ระบายความโกรธ
“เป็นคนธรรมดานี่แหละ” ผมกล่าว และทำให้พวกสาวๆพากันจิ๊ปากหมั่นไส้ผม
ฟึบ
“ใครมา?” ผมกล่าวถามเมื่อลิฟต์ได้ถูกเปิดออก และผมก็ได้ยินเสียงคนกำลังเดินมามากมาย มันทำให้ผมจับปืนที่เอวไว้ทันที
“ท่านเจเคครับ มีเรื่องนิดหน่อยครับ” และเป็นจิมมี่ที่เดินเข้ามากล่าวก่อนที่จะมีชายสูทดำมากมายเดินกันเข้ามาในออฟฟิศของเรา ซึ่งคนพวกนั้นก็เป็นกลุ่มคนที่ผมรู้จัก พวกเขาคือคนจากหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ แต่ที่แปลกคือในรอบนี้หัวหน้าหน่วยงานมาด้วยตัวเองเลยทีเดียว
“ก็นึกว่าใคร…” ผมกล่าวพร้อมกับปล่อยมือจากปืน
“จิมมี่พาเพื่อนๆของผมไปหาอะไรกินหน่อยสิ” ผมกล่าวก่อนที่หัวหน้าหน่วยงานจะเดินตรงมาหาผมและนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามผมทันที
“แต่ท่านเจเค…” จิมมี่กล่าวเพราะกลัวว่าผมจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากพวกเขามากันเยอะมาก แต่ผมอยู่ตัวคนเดียว
“ไม่มีอะไรหรอก จีอาพาเพื่อนไปหน่อยสิ” ผมกล่าวและหันไปหาจีอา ซึ่งจีอาก็พยักหน้าให้ผม ก่อนที่พวกเธอจะกวาดสายตามองเหล่าคนที่มาจากหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและเดินออกไปจากห้อง
เพล้งๆๆ
“มันหมายความว่าไงเจเค!?” หัวหน้าหน่วยงานทุบโต๊ะกระจกแตกด้วยความโมโห และทำให้พวกสาวๆถึงกับสะดุ้ง เพราะพวกเธอยังไม่ทันเดินออกไปจากห้องด้วยซ้ำ แต่เมื่อพวกเธอหันกลับมาก็สบตากับผมที่นั่งนิ่งๆอยู่
“ช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายเลยนะ” เขากล่าว แน่นอนแหละ ระดับหัวหน้าหน่วยความมั่นคงแห่งชาติ การจะได้รับตำแหน่งนี้มาไม่ใช่เล่นๆอยู่แล้ว เขาพร้อมชนกับทุกหน่วยงานทุกเมื่อ แม้แต่ตัวตนระดับผมก็ตาม
“ท่านครับ ใจเย็นๆครับ” หัวหน้าทีมที่คอยจับตาดูผมกล่าวเพื่อให้เขาระงับอารมณ์ ไม่อยากให้มีปัญหากับผม
“จะใจเย็นได้ยังไง! ไอเวรนี่มันสั่งคนไปกระทืบเด็กนักเรียน!”
