนำชุดคลุมมาให้ผมสวมใส่
“จิมมี่…” ผมกล่าวเรียกจิมมี่และทำให้เขาหยุด จิมมี่ก้มหัวเคารพผมเพื่อรอรับคำสั่ง
“ครับ…” และท่าทางของจิมมี่แสดงให้เห็นแล้วว่าผมยิ่งใหญ่กว่าจิมมี่คนนี้ซะอีก ทำให้ทุกคนทำตัวกันไม่ถูกเลยทีเดียว
“ถ้าจำไม่ผิดโรงแรมนี่เราเป็นนายทุนใช่ไหม?” ผมกล่าวถาม
“ครับ ใช่ครับ” จิมมี่กล่าวตอบแต่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมา เพราะผมยังไม่ได้สั่งอะไร
“เข้าควบคุมโรงแรมนี้ซะ แล้วเปิดห้องให้หน่อยจะไปอาบน้ำ” ผมกล่าวก่อนจะหันไปส่งสัญญาณมือกับฮิวว่ากลับไปได้ ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว และผมก็เดินไปหาจีอา
“เดี๋ยวขึ้นไปอาบน้ำกันก่อน”
“แล้วค่อยไปส่ง” ผมกล่าวกับจีอา และเธอก็พยักหน้า ในตอนนี้เธอเองก็ดูกลัวผมมาก เพราะได้เห็นมาแล้วว่าผมมีอำนาจขนาดไหนที่นายกของประเทศยังต้องเคารพและกลัวเกรงผมมากๆ และมันคงจะเป็นเรื่องยากที่เธอจะปฏิเสธคำพูดของผม
“กิจกรรมสนุกๆงั้นเหรอ หึ” ผมกล่าวเมื่อเดินผ่านพวกรุ่นพี่ไปมากมาย และพวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองผมด้วยซ้ำ จากตอนแรกที่มองผมปานจะกลืนกิน ส่วนจีอาก็เดินตามผมมาติดๆ
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
“อืม…” ผมที่กำลังนั่งเครียดอยู่เพราะว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้มันโจ่งแจ้งเกินไป มีทั้งกล้องวงจรปิด ผู้คน นักศึกษา ได้ถูกเล่าปากต่อปาก ลงข่าวในกลุ่มไลน์ บ้างก็มีอัดคลิปกันไว้ด้วย มันเกินการควบคุมของเราไปมากๆ และไม่ว่าจิมมี่จะพยายามปิดข่าวขนาดไหน ภาพที่พวกเขามีก็ยังชัดเจน คือภาพที่จิมมี่ก้มหัวเคารพให้กับผม ทำให้มีผู้คนมากมายได้พูดถึงตัวตนของผม
ว่าผมเป็นใครกันแน่…
“ที่จริงนะเจเค ฉันคิดว่านายไม่ควรต้องคิดมากเรื่องนี้เลย”
“ตั้งแต่ฉันได้ยินว่านายเข้ามหาลัยเพราะเป็นคำขอจากพ่อของนาย”
“ฉันก็เข้าใจแล้วล่ะ ว่าพ่อของนายอยากให้นายมาใช้ชีวิตจริงๆ”
“เพราะไม่ว่ายังไง การออกมาใช้ชีวิตในมหาลัยตัวตนของนายก็จะกลายเป็นที่พูดถึงอยู่แล้ว”
“ทั้งรอยสัก รูปร่างหน้าตา ทุกๆอย่างของนายมันดีจนเกินไป” จีอากล่าว โดยในตอนนี้เราทั้งสองได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จเรียบร้อย
“เพราะฉะนั้นการขุดคุ้ยประวัติของนายนอกจากพวกนักข่าวแล้ว”
“นักศึกษาเองก็อยากรู้เหมือนกันนะ” จีอากล่าวเสริม และมันทำให้ผมถึงกับต้องเดินออกไปสูดอากาศตรงระเบียง
“เจเค…” เมื่อจีอาได้เห็นท่าทางกดดันของผม มันทำให้เธอเรียกชื่อผม ให้ผมได้สติ และพยายามคิดทบทวนทุกๆอย่างที่เธอได้พูดไปอีกครั้ง
“ฉันเองก็คิดไว้เหมือนกัน”
“แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้…” ผมกล่าวก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาจิมมี่
“พรุ่งนี้จัดงานแถลงข่าวที่ห้างของเรา”
“และรวมเหล่าผู้บริหารทุกๆสายงานมาที่นั่น”
“ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะออกจากเงา” ผมกล่าวออกไปและทำให้ปลายสายเงียบไปสักพัก
“ครับ” ก่อนจะตอบรับกลับมาและผมก็วางสายไปทันที
“ขอบคุณนะ…คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่แหละ”
