บทที่ 6 ลืมไม่ลง
ท่ามกลางความมืดค่ำ ยามผู้คนหลับใหลเช่นเดียวกับยูกินะที่นอนตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ทว่าลูคัสไม่อาจข่มตาหลับลงอย่างง่ายดาย
ชายหนุ่มยืนสูบซิการ์บริเวณระเบียงห้องพลางทอดสายตามองเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกมากมาย ก่อนภาพเหตุการณ์ในอดีตจะผุดขึ้นในหัว ราวกับหนังม้วนหนึ่งที่ยังคงฉายซ้ำ
“ลูคัส เราเลิกกันเถอะ” เสียงหวานเอ่ยบอกคนตัวโตที่กำลังจัดโต๊ะอาหาร ก่อนหยุดชะงักหลังจากได้ยินถ้อยคำนั้น
“ทำไมล่ะ” มาเฟียหนุ่มย่างเท้ามาหาสาวคนรักด้วยแววตาแสนเจ็บปวด
“ฉันเบื่อคุณแล้ว เลิกกันเถอะ” เงยหน้ามองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า
“ไม่นะยูกิ ฉันไม่เลิกกับเธอเด็ดขาด” ลูคัสสวมกอดคนตัวเล็กจากด้านหลัง ที่ตั้งท่าจะวิ่งออกจากห้อง
“ก็ฉันเบื่อคุณแล้ว ไม่เข้าใจหรือไง”
“สาเหตุที่เธอเลิกกับฉัน เพราะป๊าเธอใช่ไหม” ลูคัสพลิกร่างเล็กหันมาประชันหน้ากัน มือหนาทั้งสองข้างจับบ่าบอบบางราวกับต้องการเค้นคำตอบจากปากนุ่ม
“ฟังฉันนะยูกิถึงป๊าเธอจะหักหลังฉัน แต่เรื่องระหว่างเราไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย” เขาสามารถแยกแยะได้ ฉะนั้นต่อให้พ่อของเธอจะหักหลังกัน เขาก็ยังคงรักเธอเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เพียะ! มือเรียวฟาดแก้มสากเต็มแรงอย่างไม่สะทกสะท้านสักนิดกับการกระทำของตนเอง
“ฉันไม่เคยรักคุณ อีกอย่างนะตอนนี้ฉันมีคนอื่นแล้ว เลิกโง่สักทีเถอะ”
“ไม่นะยูกิ ฉันไม่เชื่อ” ใบหน้าคมส่ายไปมาเล็กน้อย เขาแทบไม่อยากเชื่อกับถ้อยคำของเธอ
“เรื่องของคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม” ยูกินะตั้งท่าจะหมุนตัวเดินจากไป แต่หยุดชะงักกับคำพูดของเขา
“งั้นก็ฆ่าฉันเลยสิ ถ้าเธอไม่เคยรักฉัน เธอจะไม่ลังเลที่จะจัดการฉันเลย”
“อย่าท้าฉันนะลูคัส” นัยน์ตาคู่งามจ้องเขม็งคนตัวโตปานจะกินเลือดกินเนื้อ
“งั้นเอาเลยสิ” เขาเองก็อยากจะพิสูจน์บางอย่างเหมือนกัน ลูคัสยื่นปืนให้แก่คนตัวเล็ก “จัดการฉันสิ”
หญิงสาวไม่ลังเลรับปืนจากมือหนา เธอเล็งปลายกระบอบปืนใส่ลูคัสด้วยสายตาแน่วแน่
ปัง! เธอลั่นกระสุนปืนใส่หัวไหล่ของมาเฟียหนุ่ม ก่อนอีกคนจะทรุดกายลงบนพื้น ขณะเดียวกันลีวายวิ่งเข้ามาในห้อง ซึ่งพอคาดเดาสถานการณ์ได้จึงเล็งปลายกระบอบปืนใส่ยูกินะเพื่อปกป้องเจ้านาย
“อย่านะลีวาย ห้ามนายทำร้ายยูกิ” มาเฟียเอ่ยห้ามลูกน้องคนสนิท ด้วยความกลัวอีกฝ่ายจะลั่นกระสุนปืนใส่สาวคนรัก
“หลังจากนี้อย่าได้เจอหน้ากันอีก” เธอวางปืนลงบนพื้นและหมุนตัวเดินออกจากห้องทันที ไม่สนใจเสียงเรียกของลูคัสที่ร้องดังปานจะขาดใจ
“อ๊าก...ยูกิ”
เหตุการณ์ในครั้งนั้น เขายังคงจดจำได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะทำยังไงไม่สามารถสลัดออกจากหัวได้เลย ยังวนเวียนและตามหลอกหลอนเขาเสมอ