“มึงบ้าหรือเปล่าวะเจเค!?” เขากล่าวก่อนจะลุกขึ้นและกระชากคอเสื้อผม สายตาของเราได้จ้องมองกัน และมันทำให้พวกลูกน้องของเขาพากันขัดหัวหน้าของตัวเอง และลากตัวกลับไปนั่ง แต่เขาไม่ยอม เขายังคงค้างท่านี้เอาไว้
และเขาเป็นหนึ่งในคนที่กล้าทำแบบนี้กับผม นอกจากพ่อของผมและเอ็กเซล ก็มีเขาอีกคนนี่แหละ คนทั่วไปไม่กล้านั่งตรงข้ามผมด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะทหารยศไหน ไม่ว่าจะตำรวจยศอะไร หรือแม้แต่นายกก็ยังต้องสุภาพกับผม
“ไปกันได้แล้ว” ผมกล่าวเพื่อให้พวกสาวๆตามจิมมี่ไป แต่ดูพวกเธอเป็นห่วงผมมากเลยทีเดียว
“คุณจิมมี่คะ ฉันเองก็เป็นคนของเจเค”
“เพราะฉะนั้นฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเขาเองค่ะ” จีอากล่าว และทำให้จิมมี่หันมามองผม ซึ่งผมก็พยักหน้าตอบรับ และจีอาก็ได้เดินมายืนข้างผม เพราะถ้าจีอาไม่มา พวกสาวๆก็จะไม่ยอมไปกันสักคน และเมื่อจีอาเดินมาหาผม ทำให้จิมมี่สามารถพาพวกเธอลงลิฟต์ไปได้ปกติ
“พวกมันมายุ่งกับน้องสาวของผมก่อนนะครับ” ผมกล่าวก่อนจะกลับมาสบตากับหัวหน้าหน่วยความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเขามองหน้าผมด้วยความโมโหเป็นอย่างมาก
“แล้วมึงจะสั่งคนไปกระทืบเด็กนักเรียนเพื่อ?”
“มึงรู้ไหมว่าคนที่เด็กมึงไปกระทืบมันเป็นลูกของสส.” เขากล่าวและกำเสื้อผมไว้แน่น
“อ๋อ.. ก็ไม่แปลกที่คุณจะโกรธ”
“แต่น้องสาวของผมโดนพวกมันกระทำก่อนนะ”
“ถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลยด้วย”
“คุณจะให้ผมอยู่นิ่งได้รึไง!?” ผมกล่าวจบด้วยประโยคสุดท้ายที่ตวาดดังลั่นและลุกขึ้นมากระชากคอเสื้อเขากลับ
“แม่งเอ้ยมึงมาซัดกับกูดีกว่าไอสัส!” เขากล่าวก่อนจะกระชากคอเสื้อผมออกไปพื้นที่กว้างตามด้วยถอดเสื้อสูทออก ส่วนตัวผมเองก็ถอดสูทออกเช่นกันเหลือเพียงเชิ้ตบางๆ
และถ้าถามว่าทำไมเขาถึงดูดุดันได้ขนาดนี้ เพราะเขาคือหนึ่งในทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อดีตนาวิกโยธินที่เคยได้รับเหรียญกล้าหาญสูงสุด แต่เพราะด้วยนิสัยหัวร้อนของเขาทำให้เขาไม่ชอบฟังคำสั่งใคร แต่ความสามารถในการจัดการคนและต่อสู้ของเขาทำให้กองทัพขาดเขาไปไม่ได้เหมือนกัน ก็เลยย้ายเขามาหน่วยงานนี้ซะแทน
ผลั๊วะ
