บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

กวนหลันถอนหายใจ ลูบใบหน้าเล็ก ๆ ที่เปื้อนไปด้วยฝุ่นของฉู่ซิว แล้วพูดต่อว่า : “ต่อไปหากมีใครรังแกพวกเจ้าอีก ให้มาหาแม่ก่อน แม่จะสอนพวกเจ้าว่าต้องคุยกับพวกเขาด้วยเหตุผลอย่างไร ——อย่างเช่นเมื่อครู่หวังกุ้ยจือมาหาเรื่อง เราเองก็ใช้เหตุผล ทำให้นางพูดเถียงไม่ออกไม่ใช่หรือ”

จากนั้นกวนหลันก็หันไปลูบใบหน้าเล็ก ๆ ของฉู่หลิงเอ๋อร์ แล้วยืนขึ้น : “ข้าจะไปทำกับข้าว พวกเจ้าไปอาบน้ำอาบท่าให้สะอาด”

ไม่ทันได้สนใจปฏิกิริยาตอบสนองของเด็กทั้งสอง กวนหลันก็เดินเข้าห้องครัวไป ไหล่ก็ตกลงมาอีกครั้ง

นางเองก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ทำไมต้องเริ่มดูแลเด็กน้อยสองคนนี้เสียแล้ว? !

เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย?

ยังมีฉู่ซิวกับฉู่หลิงเอ๋อร์อีก ทำไมนางถึงรู้สึกคุ้นหูชื่อทั้งสองชื่อนี้นัก ดูเหมือนเคยเห็นทั้งสองชื่อนี้ในหนังสือบทเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของยุคปัจจุบัน

ผู้ที่จะมีชื่อในหนังสือประวัติศาสตร์ได้ จะต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียง? ดังนั้นตนเองก็อาจจะเป็นแม่ของผู้ยิ่งใหญ่สองคนก็ได้?

เมื่อค้นดูในห้องครัว ก็พบว่ามีเสบียงอาหารอยู่ไม่มาก ร่างเดิมไม่ใช่คนขยัน และไม่ถนัดงานบ้านงานเรือน โชคดีที่เงินเดือนของฉินจิงค่อนข้างสูง ครอบครัวจึงพอมีฐานะอยู่บ้าง ดังนั้นร่างเดิมจึงมีกินมีใช้ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเลี้ยงดูนางจนทั้งขาวทั้งอวบ

ในถังแป้งยังมีแป้งสาลีอยู่เกือบครึ่ง สิ่งนี้นับเป็นของหายากในหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ต้องรอให้ถึงช่วงปีใหม่หรือช่วงเทศกาล ถึงจะทำใจนำออกมาใช้ห่อเกี๊ยวได้

ตอนที่กวนหลันอยู่ในยุคปัจจุบันเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ ไม่ถนัดการทำอาหาร แต่อย่างน้อยก็ไม่อดตาย

นางผสมแป้งสาลีขึ้นมาหนึ่งก้อน ทำเป็นบะหมี่เส้นสดสามชาม ใส่ผักใบเขียวลงไปสองก้าน และหยดน้ำมันงาลงไปอีกสองสามหยด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหิวหรือเพราะอะไร ทำให้ทั้งสามคนกินอย่างเอร็ดอร่อย

ฤดูกาลในตอนนี้คือฤดูร้อน มีแสงแดดส่องนาน แต่ในหมู่บ้านก็ไม่มีใครยอมจุดตะเกียงน้ำมัน ต่างก็เข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ

บ้านของกวนหลังแบ่งเป็นห้องชั้นในและชั้นนอก กวนหลันกับฉู่หลิงเอ๋อร์นอนในห้องใหญ่ที่อยู่ด้านใน ส่วนฉู่ซิวนอนอยู่ที่ห้องเล็กด้านนอกคนเดียว แม้ฉู่หลิงเอ๋อร์อายุเพียงแค่หกขวบ แต่ก็รู้ประสาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องให้กวนหลันคอยดูแล ซ้ำยังปูที่นอนจัดผ้าห่มไว้เรียบร้อย จากนั้นตกเองก็มุดเข้าไปแล้วหลับตาลง

แต่กวนหลันกลับพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ

นางคันไปทั้งตัว หัวก็คัน ตัวก็คัน

เดิมทีนางไม่เข้าใจว่าทำไมบนร่างกายของตัวเองถึงได้รู้สึกคันเช่นนี้ จนกระทั่งตอนที่นางเกาศีรษะยกใหญ่ สุดท้ายก็จับแมลงสีดำตัวเล็ก ๆ สองตัวที่กำลังปีนป่ายไปมาได้ นางถึงเข้าใจในทันที ไม่รู้ว่าบนหัว เสื้อผ้า และเครื่องนอนของร่างเดิมนี้ ยังมีเหาอยู่อีกมากมายเท่าไร!

เหา ในยุคปัจจุบันเป็นสัตว์ที่แทบจะไม่พบเห็นแล้ว แต่นางกลับโชคดีได้เจอ

นางเกิดแรงกระตุ้นขึ้นมา อยากต้มน้ำสระผมอาบน้ำซักผ้าในทันที แต่เมื่อเห็นฉู่หลิงเอ๋อร์ที่กำลังหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ ในที่สุดนางก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป

ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ หากคิดที่จะกำจัดเหาให้หมดไปในทันที ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แน่นอนว่าบนตัวของฉู่ซิวกับฉู่หลิงเอ๋อร์ก็ต้องมีเช่นกัน นางไม่อาจปลุกพวกเขาให้ลุกขึ้นมาอาบน้ำได้หรอกกระมัง?

หลังจากนี้ค่อย ๆ คิดหาวิธีก็แล้วกัน

กวนหลันพยายามอดทนอดกลั้น ไม่ง่ายเลยกว่าจะหลับไปได้ในช่วงเที่ยงคืน เพียงแต่ยังนอนหลับไปได้ไม่นาน นางก็ต้องตกใจตื่นขึ้นเพราะฝันร้าย หลังจากสะดุ้งเฮือกแล้วลุกขึ้นนั่ง ก็ไม่อาจข่มตาหลับลงได้อีก

นางรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่า ตนเองลืมเรื่องบางอย่างไป ในที่สุดตอนนี้นางก็นึกออกแล้วว่าลืมอะไรไป จากนั้นตัวนางเองก็ถูกความสิ้นหวังถาโถมเข้าครอบงำทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel