2
“ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกพี่นะ” เขาบอกอย่างเอ็นดูเด็กสาว
“ขอบคุณพี่ชายมากนะคะ” เธอหันมายิ้มให้เขา กอดเอวหนาเอาไว้อย่างออดอ้อน ธนกรลูบศีรษะของเธอไปมา ใจเขาสั่นไหวทุกครั้งที่เด็กสาวสัมผัสเนื้อตัว
เขาจะระมัดระวังเรื่องความใกล้ชิดมากๆ เพราะไม่อยากทำให้เธอเสียหาย อยากให้เธอมีอนาคตที่ดี
“เหลืออีกเทอมเดียวเท่านั้นกล้วยจะเรียนจบแล้วนะ”
“พี่เป็นกำลังใจให้เสมอครับ ถ้าขาดเหลืออะไรให้บอกพี่นะ พี่ยินดีช่วยกล้วยทุกอย่าง ทำการบ้านเถอะ พี่ไม่กวนแล้ว”
“ขอบคุณพี่ชายมากนะคะ พี่ชายน่ารักเสมอ ดูแลกล้วยช่วยเหลือกล้วยมากกว่าพ่อแม่เสียอีก”
“อย่าคิดมากนะครับ ทำการบ้านเถอะ” เขาโยกศีรษะของเธอไปมา ก่อนผละออกห่าง เดินไปปูที่นอนอีกด้านหนึ่ง จัดการสวดมนต์ไหว้พระก่อนจะทิ้งตัวลงนอน
เรื่องวิชาการเขาไม่ค่อยสันทัด แต่ถ้าเป็นงานฝีมืออะไรพวกนั้นที่เขาก็พอช่วยเธอทำได้ พวกงานไม้งานประดิษฐ์ที่เธอมักร้องขอให้เขาช่วยทำส่งอาจารย์
ธนกรทิ้งตัวลงนอนแต่ยังไม่หลับ เขาเป็นห่วงคนที่นั่งทำรายงานอยู่อีกด้าน เธอหาวไปมาหวอดๆ ก่อนจะทิ้งศีรษะฟุบหลับบนโต๊ะมุมห้อง
นอกจากเรียนหนังสือแล้วกิรณายังต้องทำงานอีกหลายอย่างด้วย ทุกวันเธอจะต้องทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัว เพราะบิดามารดาใช่จะสนใจส่งเสียเลี้ยงดู เด็กสาวเหน็ดเหนื่อยมากกว่าจะได้เงินสักบาท แต่เขาก็เห็นความพยายามของเธอเสมอ
เขาเดินไปหยุดใกล้ๆ ร่างน้อยก่อนจะอุ้มเธอไปนอนบนเตียงแล้วจัดการห่มผ้าให้ หลังจากนั้นก็จัดการเก็บแก้วโกโก้และพับเอกสารรายงานที่เธอน่าจะทำเสร็จแล้วให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะไปทิ้งตัวลงนอนมุมหนึ่งของห้อง
ธนกรคิดอะไรมากมายอยู่ในหัว เขายอมรับว่าชอบกิรณามาก ชอบที่เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและมุ่งมั่นทำในสิ่งดีๆ แม้จะเกิดในครอบครัวที่ยากจนและบิดามารดาหาใช่คนดีนัก หากเป็นลูกสาวบ้านอื่นคงเสียผู้เสียคนหรือเรียนไม่จบหนีตามผู้ชายไปแล้ว ในหมู่บ้านและชุมชนนี้หาเด็กวัยรุ่นที่ตั้งใจเรียนและเรียนจบนั้นยากจริงๆ แทบนับหัวได้เลย
เขาตั้งใจเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัวและคอยดูแลเธอเสมอมาด้วยว่ามีใจให้เธอมาช้านานและปรารถนาดีต่อเธอเสมอ เมื่อถึงเวลานั้น เขาอยากจะพร้อมสำหรับเธอ อยากดูแลเธอไม่ให้ลำบาก เขาเป็นพวกการศึกษาน้อยแต่ก็รักจริง และให้เกียรติเธอเสมอ
กิรณาไม่สนใจผู้ชายคนไหน เธอเป็นเด็กดีและตั้งใจเรียน เขารู้ดีเพราะว่ามีผู้ชายมาจีบเธอหลายคน แต่เธอไม่เคยสนใจเลยแถมยังให้เขาคอยกันผู้ชายพวกนั้นออกไปให้ด้วย
ธนกรตื่นนอนตั้งแต่เช้า เขาลุกมาทำข้าวต้มหมูสับร้อนๆ ให้เด็กสาว เมื่อก่อนเขาอาศัยอยู่กับยาย แต่พอยายเสียเขาก็อยู่คนเดียว แม้บ้านหลังน้อยจะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่เขาก็จัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ หมั่นทำความสะอาดทุกวัน ไม่ให้สกปรกรกรุงรังเพราะมันไม่น่ามองและทำให้บ้านที่แคบอยู่แล้วยิ่งแคบเข้าไปใหญ่
กิรณางัวเงียตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง เธออมยิ้ม คงเป็นพี่ชายอุ้มขึ้นมานอนบนนี้
เธอได้กลิ่นข้าวต้มหอมกรุ่นก็รีบลงไปสอดส่องดู บ้านของ ธนกรเป็นบ้านไม้สองชั้นหลังเล็กๆ ค่อนข้างเก่าแต่เขาก็ซ่อมแซมให้แข็งแรงดูดีอยู่เสมอ แถมยังสะอาดสะอ้านน่ามอง ไม่เหมือนบ้านของเธอที่แม้จะเป็นแค่บ้านเช่าแต่บุพการีทั้งสองก็หมั่นขยันกันทำให้รกอยู่ตลอดเวลา วางข้าวของไม่เคยให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเลยสักครั้ง บิดานั้นไม่สนใจบ้านช่อง หลังคารั่ว นอกชานนั้นไม้ผุก็ไม่ซ่อม วันดีคืนดีตกลงไปในน้ำคร่ำ ทั้งสกปรกและเหม็นเน่าก็ยังหัวเราะเยาะเธออีก
“พี่ชายทำข้าวต้มหมูเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ มากินสิ จะได้อาบน้ำไปเรียน เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เขาบอกเธอเสียงนุ่ม เพราะตอนเธอปีนขึ้นมาบนบ้านของเขา อีกฝ่ายแบกกระเป๋าเป้มาด้วย ในนั้นคงจะมีชุดนักเรียนที่เธอยัดใส่กระเป๋ามาเหมือนเคย
บิดามารดาของเธอไม่เคยสนใจว่าลูกจะหลับจะนอนที่ไหน นอกจากถามหาเรื่องเงินและเรียกใช้เธอไม่เว้นแต่ละวัน