และเป็นฝ่ายเขาที่เริ่มเปิดหน้าผมก่อน ตามด้วยผมที่ศอกเข้าที่แก้มของเขาอย่างจังจนร่างของเขาเซไปพอสมควร ถ้าจะให้พูดแล้ว ร่างกายของผมสูงใหญ่กว่าเขาพอสมควรเลยทีเดียว แต่ใจของเขานั้นเด็ดขาดและกล้าหาญเป็นอย่างมาก เขาจึงไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้ามาถีบอกของผม แต่ผมก็ใช้ขายันตัวเองเอาไว้ได้และจับเท้าของเขาเหวี่ยงเป็นของเล่นและปล่อยไปทำให้ร่างเขากระทบเข้ากับกำแพงห้องอย่างจัง
“อั่ก” เขาพยายามลุกขึ้นมาอีกครั้งแต่ด้วยแรงกระแทกเมื่อครู่มันทำให้เขายืนแทบไม่ไหว ผมเองก็ไม่รอช้า ถ้าสู้กับทหารรุ่นนี้ประมาทไม่ได้เด็ดขาด ผมเข้าไปหวังจะต่อยเขาแต่เขาก็หลบผมทัน ทำให้หมัดของผมมันไปโดนกำแพงซะแทน แต่ผมก็ไม่รู้สึกเจ็บสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อผมรู้ว่าเขาจะหลบได้ผมก็ผ่อนแรงลง และเมื่อมาถึงตู้เก็บของที่เป็นพลาสติก
ตุบ ตุบ
“เราควรจะเข้าไปหยุดพวกเขานะครับ” หนึ่งในทีมที่จับตาดูผมกล่าว เพราะหมัดของผมมันรุนแรงมาก มากถึงขนาดที่ทำให้ตู้นั้นมีรอยหมัดของผมถึงสองรอยเลยทีเดียว ส่วนจีอาเองก็ตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดการต่อสู้ขึ้นที่นี่ เพราะอีกฝ่ายนั้นเป็นหน่วยความมั่นคง ไม่ใช่หน่วยรบพิเศษที่จะมาจับตัวผม
“ไอสส.ตัวไหนเดี๋ยวผมจะไปคุยกับมันเอง!” ผมกล่าวก่อนจะชกไปอีกหมัดและในครั้งนี้เขารับหมัดของผมเอาไว้ได้และใช้ถึงสองมือเลยทีเดียว พร้อมกับแรงดันของกำแพง ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงตัวเองออกมาจากมุมกำแพงเพื่อให้หลุดจากการไล่ต้อนของผม
“แม่งมายุ่งกับน้องกูคิดว่าเจ๋งเหรอวะ!?” ผมตวาดดังลั่นอีกครั้งและเดินไปหาคนที่กำลังสู้กับผม
ผลั๊วะ ฟุบ
และผมก็ได้ไล่ต่อยเขาไปเรื่อยๆจนเขาได้ใช้ความคล่องแคล่วจับโน้นจับนี่จนไปอยู่บนโซฟาที่ผมนั่ง และผมก็ต่อยเข้าไปที่โซฟาเน้นๆจนทำให้โซฟาถึงกับปลิวไปเลยทีเดียว
ฟุบ
อึก
“งั้นมึงก็จัดการเองเลยนะเรื่องนี้อะ!” เขาพุ่งมาล็อคแขนข้างที่ผมชกโซฟาไปเมื่อครู่และใช้แรงร่างกายงัดผมลงพื้น พร้อมกับใช้ขาทั้งสองข้างรัดคอผมเอาไว้
“เออ! เดี๋ยวจัดการเองแหละ!” ผมกล่าวจบก็พยายามใช้แรงลุกขึ้นมาอีกครั้ง รวมถึงใช้แขนข้างนั้นยกร่างของเขาขึ้นมาด้วยก่อนจะเหวี่ยงร่างเขาไปกระทบกับโซฟา
