บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“ช่างเถอะ ช่างเถอะ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด......”

หวงต้ากังยกมือกุมจมูกของตนเอง เอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่คลุมเครือ เดิมทีเห็นว่าหญิงอ้วนผู้นี้ดูไม่ค่อยมีไหวพริบเท่าไร จึงคิดว่าภารกิจในวันนี้อย่างไรก็สำเร็จ คิดไม่ถึงว่านางหนูคนนี้กลับดูราวกับคนเสียสติ ต้องตนเองจนมีสภาพยับเยินเช่นนี้ ซ้ำยังมองจุดประสงค์ของพวกเขาออกอย่างชัดเจนด้วย

ไม่รู้ว่านางคนนี้โตมาด้วยอะไร ทำไมชกเจ็บขนาดนี้ ดูราวกับเป็นคนละคนกับกวนหลันในภาพจำของพวกเขาที่ดูโง่เขลา

หลี่ชุ่ยยังไม่อยากให้มันจบลงแบบนี้ ควักผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้ที่มีรอยยับออกมาให้หวงต้าหวังเช็ดหน้า ส่งเสียงร้องไห้ตีโพยตีพายออกมา “ทำไมนางถึงชกท่านจนมีสภาพเช่นนี้ได้ สวรรค์! อย่างไรก็ควรชดใช้ให้เราสักครึ่งตำลึง! ไม่อย่างนั้นพวกเรา......”

“ถุย! ข้าไม่เรียกเงินจากพวกเจ้าก็บุญแล้ว กล้ามาลวนลามขูดรีดทรัพย์ถึงบ้านข้า ต่อให้ชกพวกเจ้าจนตายก็ไม่มากเกินไป! รีบไสหัวออกไปจากบ้านข้าได้แล้ว ไม่อย่างนั้นก็ไปพบทางการ!”

กวนหลันเท้าสะเอว กล่าวด้วยท่าทีดุดัน

“อย่า ๆ ๆ พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้!”

หวงต้ากังผลักหลี่ชุ่ยอย่างแรงทีหนึ่ง หลี่ชุ่ยกัดฟัน ถูกหวงต้ากังกระชากแขนออกไปข้างนอกอย่างไม่เต็มใจ ตอนที่ก้าวข้ามธรณีประตู ยังไม่ลืมที่จะหันไปถลึงตาใส่กวนหลัน

จนกระทั่งประตูไม้ที่อยู่ด้านหน้าถูกปิดลงอย่างแรง กวนหลันก็หอบหายใจ เอามือกุมอกแล้วหย่อนก้นนั่งลงบนเตียง

นางเงยหน้าขึ้นพิจารณาบ้านดินหลังนี้

มีตะไคร่น้ำขึ้นอยู่เต็มมุมกำแพง ส่วนกระดาษปิดหน้าต่างก็เปื่อยยุ่ยไปหมด บนเตียงที่ทำจากไม้ถูกปูด้วยฟูกที่ขาดวิ่น เป็นแค่ฟูกบาง ๆ เพียงชั้นเดียว ส่วนด้านล่างเป็นฟางที่กำลังส่งกลิ่นราออกมา

ให้ตายเถอะ! นางข้ามมิติมาแล้ว!

ยากจนจนเหลือแค่กำแพงสี่ด้าน จนแบบไม่มีอันจะกินทำนองนั้น

นางยังไม่ทันจะได้โศกเศร้ากับชีวิตในอีกมิติของตนเอง ประตูไม้ภายในลานก็ถูกคนถีบเข้ามาอย่างแรงอีกครั้ง เสียงของสตรีที่ก้องกังวานและทรงพลัง ดังขึ้นที่ด้านนอก

“เจ้ารองบ้านฉิน โผล่หัวออกมานะ! มาดูเรื่องดีที่ลูกเจ้าทำเอาไว้สิ!”

กวนหลันเกือบหมดสติไปแล้ว?

นี่ตนเองเป็นแม่คนแล้วหรือ?

มีความทรงจำบางอย่างอยู่ในสมอง แต่ดูสับสนวุ่นวายอย่างยิ่ง นางยังไม่ทันได้จัดระเบียบ เรื่องเดือดร้อนก็มาหาถึงที่อีกแล้ว

แกล้งตายคงไม่ได้ผล กวนหลันพยายามตั้งสติ เปิดประตูห้องแล้วเดินตรงออกไป

มีหญิงอ้วนท่าทางเกรี้ยวกราดยืนอยู่ในลาน มือขวากำลังดึงหูของเด็กชายคนหนึ่งอยู่ แรงนั้นไม่ใช่น้อย ๆ บิดเสียจนหูของเด็กชายแดงก่ำ

เด็กชายคนนั้นดูอายุราว ๆ เจ็ดแปดขวบ บนใบหน้ามีทั้งทุกข์และสุขสลับกัน สีหน้าดูดุดันและไม่คิดจะขอความเมตตา เอาแต่จ้องมองหญิงอ้วนผู้นั้นด้วยความเคียดแค้น ส่วนด้านหลังของพวกเขา มีเด็กหญิงอายุราว ๆ ห้าหกขวบเดินตามมาอีกคน หน้าตาน่ารักราวกับรูปหยกสลัก งดงามหาใดเปรียบ แต่ตอนนี้เด็กคนนั้นกำลังตกใจจนหน้าซีดเผือด และกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น

กวนหลันแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า ร่างกายของนางที่มีอายุเพียงแค่สิบหก กลับมีลูกสองคนที่โตขนาดนี้แล้ว?

แต่นางทนดูเด็กถูกรังแกไม่ได้จริง ๆ จึงก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ง้างมือดีดข้อศอกของหญิงอ้วนผู้นั้นเข้าไปหนึ่งที ข้อศอกของหญิงอ้วนรู้สึกชาทันที สั่นสะท้านไปครึ่งตัวจนต้องปล่อยมือออก

“พี่ใหญ่ พวกเขาเป็นแค่เด็ก นี่ท่านจะอะไร?”

หญิงอ้วนต้องตกตะลึงเพราะการกระทำนี้ของกวนหลัน แต่นางก็ตั้งสติกลับมาได้ในไม่ช้า ยืดอกแล้วก้าวตรงไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด : “เจ้าก็ดูเองสิ! ลูกเจ้าทำร้ายลูกข้าจนมีสภาพเช่นไรแล้ว?” นางยื่นมือออกไปชี้เด็กชาย ตะโกนด้วยความโมโหจนน้ำลายกระเด็นไปทั่ว “เป็นเด็กเหลือขอที่มีแม่เกิดแต่ไม่มีแม่อบรมจริง ๆ! แม่เลี้ยงอย่างเจ้าจะจัดการหรือไม่? หากไม่จัดการ ข้าก็จะสั่งสอนเขาแทนพ่อแม่ที่ตายไปแล้วของเขาเอง ให้พวกเขารู้ว่าอะไรที่เรียกว่ากฎเกณฑ์”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel