บทที่2 ลูกคนเดียวดูแลได้
"หึ...เอาอีกเเล้วเบะอีกแล้ว
"ฮึกก..~ป๊าอยู่กับน้องได้มั้ย
เจยกฝ่ามือหนาลูบหัวทุยเบาๆ
"ป๊าไปทำงาน เดี๋ยวเงินป๊าก็มารับเเล้ว..จะร้องทำไม
"ฮึกก...ป๊ามาเร็วๆนะคะ
"ครับ...มา จุ๊บก่อนเเล้ว
เจเอามือรวบเอาลูกน้อยเเล้วดึงเข้ามากอดก่อนจะจรดริมฝีปากหนาลงบนเเก้มนุ่มนิ่มของลูก ก่อนที่เด็กน้อยจะหันไปจุ๊บเเก้มพ่อ1ที
ฟรอดดด!!!!
"อ๊าาา ชื่นใจจังป๊ามีพลังเต็มเเล้ว
"คิ้กกก....ป๊ารีบมารับน้องเร็วๆนะ
"ครับบๆ
จากนั้นคุณครูคนสวยก็พาเด็กน้อยเดินเข้าประตูไป ส่งลูกเสร็จตัวเองก็เดินมายังรถ วันนี้เป็นอีกวันที่พึ่งเริ่มต้นขึ้น ....
----ที่บริษัท-----
ฝ่ายส่งออกกำลังเคลื่อนย้ายของที่กำลังจะจัดส่งออกต่างประเทศซึ่งอาทิตย์นี้เจเป็นคนจัดการทั้งหมด ทั้งอาทิตย์นี้ เจตั้งร่วมเข้าประชุม เเละเช็คของที่จะจัดส่งด้วยเรียกได้ว่าทั้งอาทิตย์นี้เจไม่ได้หยุดเลย
"โห้พี่...เหนื่อยว่ะ (ออโต้ น้องที่ทำงานคนสนิทเอ่ยปากบ่น)
"จะเหนื่อยอะไรนี่พึ่งอาทิตย์เดียวเอง
"พี่เเม้งอึดว่ะ ไหนจะเช็คเอกสารอีกคนเหล็กป้ะเนี้ย
"จิ๊บๆวะ (เจตอบกลับไปอย่างขบขัน)
"เเล้วอาทิตย์นี้ยัยหนูมามั้ย อยากเล่นกับน้อนน
"เอามาสิ กูไม่เอามาใครจะเลี้ยง
"ดีเลยยอยากเจอน้อนน
"พาลูกกูเสียนะจะด่ามึง
"ผมเคยพาลูกพี่เสียที่ไหน
"จะให้กูพุดไหมล่ะ เดือนก่อนใครเป็นคนบอกให้ลูกกูเอารองเท้าไปใส่ในตู้กดน้ำแผนกบัญชี
"ก็ผมไม่ชอบขี้หน้าไอ้ขี้เก๊กนั่น
"มึงมันเหี้ยจริงๆ
"เอาหน่าพี่ขำๆ
"กูไม่ขำกับมึง...ถ้าเกิดบอสรู้เค้าไม่ให้กูเอาลูกมาที่นี่กูจะเอาลุกไปไว้ที่ใครล่ะ ไอ้บ้า!!
เจพูดพร้อมยกมือจะฟาดกระบาน ออโต้ได้เเต่เอาเเขนมาหลบๆบังๆไว้
"ไปเลยกับไปยืนไลน์มึงเลย กูเข้าห้องเเละ!!