“แม่งเอ้ยคนหรือสัตว์ประหลาดวะ!?” เขากล่าวก่อนที่จะลุกขึ้นมาจากโซฟาและเดินไปหาลูกน้อง ที่จริงแล้วเขาน่าจะมาเพื่อระบายความโกรธเพราะถูกกดดันมาหลายด้าน และเชื่อว่าผมเป็นกระสอบทรายชั้นดีเพราะจะทำยังไง ลงแรงไปขนาดไหนผมก็ไม่บาดเจ็บแน่ๆ ส่วนตัวผมเองก็คิดว่าเขาเป็นตัวระบายความโกรธเหมือนกัน เพราะไม่ว่าผมจะสู้กับเขายังไงเขาก็จะหาทางรับมือและเอาตัวรอดจากผมได้
มิฉะนั้นเขาคงไม่กล้ามาหาเรื่องผมหรอก
ฟึบ ฟุบ
“ไปจัดการด้วยนะไอเด็กเวร!” เขาเดินไปหยิบซองเอกสารจากหัวหน้าทีมที่คอยจับตาดูผมและโยนซองกระดาษนั้นให้ผมก่อนจะเดินออกไปจากออฟฟิศ
“แม่งเอ้ย!!ยังคันไม้คันมืออยู่เลย” ผมสบถและหันไปมองหน่วยความมั่นคงแห่งชาติจนทำให้พวกเขาถึงกับสะดุ้งและรีบเดินออกไปจากที่นี่ในทันที
“เจเค เป็นอะไรไหม?” จีอาเดินมาหาผมแล้วกล่าวถาม
“ปวดแขนนิดหน่อย ไอแก่นั่นรัดซะแรงเลย” ผมกล่าวก่อนจะเดินไปจับโซฟาเลื่อนมาที่เดิม
เพิ่งจัดออฟฟิศใหม่เสร็จแท้ๆ มาโดนพายุลงซะอีก
เวรกรรมจริงๆ
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?” จีอากล่าวถามต่อ
“น้องสาวของเราโดนลักพาตัวไป”
“และเราก็สั่งให้คนไปจัดการพวกนั้นซะ” ผมอธิบายสั้นๆ ซึ่งจีอาก็พอเข้าใจสถานการณ์อยู่บ้าง เนื่องจากรอบตัวผมมีอันตรายไปหมด แต่เดี๋ยวก่อน น้องสาวงั้นเหรอ?
“แล้วน้องสาวของนายล่ะ?”
“เข้าโรงพยาบาลเลยไม่ใช่เหรอ”
“ไปดูแลกันหน่อยไหม?” จีอากล่าว และเรื่องนี้มันทำให้ผมหงุดหงิดมาก เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เจดี้โดนลักพาตัว และเป็นครั้งแรกที่เจดี้โดนรุมทำร้ายถึงขั้นสลบไปแบบนี้
“ให้เธอได้พักผ่อน เดี๋ยวค่อยไปตอนตื่น” ผมกล่าว เพราะผมยังมีเรื่องต้องไปเคลียร์กับสส. อะไรนั่นอีก
“ไม่ได้สิ นายเป็นพี่ชายนะ ต้องไปดูแลน้องสาว" จีอากล่าว และมันก็เริ่มทำให้ผมสับสนเล็กน้อย
“ไม่ต้องพูดแล้ว”
“เรื่องอื่นพักไว้ก่อน ต้องดูแลน้องสาว เพราะเธอเป็นคนสำคัญของนายนะ”
“เป็นครอบครัว” จีอากล่าวก่อนจะดึงมือผมไปจากออฟฟิศ ทำให้ผมต้องฝากเรื่องนี้กับจิมมี่ที่ใต้ตึก เพราะพวกเขานั่งรอกันอยู่ใต้ตึก เนื่องจากจิมมี่ไม่วางใจหัวหน้าหน่วยความมั่นคงแห่งชาติคนนั้น เพราะเขาเองก็รู้ดีว่ามาเจอกับเจเคแต่ละทีสุดท้ายก็จบที่สู้กัน บางครั้งเรื่องใหญ่หน่อยก็ใช้อาวุธกันเลยทีเดียว
ณ โรงพยาบาล
ตี๊ด
“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าโรงพยาบาลก็คล้ายคอนโด” จีอากล่าวเมื่อผมใช้การ์ดแสกนตรงที่กดชั้นลิฟต์ และเมื่อผมแตะลงไปมันก็สามารถไปยังชั้นที่ไม่มีในลิฟต์ได้
