คนไม่ดีในสายตา 1
"นี่ขนม สรุปแกจะไปฝึกงานที่ไหนกันแน่ ไปกับฉันหรือว่าฝึกที่มหาลัยพี่ชายบุญธรรมใจยักษ์ของแก" ใบบัวเอ่ยถามขึ้นระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังนั่งทานอหารอยู่ในร้านแห่งหนึ่งภายในห้องสรรพสินค้า
"คุณอชิเขาให้ฉันฝึกที่มหาลัยน่ะ" ใบบัวหัวเราะหึในลำคอ พลางยกยิ้มขึ้นตามแบบฉบับสาวทะเล้นสมกับใบหน้าที่สาวสะบัดแบบสาวเปรี้ยวที่แต่งหน้าแต่งตัวจัดจ้าน
"ไหนแกบอกว่าเขาไม่สนใจแกไง แล้วทำไมถึงเอาแกเหน็บจักแร้ไว้ขนาดนี้ ปากไม่ตรงกับใจเอาซะเลย"
"เขากลัวฉันไปอ่อยผู้ชายคนอื่นต่างหาก ก็เลยจะเอาใช้ไว้ใกล้หูใกล้ตา"
"จริงอ่ะ นี่ถามจริง ไม่คิดจะหนีจากผู้ชายใจร้ายคนนี้บ้างเหรอ ทำไมแกจะต้องทนอยู่ให้เขาทำร้ายด้วยอะ หรือว่าแกหลงลีลาเขาเวลาอยู่บนเตียง" ขนมหวานฟาดฝ่ามือลงบนต้นแขนของเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวจนเกิดเสียงดัง
เพี๊ยะ!!
"โอ๊ย! ขนมแกตีฉันทำไมเนี่ย แดงเลยอะ" คนถูกตีลูบแขนตัวเองปอยๆ
"ก็แกพูดอะไรไม่เข้าท่า น่าเกียจ ฉันไม่ได้หลงลีลาอะไรเอาขนาดนั้นหรอก ที่ฉันต้องอยู่เพราะฉันสงสารเขา ฉันทำให้เขาต้องเสียคุณพ่อคุณแม่ไป ฉันทำลายครอบครัวเขา ทำลายความสุขของเขา"
"โอ๊ยยย…ยัยขนม เมื่อไหร่แกจะเลิกเอาความผิดเรื่องนี้มาสุมใส่ตัวเองสักที ถ้าพูดกันตามหลักความเป็นจริง แกมีส่วนผิดมันก็ใช่ แต่เขาก็มีส่วนผิดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ถ้าเขาไม่บอกความจริงว่าแกไม่ใช่ลูกของคุณพ่อคุณแม่เขา แกก็คงไม่สติแตกและวิ่งออกมาหรอก" ใบบัวพยายามพูดให้เพื่อนไม่เอาความทุกข์และความผิดมาทุ่มใส่ตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็เหมือนคำพูดของเธอจะเป็นเพียงลมที่พัดผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ใบบัวพูดกับขนมหวานแบบนี้ แต่พูดจนขี้เกียจจะพูดเสียด้วยซ้ำ
"มันก็ใช่ แต่ถ้าฉันไม่ไปยั่วโมโหและยุ่งวุ่นวายเรื่องของเขามากเกินไปจนเขารำคาญ เขาก็คงไม่โมโหจนพูดความจริงออกมาหรอก เฮ้อ!" ยกมือขึ้นเท้าคางถอนหายใจออกมา
"เนี่ย แกก็เป็นแบบนี้ หาข้ออ้างมาแก้ตัวให้เขาตลอด ไม่ว่าฉันจะพูดว่าเขาเลวยังไง แกก็ยังเข้าข้างเขา หาข้ออ้างมาแก้ตัวให้เขา รักเขาจนหมดใจแล้วรู้ตัวหรือเปล่า"
"ใครรักใครเหรอใบบัว" เสียงทุ้มพร้อมทั้งร่างสูงในชุดนักศึกษาเดินยิ้มโชว์ฟันสวยเข้ามาหา ทรุดตัวลงนั่งข้างขนมหวานที่มีเก้าอี้ว่างอยู่อีกตัว