เจเดินเเยกออกมาจากโซนไลน์นั้น เพราะมันไม่ใช่หน้าที่เจที่ต้องคุมในระยะยาว เจเเค่เป็นคนตรวจเช็คผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกต่างประเทศงานที่ทำจริงคือในออฟฟิตต่างหาก เมื่อเข้ามานั่งที่โต๊ะไม่นานก็มาสายเรียกเข้าของคนสนิทดังขึ้น
ตื้ดด~~ตื้ดด~~
"ไอ้ธีร์...โทรมาทำไม
ไม่รอให้ตัวเองสงสัยนานจึงรีบกดรับ
----บทสนทนาในสาย--
"โทรมาทำไม
("สักหน่อยมั้ยเพื่อนวันนี้)
"ไม่ว่างทำงาน
("โอ้โห้ ไอ้เพื่อนเหี้ย ไอ้มนุษย์หน้าเงิน มึงมีวันหยุดหับเค้ามั้งมั้ยเนี้ยห้ะ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ตายๆ ชีวิตมึงมีเเต่งานรึไง)
"กูวางนะ ลีลา
("เออๆใจเย็น กูว่าจะชวนมึงมาดื่มสัก กรึ่บ สอง กรึ่บล่ะมึงก็กลับ กี่ปีมาเเล้วมึงไม่ได้ออหมาสังสรรค์กับพวกกู)
"ทำไม
("ก็ไอ้มาร์ชกับมาจากต่างประเทศไง)
"อ่าววมันกลับมาเเล้วอ่อ
("เออดิ พักพวกกลับมา ไม่คิดจะมาชุมนุมเลยรึไง)
"สภาพมึงสองตัวอย่าเรียกว่าพักพวกเลย...กูไม่ไปกูเลี้ยงลูก
("มึงก็พายัยหนูมาด้วยดิ กูอยากเจอ)
"ไม่..กูวางนะ
("เห้ยๆๆอย่าพึ่งดิ ครั้งเดียวนะๆๆๆ เพื่อนฟูงต้องการตัวมึง)
"ไม่กู...ไม่มีคนดูลูก
("อะไรวะ...กูบอกให้มึงหาพี่เลี้ยงไง มึงไม่มีเวลาให้ตัวเองเลยนะไอ้เจ)
"กู..ไม่รู้วะ กลัวเค้าเลี้ยงลูกไม่เหมือนกูเลี่ยงว่ะ มึงไม่เห็นในข่าวบ้างหรอ อย่าปล่อยเด็กไว้กับพี่เลี้ยงอ่ะ
("มึงนี่ก็เสพจริงกับเรื่องข่าว จนมึงจะตายห่าอยู่เเล้ว มึงควรออกมาใช้ชีวิต แบบพ่อหนุ่มโสด อยากหาคนรู้ใจได้เเละ)
"กูบอกแล้วไง....เรื่องความรักกู..คงรักใครไม่ได้อีกเเล้วว่ะ
("เหอะไอ้สัสกูเห็นพูดแบบนี้ ไม่เกินปีนี้มึงได้เมียเเล้ว)
"ก็เหี้ยเหอะ! พอยังกูจะวาง
("เดี๋ยวกูหาพี่เลี้ยงให้เอาไหม พักบ้างเหอะมึง)
เจนิ่งคิดไปสักพักปล่อยให้คนปลายสายรอ
"มึงก็ลองดูให้กูหน่อย..ดูดีๆเเล้วกัน หาได้เเล้วโทรมาบอกกู
("เอ้อ!!ต้องงี้เพื่อนกูไม่ต้องเป็นห่วงกูจัดเเจ่มๆให้เลย)
"ปัญญาอ่อน...
เจอาจจะดูเป็นคนปากตรงๆแบบนี้เเต่จริงๆเเล้วมันเป็นเรื่องปกติที่เค้าคุยกับเพื่อนสนิทเเบบนี้อยู่เเล้วจะว่าไป เค้าเองก็ไม่ค่อยได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงนานมากๆเเล้ว ตั้งเเต่เลี้ยงเจ้าตัวเล็กมา เค้าเองอายุเเค่30ต้นๆ เป็นวัยกลางคนก็อยากใช้ชีวิตเท่าอยู่ เเต่ทำไงได้ เค้ามีภาระที่จะต้องทำ เค้าเลยไม่มีเวลามาเที่ยวเล่นหรือปาร์ตี้อะไรเเบบนี้หรอก มันไม่ใช่เเค่ครั้งเเรกนะที่เพื่อนเค้าจะหาพี่เลี้ยงให้ เเต่มันก็น่าจะเป็นเพราะเค้าดูข่าวมากไปรึเปล่าเลยไม่ค่อยไว้ใจพี่เลี้ยงสักเท่าไหร่ เพราะต่อให้จ้างใครเลี้ยงก็ไม่เหมือนกับที่เราเลี้ยงลูกของเราเอง
