บท
ตั้งค่า

1

เสียงตะกุกตะกักที่ดังขึ้นที่ริมหน้าต่างทำให้ธนกรหรือชายหันไปมองที่หน้าต่างห้องนอนของเขา เด็กสาวนามว่ากิรณาหรือกล้วย กำลังปีนหน้าต่างเข้ามาในห้องของเขา ก่อนจะกระโดดตุ๊บลงมายืนอยู่บนพื้นห้องแล้วส่งยิ้มหวานมาให้

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงตกใจที่โดนสาวๆ สวยๆ แบบเธอปีนเข้าหาถึงห้อง แต่ในปัจจุบัน เขาตื่นเต้นที่ได้เห็นหน้าเธอทุกครั้ง

“พี่ชาย ขอกล้วยนั่งทำการบ้านในห้องพี่นะ”

กิรณารีบเอ่ยขอเจ้าของห้องในทันที พี่ชายของเธอเป็นผู้ชายเรียบร้อยและใจดี เขาขายของชำอยู่ในตลาดสดของหมู่บ้าน ในตลาดมีให้เช่าแผงขายของล็อกละหลายตังค์ แต่ถึงกระนั้นพ่อค้าแม่ค้าก็แย่งกันจับจองแผงแทบไม่ว่าง เนื่องด้วยตลาดที่นี่ขายดีมากๆ เริ่มขายตอนสายๆ จนถึง 2 ทุ่ม เรียกว่าเป็นศูนย์กลางของสถานที่ราชการต่างๆ จึงทำให้มีลูกค้าแวะมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน

“ตามสบายเลยกล้วย” ใครๆ เรียกเขาว่าพี่ขาย เขาเป็นคนขยันและรู้จักอดออม เธอยังเคยคิดเลยว่าหากใครได้เป็นเมียพี่ชาย ผู้หญิงคนนั้นต้องโชคดีมากแน่ๆ ทั้งขยัน ประหยัด อดทนและสู้งาน เรียกว่าไม่อดตาย แต่พี่ชายไม่ได้เรียนต่อจนจบปริญญาตรีหรอกนะ เขาต้องออกมาทำงานเสียก่อน

ตอนเรียนเขาส่งเสียตัวเองเรียน เนื่องจากพี่ชายอยู่กับยาย แค่สองคนเท่านั้น ส่วนพ่อแม่นั้นทิ้งเขาไปตั้งแต่เด็ก บ้านพี่ชายค่อนข้างลำบาก แต่ดีหน่อยว่าเขามีบ้านหลังเล็กๆ เป็นของตัวเอง ไม่ต้องเช่าอยู่เหมือนเธอ

เสียงทะเลาะที่ยังดังอยู่ไม่เลิกราคือเสียงบิดามารดาของเธอเอง กิรณาแทบทนสภาพครอบครัวมีปัญหาแบบนี้ไม่ไหว แต่สุดท้ายเธอก็ต้องทน ที่เธอทนได้เพราะพี่ชายคอยให้กำลังใจ ไม่เช่นนั้นเธอคงเตลิดไปแล้ว

“กล้วยขอนอนนี่ได้ไหม” เธอเบื่อบ้าน นอกจากไม่น่าอยู่แล้วยังไม่ค่อยปลอดภัย บิดาติดเหล้า พาเพื่อนฝูงมาที่บ้านทุกวัน มาถึงก็มานั่งตั้งวงกินเหล้า แถมยังมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหายอีกด้วย แต่บิดาเหมือนไม่รับรู้ ไม่สนใจความปลอดภัยของเธอเลย มิหนำซ้ำยังเหมือนสนับสนุนให้เธอมีผัว

พ่อกับแม่ดูเป็นคู่ชีวิตที่มีศีลเสมอกันจริงๆ ถึงจะทะเลาะกัน แต่พวกท่านกลับมีความเห็นที่ตรงกันว่าเธอจะเรียนไปทำไมให้ปวดหัว น่าจะมีผัวไปเสียดีกว่า

แม่นั้นไม่ต่างจากพ่อ อยากให้เธอไปทำงานที่ร้านอาหารตรงทางเข้าหมู่บ้าน ถ้าดูภายนอกนั้นก็รู้ว่าเป็นร้านอาหารกึ่งคาราโอเกะ แต่ภายในคือการขายตัวดีๆ นี่เอง

แม่พูดกรอกหูว่าเรียนไปเงินเดือนหมื่นห้า ไปทำงานร้านเจ๊ติ๋ม เดือนละอย่างต่ำสามหมื่นห้า ถ้าขยันได้เป็นแสน เธอฟังแล้วสยองจริงๆ กลัวมารดาจะจับเธอไปขายให้เจ๊ติ๋ม ฟังดูก็รู้ว่าทำงานอะไร คนไม่มีการศึกษา ไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ จะทำงานอะไรได้เงินมากมายก่ายกองขนาดนั้น คงไม่พ้นธุรกิจสีเทาๆ คาวโลกีย์

“กลับไปนอนบ้านเถอะกล้วย เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี” ธนกรมองเรื่องความเหมาะสมเป็นหลัก แต่เขาก็เป็นห่วงเธอ เขาอายุ 27 ในขณะที่เธออายุเพิ่ง 18 ถ้าใครรู้เข้าเธอจะเสียหาย อีกทั้งเขายังเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ในขณะที่เธอเป็นเพียงแค่สาวน้อยวัยละอ่อนเท่านั้นเอง

“พ่อตั้งวงเหล้า แม่ตั้งวงไพ่ นอกจากจะทำการบ้านไม่รู้เรื่องแล้ว กล้วยก็ไม่กล้านอนคนเดียว” เธอบอกเขาด้วยน้ำตาปริ่มไหล ออดอ้อนขอนอนด้วย พอได้ยินแบบนั้นเขาก็พยักหน้าอนุญาตทันที

เวลาเธอมานอนด้วยเขาจะยกเตียงนอนให้เธอ และหนีไปนอนอีกมุมหนึ่งของห้อง พี่ชายของเธอเป็นสุภาพบุรุษเสมอ

ธนกรชงโกโก้ร้อนของโปรดของเธอมาวางตรงหน้าเด็กสาว เธอยิ้มขอบคุณส่งไปให้เขา เธอเรียนสายอาชีพเพราะอยากเรียนจบเร็วๆ การเรียนสายอาชีพ สายอาชีวะมีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งคือสามารถหางานทำได้เร็วกว่าสายสามัญ ระหว่างจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 กับจบ ปวช. คนจบ ปวช. จะหางานทำได้ง่ายกว่า เพราะเป็นงาน ผ่านการฝึกงานมามากกว่าโดยเน้นการปฏิบัติจริง

“ขอบคุณค่ะพี่ชาย”

“ตั้งใจเรียนนะ จะได้ทำงานดีๆ” เขาโยกศีรษะเธอไปมาเหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก

“กล้วยจะตั้งใจเรียน จบเทอมนี้ว่าจะหางานทำเลยค่ะ”

“น่าจะเรียนปวส. ต่อนะ จะได้อัพเงินเดือน”

“จะทำงานก่อนค่ะ แล้วค่อยเก็บเงินเรียน หรือเรียนไปทำงานไป”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel