Chapter2 | เรื่องที่ไม่คาดคิด
บลู
[ หนึ่งเดือนต่อมา ]
“วันนี้บลูไปเรียนเองนะ พอดีพี่มีนัด” พี่บอมเอ่ยขึ้นระหว่างที่เราสองคนกำลังนั่งกินข้าวเช้ากันอยู่
“ค่ะ”ฉันขานตอบเขาออกไปพร้อมกับวางช้อนลงบนถ้วยข้าวต้มที่พร่องไปไม่ถึงครึ่ง
หมู่นี้พี่บอมไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเลย ไม่รู้ว่าเขางานยุ่งหรือว่ามีเรื่องสำคัญอะไรที่ทำให้ต้องออกไปค้างคืนข้างนอกอยู่บ่อยๆ ซึ่งฉันก็ไม่กล้าถามอะไรเขามากนักหรอก เพราะว่าฉันไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเขา
แค่ทุกวันนี้เขาให้ที่ซุกหัวนอนฉัน ส่งฉันเรียนจนใกล้จบปริญญาตรีฉันก็เป็นหนี้บุญคุณเขามากพอแล้ว
“เงินเดือนนี้พอใช้รึเปล่า” เขาเอ่ยถามฉันขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค แต่สายตาของเขานั้นสนใจอยู่กับมือถือเครื่องโปรดของตัวเอง ไม่ได้สนใจคนที่อยู่ในบทสนทนาอย่างฉันด้วยซ้ำ
“พอค่ะ” ฉันตอบเขาออกไปพลางมองพี่บอมที่ยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับหน้าจอมือถือของตัวเอง
“งั้นบลูขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ เดี๋ยวจะสาย” ฉันพูดกับพี่บอมออกไปอีกหนึ่งประโยค ส่วนคนที่ฉันกำลังพูดด้วยน่ะเหรอ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจที่ฉันพูดเลยสักนิด
ฉันรู้สึกว่า เหมือนมีใครบางคนที่เขากำลังสนใจอยู่แน่ๆ ซึ่งยังไงคนๆนั้นก็ไม่มีทางเป็นฉัน ยังไงฉันก็ไม่มีทางได้เป็นคนที่เขาสนใจหรอก ฉันมันก็แค่...
“บลู!!”
“ค่ะ คะ?” ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆพี่บอมก็เดินมาจับที่ต้นแขนของฉันพร้อมกับมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่งุนงง
“พี่คุยด้วยตั้งนาน มัวเหม่ออะไรอยู่” พี่บอมเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ปะ เปล่า ค่ะ”
“จะเปล่าได้ยังไงก็พี่เห็น” เขาว่าพร้อมกับยีหัวฉันอย่างมันเขี้ยวหนึ่งที
“..”
“ป่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง มอ.บลูทางผ่านพี่พอดี” พี่บอมว่าพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ฉันบางๆเหมือนที่เคยทำ ก่อนที่จะเดินนำฉันออกจากโต๊ะกินข้าวไป
ทางผ่านเหรอ? ปกติไม่ใช่ทางผ่านเขาก็อาสาไปส่งฉันที่มอทุกวันทั้งๆที่ฉันไม่ได้เรียกร้อง แต่ก็นั่นแหละ เขาคงอยากจะทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดี มันก็เท่านั้น
“ตอนเย็นกลับเองได้ใช่มั้ย” พี่บอมเอ่ยขึ้นหลังจากที่พวกเราสองคนเงียบกันมาตลอดทาง
“ค่ะ”
“พอดีช่วงนี้พี่ยุ่งๆ ไม่ต้องทำอาหารเย็นเผื่อพี่นะ วันนี้พี่คงไม่ได้กลับบ้าน”
“ค่ะ” ฉันตอบเขาออกไป
“ตั้งใจเรียนล่ะ แล้วก็อย่าเถลไถล เลิกเรียนรีบกลับบ้านเลยนะ” พี่บอมกำชับอีกครั้ง
“ค่ะ”
“งั้นไปเรียนเถอะ”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้พี่บอมอย่างที่เคยทำ