"นั่งด้วยคนนะ"
"แกนั่งลงมาก่อนแล้วเหอะถึงค่อยขอ" ใบบัวประชดกลับอย่างหมั่นไส้ ยิ่งเห็นชายหนุ่มลูกครึ่งผมสีน้ำตาลตาสีฟ้าตรงหน้านั่งส่งยิ้มกระชากใจสาวตอบกลับมาก็ยิ่งพาลไม่ถูกชะตา
"นั่งก่อนนั่งหลังก็ขอเหมือนกันแหละน่า ใช่ไหมครับขนมหวาน" หันมาถามสาวสวยที่ตนแอบปลื้มอยู่ลึ้กๆ ซึ่งแน่นอนว่าสายตาหวานเชื่อมที่มองขนมหวานนั้นมีหรือที่จะรอดพ้นสายตาของใบบัวไปได้
"ค่ะ"
"น่ารักจัง ขนมนี่อ่อนหวานน่ารักสมกับเป็นผู้หญิงจริงๆ นะ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้ห้าวอย่างกับผู้ชาย"
"นี่ไอ้เวร นี่แกด่าฉันเหรอ" จากที่ชื่อเวลตันก็ถูกเปลี่ยนให้สั้นลงเหลือแค่เวรเท่านั้นสำหรับใบบัว
"ฉันชื่อเวล ยัยบัวเน่า ช่วยเรียกให้ถูกด้วยจะได้ไหม"
"ส่วนฉันชื่อใบบัว ช่วยเรียกให้ถูกด้วยเหมือนกัน"
"ก็เธอเริมก่อนนะ"
"แต่นาย..."
"บัว เวล พอเถอะ เสียงดังคนเริ่มมองแล้วนะ สองคนนี้เป็นอะไร เจอกันทีไร ชอบทะเลาะกันทุกที ระวังนะทะเลาะกันไปทะเลาะกันมาหลงรักกันไม่รู้ตัว"
ทั้งสองคนแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองออกมากับคำพูดของขนมหวาน รักกันอย่างนั้นเหรอ
"ไม่มีทาง!" สองเสียงเปล่งออกมาอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย ก่อนทั้งคู่จะหันมาแยกเขี้ยวใส่กันราวกับเสือสองตัวที่อยู่ร่วมถ้ำเดียวกันไม่ได้
"ใจตรงกันไปอีก"
"ไม่ใช่!" นั่นยังพูดออกมาพร้อมกันอีกรอบเสียด้วย
"นี่นาย จะพูดตามฉันทำไม"
"เธอนั่นแหละที่พูดตามฉัน"
"หยุดๆๆ อย่าทะเลาะกันเลย อายเขา ยังไงเราก็เพื่อนกัน นะใบบัว นะเวลนะ" เมื่อสถานการณ์เริ่มจะบานปลายขนมหวานจึงเข้าทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยคนทั้งคู่สงบศึก
"นี่ฉันเห็นแก่ขนมนะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่ยอมนายหรอก" ใบบัวเชิดหน้าตอบออกไป
"ฉันก็เห็นแก่ขนมเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นฉันไม่ยอมเธอหรอก" เวลตันก็เชิดหน้าตอบกลับไปเช่นกัน ต่างคนก็ต่างไม่ยอมสยบให้กัน ทำให้ขนมหวานได้แต่นั่งยิ้มส่ายหน้าให้กับเพื่อนทั้งสองคน ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานถึงสามปีแต่สองคนนี้ก็ยังไม่กินเส้นกันตั้งแต่วันแรกที่เจอกันจนถึงวันนี้