“ครั้งนี้อย่าหวังว่าฉันจะปล่อยเธอ” ปรายตามองคนตัวเล็กที่หลับใหลบนเตียงขนาดคิงไซซ์ ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าจากบทรัก ก่อนจะทิ้งซิการ์ในมือลงบนพื้นและก้าวเท้าไปหาคนหลับปุ๋ย
ลูคัสเอนกายนอนลงข้าง ๆ เธอ เป็นจังหวะเดียวกันยูกินะหันมาสวมกอดเขา แล้วซุกไซ้หน้างามกับอกล่ำสัน
“ผู้หญิงน่าขยะแขยง” เอ่ยบอกเสียงเรียบแต่แฝงด้วยความร้ายกาจ ถึงกระนั้นยอมนอนนิ่ง ๆ ให้เธอกอดและหลับใหลไปด้วยกัน
วันรุ่งขึ้นแสงตะวันสาดส่องเข้าในห้อง ทำให้ยูกินะลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ ต้อนรับเช้าวันใหม่
“อื้อ” ระหว่างกำลังจะยันกายลุกขึ้นนั่ง เธอรู้สึกปวดเมื่อยทั่วเรือนร่าง ทั้งปวดหัวจี๊ด ๆ แถมตัวร้อนเหมือนจะมีไข้อีกต่างหาก ก่อนยอมทิ้งตัวนอนตามเดิม
มือเล็กกุมขมับพร้อมบีบเบา ๆ เพื่อหวังให้บรรเทาอาการปวด เธอเหลือบมองพื้นที่ว่างข้างกายด้วยความรู้สึกโหวงเหวง ลึก ๆ แอบปวดใจเหลือเกิน ที่ตื่นขึ้นมาไม่เจอลูคัส
ขณะเปลือกตาบางกำลังจะปิดลง ทันใดนั้นประตูห้องถูกเปิดออก เผยให้เห็นกายแกร่งของลูคัสเดินเข้ามาด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
“จะนอนอีกนานไหม”
“คุณมีธุระอะไรกับฉันเหรอ” ยูกินะพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง พยายามทำตัวให้เป็นปกติ แสร้งทำเหมือนว่าตนเองแข็งแรงดีเพราะไม่อยากถูกอีกคนต่อว่าด้วยคำพูดรุนแรง
“รีบลุกขึ้นซะ ฉันมีงานให้เธอทำ”
“งานเหรอ” แหงนหน้ามองคนตัวสูง ขณะคิ้วโก่งสวยเลิกขึ้นเล็กน้อย ราวกับอยากถามเรื่องที่เขาต้องการให้ทำ
“คงไม่ได้คิดว่าฉันไว้ชีวิตเธอ เพราะแค่อยากทำเรื่องบนเตียงอย่างเดียวหรอกใช่ไหม”
“รู้หรอกน่า”
“ฉันจะรอข้างล่าง ห้ามหนีละกัน ไม่งั้นฉันไม่เอาเธอไว้แน่” พูดจบ ลูคัสก้าวยาว ๆ ไปจากห้อง ทิ้งยูกินะมองตามหลังอย่างงุนงง
“คิดจะทำอะไรของเขากันนะ”
ไม่สามารถคาดเดาความคิดของเขาได้เลย ยิ่งนานวันยิ่งไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวเขาสักนิด เขาในตอนนี้แตกต่างกับในอดีตอย่างสิ้นเชิง สาเหตุคงเป็นเพราะเธอนั่นแหละ
“เฮ้อ...” พ่นลมหายใจเฮือกหนึ่ง จากนั้นแบกร่างกายแสนอ่อนล้าไปยังห้องน้ำ
หลายนาทีผ่านไป กว่ายูกินะจะลงไปหามาเฟียหนุ่ม ท่าทางของเขาขณะนี้ บ่งบอกได้ว่ากำลังไม่พอใจเธอสุดขีด
“ช้าชะมัด” ทันทีกายสาวปรากฏ ลูคัสเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด แล้วคว้าข้อมือเล็กพร้อมกระชากให้เดินตามหลัง “ไปกันเถอะลีวาย”
“ครับ”
“คุณจะพาฉันไปไหน” เหลือบมองบอดี้การ์ดหนุ่มก่อนมองลูคัสอย่างรอฟังคำตอบ
“ไม่ต้องพูดมาก ตามมาก็พอ” เขาเปิดประตูรถและยัดคนตัวเล็กเข้าไปนั่งด้านใน ส่วนตนเองนั่งข้าง ๆ เธอ ขณะลีวายเดินขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับ
รถคันหรูแล่นตามท้องถนน โดยยูกินะไม่อาจล่วงรู้สักนิด อีกคนต้องการพาเธอไปที่ไหนกันแน่ หญิงสาวทำได้แค่ชำเลืองมองชายหนุ่มผ่านกระจกรถที่สะท้อนภาพของเขา