“บลูเป็นอะไร ทำไมวันนี้ดูแปลกๆถามคำตอบคำ” อยู่ๆพี่บอมก็เอ่ยถามฉันขึ้นพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“เปล่านี่คะ” ปกติฉันก็ไม่ค่อยได้คุยกับเขาอยู่แล้วนะ ไม่ใช่แค่วันนี้หรอก ทำไมอยู่ๆเขาถึงได้ถามแบบนี้กันนะ
“อืม งั้นไปเรียนเถอะ”
“ค่ะ
บอม
หลังจากที่ผมขับรถไปส่งบลูที่มอเสร็จก็รีบบึ่งรถมาหาโมที่คอนโดทันที ช่วงนี้ผมว่าบลูดูแปลกๆ เหมือนเธอไม่ค่อยอยากคุยกับผมยังไงก็ไม่รู้
ผมว่าก็ไม่ได้ทำอะไรให้เธอโกรธนี่หว่า
หรือผมจะคิดมากไปเอง แต่ช่างมันเถอะ บลูไม่สำคัญเท่าคนที่ผมกำลังจะไปหาตอนนี้หรอก
“ทำอะไรอยู่ หื้ม?” ผมสวมกอดโมทางทางด้านหลังพร้อมกับชะโงกหน้าไปดูสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่
“ถ้าโมหัวใจวายตายทำไงหะ?” โมเอี้ยวหน้ามาพูดกับผมอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่นัก เพราะผมเพิ่งทำให้เธอตกใจไปเมื่อครู่
อ่อ ผมลืมบอกไป เธอคนนี้ชื่อโม เป็นแฟนของผมเองแหละ เราสองคนคบกันมาได้เกือบเดือนแล้ว ผมแม่งโคตรไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะได้คบกับโม ผู้หญิงที่ผมชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเราสองคนเจอกัน
“บอมก็จะพาโมไปหาหมอไง” ผมว่าพร้อมกับกดจมูกลงบนแก้มของโมหนักๆหนึ่งที
“ไปนั่งเฉยๆเลย อย่ามากวน เดี๋ยวโมขอจัดกระเช้าแป๊บนึง” เธอเอ่ยปากไล่ผมเพราะถ้าผมยังอยู่ตรงนี้กับเธอเธอคงจัดกระเช้าไปเยี่ยมพ่อกับแม่ผมไม่เสร็จแน่ๆ
“อะไรอ่ะ เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนด้วยกัน พอบอมมาถึงก็ไล่เลยเหรอ?”
“ก็เมื่อคืนโมติดธุระ บอมไปนั่งรอโมตรงโน้นก่อนนะ ขอ5นาที โอเคป่ะ?” โมว่าพร้อมกับหมุนตัวกลับมาหาผมพลางเขย่งปลายเท้าขึ้นมาหอมแก้มฟอดใหญ่
“โอเค บอมจะเป็นเด็กดี” ผมอมยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินเลี่ยงมานั่งรอโมอยู่ที่โซฟา แต่อยู่ๆไอ้สายตาของผมก็ดันเหลือบไปเห็นว่ามันมีใครบางคนโทรเข้ามาหาโม ซึ่งเธอไม่ได้เปิดเสียงโทรศัพท์เอาไว้
แล้วผมจะไม่ติดใจสักนิดเลยถ้าไอ้รูปที่แสดงบนหน้าจอมือถือมันไม่ใช่รูปของเธอกับผู้ชายคนอื่น
“ไอ้หมอนี่ใคร”ผมเดินเข้าไปหาโมพร้อมกับชูมือถือให้เธอดู ซึ่งผมจะไม่โกรธเลยสักนิดถ้าเธอไม่แสดงท่าทีที่ร้อนรนราวกับว่าคนที่ผมถามมันมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับชีวิตของเธอ
“บอม...คือ...”
“ใคร?” ผมเอ่ยถามโมออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบพลางพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้
“คือ...”
“ถามว่าใครก็ตอบมาดิวะ!!”
“คือว่า...”
“ได้...” ผมกดรับสายเรียกเข้านั้นพร้อมกับกดเปิดสปีคเกอร์โฟนไปด้วย
“ฮัลโหลโม เราขอโทษ เรารักโมนะ เรา...”
ปั่ก!!!
ผมเขวี้ยงมือถือโมลงบนพื้นจนแตกกระจายแล้วพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ส่วนในใจก็ได้แต่ถามตัวเองว่า นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรวะ!!