“แต่เดี๋ยวนะ ทำไมชั้นนี้มันไม่อยู่ในลิฟต์?” เมื่อมาถึงชั้นที่ 21 ปรากฏชั้นนี้ไม่มีอยู่ในที่กดลิฟต์ ทำให้จีอาสับสนมาก
“มันเป็นชั้นของตระกูลของเราเอง”
“และมีเพียงห้องเดียว” ผมกล่าวก่อนจะเดินไปที่ห้องนั้น โดยข้างหน้าห้องก็มีบอดี้การ์ดยืนเฝ้าอยู่สี่คน ซึ่งเมื่อพวกเขาเห็นผม พวกเขาก็ก้มหัวเคารพผมทันที ตามด้วยก้มหัวเคารพจีอา พวกเขาไม่รู้แหละว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่เมื่อสามารถเดินเคียงข้างกับนายท่านพวกเขาได้ ยังไงก็ต้องเคารพ
“โหห้องใหญ่มากก” จีอากล่าวเมื่อได้เข้ามาเห็นห้องข้างใน ก่อนที่เราทั้งคู่จะเดินไปที่เตียงคนไข้ซึ่งก็มีเจดี้นอนหลับอยู่ แต่สุดท้ายเธอก็งัวเงียตื่นขึ้นเพราะเสียงของจีอา
“พี่เจเค…" เจดี้ตื่นขึ้นมาก็เรียกชื่อผมทันที ผมจึงวางมือไว้บนมือของเธอให้รู้ว่าเราปลอดภัย เพราะคิดว่าเธออาจจะยังวิตกกังวลเกี่ยวกับพวกคนที่ลักพาตัวเธอไปอยู่
“พี่…จีอา สวัสดีค่ะ” และเมื่อเจดี้เห็นหน้าจีอา เธอใช้เวลานึกชื่อของจีอาเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นมาไหว้และพยายามลุกขึ้นมานั่ง ส่วนจีอาก็รีบเดินไปกดรีโมททำให้หัวเตียงถูกยกขึ้นมาทันที
“รู้จักกันด้วยเหรอ?” ผมกล่าวถาม ที่จริงผมก็พอรู้อยู่แหละว่ารู้จักกัน เพราะยังไงตอนที่ไปรับไปส่งเจบี เจดี้ก็น่าจะเห็นหน้าเธอบ้าง
“ใช่ คิดไว้แล้วว่าเจดี้น่าจะเป็นพี่สาวของเจบี” จีอากล่าว ซึ่งการที่เจดี้เคารพและยิ้มแย้มให้จีอาแบบนี้แสดงว่าเธอพอจะรู้จักและสนิทกับพี่จีอาอยู่บ้าง
“อย่าบอกนะว่าพี่จีอาก็เป็นหนึ่งในเลขาของพี่” เจดี้กล่าวถาม
“เธอเป็นเพื่อนที่มหาลัยของพี่” ผมตอบกลับไป และนี่น่าจะเป็นการพูดคุยที่มากที่สุดในสองปีที่ผ่านมาระหว่างผมกับเจดี้
“แล้วเป็นยังไงบ้าง เจดี้เจ็บตรงไหนไหม?” จีอากล่าวถามและเดินไปสำรวจร่างกายของเจดี้
“เจดี้..แข็งแรงจะตายพี่จีอา” เจดี้กล่าวและยิ้มตอบรับความห่วงใยของจีอา ซึ่งในความคิดของผม ผมคิดว่าทั้งสองดูเหมือนพี่น้องกันมากกว่าผมซะอีก
“เป็นห่วงพี่เจเคเถอะพี่จีอา”
“อีกฝ่ายที่ลักพาตัวเจดี้เขามีอำนาจมากเลยนะ” เจดี้กล่าวและมันทำให้ผมยกยิ้มมุมปาก
“เจดี้ไม่ต้องเป็นห่วงพี่ชายเธอหรอก”
“พี่ของเธอน่ะสุดยอดมากเลยนะ” จีอากล่าวและมันทำให้เจดี้สับสน
“ก่อนเจดี้จะหลับพี่ก็บอกไปแล้วไง ว่าพวกมันใหญ่ขนาดไหนพี่ใหญ่กว่า” ผมกล่าวเสริม