“ตอนนี้ตัวตนของฉันน่าจะถูกเปิดเผยไปแล้วกับโลกใต้ดิน”
“มันอันตรายถ้าฉันจะไปส่งเธอด้วยตัวเอง”
“งั้นเดี๋ยวให้ฮิวไปส่งนะ” ผมกล่าวก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะอยู่กับนายเองเจเค”
“ฉันง่วงแล้วล่ะ ไปนอนก่อนนะ” จีอากล่าวจบก็เดินไปนอนบนเพียงหน้าตาเฉย ทำให้ผมยกมือขึ้นมาเกาหัวแกรกๆก่อนจะเดินไปปิดไฟและขึ้นไปนอนบนเตียงเช่นกัน แต่ผมก็ยังหลับไม่ลงเพราะมีเรื่องต้องคิดอีกมากมาย
“ฉันขอบคุณเธออีกครั้งนะจีอา”
“เธอเหมือนแสงสว่างที่ฉายแสงให้เงาอย่างฉันปรากฏตัวเลยแหละ” ผมกล่าวแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
ฟึบ
“?” แต่เมื่อร่างบางได้ขยับ มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆจนกระทั่งเธอได้เข้ามากอดผมและนอนซบไหล่ของผม
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณนาย”
“นายเป็นคนดึงฉันขึ้นมาจากก้นเหวเลยนะ”
“นายต่างหากคือแสงสว่างของฉัน” จีอากล่าวก่อนจะกระชับกอดผมไว้แน่น และผมก็เริ่มรู้สึกว่าไหล่ของผมมันมีน้ำอะไรบางอย่างหยดลงมาจนเริ่มเปียก ทำให้จีอาต้องขยับแขนของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง เดาว่าน่าจะคือน้ำตาของเธอ
จะว่าไปจีอาเองก็เข้มแข็งมากๆเลยนะทั้งที่เป็นผู้หญิง อายุยี่สิบเท่านั้น ต้องแบกรับหนี้สิน และภาระมากมายเพื่อให้น้องชายและตนเองใช้ชีวิตได้ต่อไป
“ไม่หรอก เธอน่ะเก่งมาก” ผมกล่าวก่อนจะพลิกตัวไปสวมกอดจีอาและเธอก็เริ่มสะอื้นร้องไห้ออกมาพอสมควรก่อนจะหลับไป ส่วนตัวผมเองเมื่อได้รับกอดและสวมกอดที่อบอุ่น ผมก็รู้สึกผ่อนคลายจนตาของผมได้ปิดลงไปเหมือนกัน…
วันถัดไป
“อืม…” เมื่อผมตื่นขึ้นมา ผมก็รู้สึกเหมือนหัวของผมกำลังนอนบนอะไรนิ่มๆที่ไม่ใช่หมอน
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงใสกล่าวถามผมทำให้ผมพยายามลืมตาขึ้น โดยปกติแล้วผมไม่เคยหลับลึกแบบนี้มาก่อน แต่ในวันนี้ ตอนนี้ ผมกำลังนอนซบบนขาอ่อนของจีอา โดยที่เธอกำลังนอนพิงหัวเตียงเล่นโทรศัพท์ของเธออยู่
‘ว้าว…’ เมื่อผมตื่นมาและได้เห็นหน้าสวยๆของจีอา มันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขยังไงไม่รู้ จนผมต้องยื่นมือขึ้นไปสัมผัสกับแก้มของเธอโดยไม่ตั้งใจ
“แก้มของฉันมันนิ่มใช่ไหมล่ะ” แต่เมื่อผมจะดึงมือกลับ เธอกลับจับมือผมไว้ให้สัมผัสกับแก้มของเธอต่อ
“สัมผัสมันได้เลย เต็มที่”
“นายจะได้ไม่กดดันตอนที่เปิดเผยตัวตน” จีอากล่าวทำให้ผมยิ้มออกมา และมันเป็นรอยยิ้มที่ผมไม่ได้ฝืนเลยแม้แต่น้อย ผมรู้สึกดีจริงๆนั่นแหละ
“เธอก็ไปด้วยกันกับฉันสิ” ผมกล่าว จีอาถึงกับนิ่งเงียบไปสักพัก
“ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัททั้งหมดของนายเลยนะ"
“และอีกอย่างนายเรียกไปแค่ผู้บริหารไม่ใช่รึไง” จีอากล่าว ถึงแม้เธอจะเป็นพนักงานของผม แต่เธอก็มีหน้าที่แค่ดูแลเจบีแค่นั้นเอง
“เธอเป็นคนทำให้ฉันออกมาจากเงาไม่ใช่เหรอ?”
“จะไม่รับผิดชอบกันหน่อยรึไง?" ผมกล่าว ผมรู้สึกว่ามีจีอาอยู่ข้างๆแล้วอุ่นใจ รู้สึกสบายใจมากกว่ามีลูกน้องเป็นสิบคนซะอีก
“รับผิดชอบยังไงล่ะ?” จีอากล่าวถามผมกลับ