อุณหภูมิร่างกายเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เธอยังคงพยายามทำตัวเข้มแข็ง ไม่เผยด้านอ่อนแอให้ลูคัสเห็น
“คุณยูกิเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ลีวายสังเกตเห็นความผิดปกติจากใบหน้างดงามจึงเอ่ยถามขึ้น จังหวะเดียวกันลูคัสหันขวับมองเธอ
“เปล่า” เอ่ยตอบสั้น ๆ พลางแอบชำเลืองมองคนข้างกาย กำลังจ้องเขม็งเธอปานจะกินเลือดกินเนื้อ
“อย่าเพิ่งตายล่ะ” เอ่ยขึ้นเบา ๆ แต่ดังพอให้คนในรถได้ยินเต็มสองรูหู
ยูกินะขี้เกียจต่อปากต่อคำกับเขา เธอเลือกจะทอดสายตามองวิวข้างทาง ปล่อยใจล่องลอยกับความรู้สึกขณะนี้
“ถึงแล้วครับ”
เสียงของลีวายดังขึ้น ทำให้เธอกับเขาหันมองเบื้องหน้า ซึ่งเป็นตึกร้างแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างทรุดโทรม
“ไปกันเถอะ เธอก็ตามมาด้วย” มาเฟียหนุ่มเปิดประตูลงจากรถ ส่วนยูกินะเดินลงจากรถเงียบ ๆ ก่อนทั้งสามจะเดินเข้าไปด้านใน
“กว่าจะมาได้สักที ไอ้ลูคัส”
ถ้อยคำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่ลีวายมาก บอดี้การ์ดหนุ่มตั้งท่าจะพุ่งไปหาคนตรงหน้า ที่มีอยู่ประมาณสิบคนแต่กลับถูกลูคัสสั่งห้ามไว้
“อย่า” ส่ายหัวเล็กน้อย
“แต่พวกมันกำลังท้าทายอำนาจของบอส”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“ครับ” ยอมทำตามคำพูดของผู้เป็นนายอย่างว่าง่าย
“พวกมึงมีธุระอะไรกับกู” ลูคัสเอ่ยถามด้วยท่าทางน่าเกรงขาม แววตาที่จ้องมองคนเหล่านั้นราวกับสายตาของพญาเหยี่ยว
“ได้ยินชื่อเสียงมานาน กูอยากจะรู้นักจะแน่สักแค่ไหน” หนึ่งในกลุ่มนั้นซึ่งคาดว่าเป็นหัวหน้าของแก๊งเดินมาหยุดตรงหน้าลูคัส ก่อนเอื้อมมือหมายจะแตะหน้าคมคายของมาเฟียจอมโหด
“ไอ้พวกนักเลงกระจอก กล้าดียังไงเอามือสกปรกแตะต้องบอส” ลีวายปัดมือนั้นออกห่างผู้เป็นนาย
“หุบปากไปเลย ไอ้หมารับใช้”
“ไอ้!!” ลีวายเตรียมจะชักปืนมาจ่อใส่ศีรษะคนตรงหน้า แต่ต้องหยุดชะงักกับเสียงห้ามปรามของลูคัส
“อย่าลีวาย”
“แต่...” บอดี้การ์ดไม่อาจตอบโต้เมื่อถูกจ้องด้วยแววตาดุดัน
“มึงต้องการอะไร”
“อะไรดีล่ะ ถึงจะสมฐานะของกู” ขณะเดียวกันสายตาชำเลืองเห็นยูกินะที่ยืนเงียบ “นี่มึงพาผู้หญิงมาด้วยเหรอ”
“อยากได้ไหมล่ะ”
“ของใช้แล้วทิ้งเหรอวะ” ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์พลางจ้องมองยูกินะด้วยสายตาแทะโลม
“ให้จริงเหรอ” ต่อให้เป็นของใช้แล้วทิ้งก็เอา สวยขนาดนี้ใครบ้างจะไม่เอา
“เอาไปสิ กูยกให้ฟรี ๆ” ลูคัสดันคนตัวเล็กไปหาคนตรงหน้า แล้วกระซิบประโยคหนึ่งกับยูกินะให้ได้ยินแค่สองคน “ถ้าไม่อยากตกเป็นเมียมันก็จัดการซะ”
“ลูคัส” เธอกัดฟันเรียกเขาพลางจ้องเขม็งอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“กูไปละกัน หลังจากนี้อย่ารบกวนกูอีก” ลูคัสพูดเพียงเท่านั้นก็หันหลังเดินออกไปพร้อมบอดี้การ์ดหนุ่ม
“บอสครับ” ท่าทีของเจ้านายหนุ่มสร้างความงุนงงแก่ลีวายไม่น้อย ไม่เข้าใจเลยลูคัสต้องการทำอะไรกันแน่ ถึงปล่อยยูกินะไว้กับคนพวกนั้น
“อย่าเพิ่งถามอะไรมาก รอดูก่อนละกัน”
