ตอนที่ 3 เรา...กำลังข้ามเส้นความสัมพันธ์
ตอนที่ 3
เรา...กำลังข้ามเส้นความสัมพันธ์
ตรีญาภาพาเจ้านายสุดหล่อขึ้นไปยังห้องของเธอที่อยู่เกือบชั้นบนสุด
“เอ้า! ตอนแรกผมคิดว่าคงเป็นคอนโดที่แยกแต่ละห้องออกเป็นส่วน ๆ แบบชัดเจน นี่แค่มีห้องนอนกับมุมทำอาหารเท่านั้นที่เหลือก็แทบไม่ต่างจากห้องเช่าทั่วไป”
คนเป็นเจ้านายเดินสำรวจรอบห้องเหมือนกำลังต้องการหาอะไรบางอย่าง
“คอนโดนี้เป็นคอนโดเก่าค่ะ สร้างมาเกือบยี่สิบปีแล้วราคาถูก ตรีไม่อยากเช่าเลยซื้อและผ่อนกับธนาคารเอา ถ้าไปซื้อคอนโดใหม่ ๆ คงกู้ไม่ผ่านแน่ ๆ ค่ะเงินเดือนแค่สองหมื่นกว่า ๆ แบบนี้”
เลขาสาวรู้ตัวว่าไม่ควรบ่นเรื่องเงินเดือนน้อยแต่เธอก็ห้ามปากไม่ทันเสียแล้วดันบ่นไปเรียบร้อย
“เงินเดือนเธอก็น้อยจริง ๆ แหละ เอาจริง ๆ นะผมไม่เคยรู้เลยว่าพนักงานแต่ละคนได้เงินเดือนเท่าไหร่ เพราะเรามีกันเกือบห้าสิบคน ผมก็ทำได้แค่ให้โบนัสพิเศษกับเลี้ยงอาหารเพื่อให้ได้ประหยัดค่าใช้จ่ายกัน ไว้กลับจากไปประชุมผมจะขึ้นเงินเดือนให้นะ”
ตรีญาภารีบเดินมาหาเจ้านายที่กำลังเปิดประตูกระจกออกไประเบียงเพื่ออธิบายว่าเธอไม่ได้ตั้งใจพูดเรื่องเงินเดือน
“คุณกรคือตรีไม่ได้จะบ่นเรื่องเงินเดือนนะคะ คุณอย่าเข้าใจผิด”
“ระเบียงเล็กไปหน่อยแค่ตากผ้าก็เต็มพื้นที่ถ้าใหญ่กว่านี้ ได้ที่นั่งเล่น จัดสวนเล็ก ๆ ได้เลย”
หญิงสาวถอนหายใจเมื่อรู้สึกว่าเจ้านายของเธอไม่ยอมฟังในสิ่งที่เธอกำลังพูดเลย
“ผมเริ่มง่วงแล้ว คืนนี้ผมนอนนี่นะโซฟาก็ยังว่างพัดลมสักตัวก็นอนได้แล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลาขับรถคืนนี้จะได้นอนอ่านรายงานเธอเลย”
เจ้าของห้องได้แต่ยืนมองหน้าเจ้านายด้วยความตกใจ มารู้สึกตัวอีกทีก็ถูกชายหนุ่มบุกรุกไปถึงห้องนอนแล้ว
“ในห้องนอนมีโซฟาด้วย ถ้าอย่างนั้นผมเปลี่ยนใจแล้วผมเข้ามานอนในนี้ดีกว่าจะได้เย็นสบายเพราะมีแอร์ เดี๋ยวผมลงไปหยิบเอกสารกับเสื้อผ้าก่อน ผมขอกาแฟร้อนสักแก้วนะจะได้ตาสว่าง ส่วนตรีก็อาบน้ำก่อนได้เลย ผมคงลงไปสักพัก”
ชายหนุ่มออกไปแล้วตรีญาภานั่งลงกับโซฟาเพื่อตั้งสติอยู่ดี ๆ วันนี้เจ้านายที่เธอแอบชอบก็มาขอนอนด้วย หญิงสาวแอบคิด ไปถึงขั้นว่าถ้าคืนนี้เขาจะทำอะไรเธอแล้วเธอจะยอมไหม
หัวใจบอกว่ายอม ๆ ไปเถอะก็รักเขาไม่ใช่เหรอแต่สมองบอกว่าไม่เอาเขามีคู่หมั้นแล้ว คิดเท่าไหร่ก็ตัดสินใจไม่ได้ ตรีญาภาจึงคิดว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงเธอคงตัดสินใจได้เองแหละ
ปกติเลขาสาวอาบน้ำนานมากแต่วันนี้เธอใช้ความเร็วในการอาบเพราะกลัวว่าถ้าชลากรขึ้นมาแล้วเขาจะต้องยืนรอหน้าห้องนาน
ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนหญิงสาวจึงต้องแกล้งออกมาเตรียมกาแฟร้อนให้เจ้านายเพื่อที่เขาจะได้อาบน้ำแต่งตัวสะดวก
“หอมทั้งกลิ่นกาแฟและกลิ่นครีมทาผิวเลย ไม่รู้ผมจะกินกาแฟหรือกิน...อะไรก่อนดี”
คนฟังขนลุกไปทั้งตัวเธอรีบส่งแก้วกาแฟให้เจ้านายและเดินออกมาให้ห่างจากเขา
“เดี๋ยวตรีไปเตรียมหมอนกับผ้าห่มให้นะคะ ตรีง่วงมากขอเข้านอนก่อน ส่วนไฟในห้องเปิดไว้เลยค่ะเพราะคุณชลากรจะได้อ่านรายงานไม่เสียสายตา ราตรีสวัสดิ์นะคะ”
เมื่อจัดการที่นอนให้เจ้านายเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็รีบนอนหลับตาห่มผ้าทันที แต่เสียงข้างนอกดังเข้ามาทำให้เธอรู้ว่าชลากรกำลังคุยโทรศัพท์และเธอก็เดาไปเองว่าคงไม่ได้คุยกับใครที่ไหนนอกจากคู่หมั้นของเขา
ด้วยความเหนื่อยที่วันนี้อยู่กับตัวเลขทั้งวัน ไม่นานเจ้าของห้องก็หลับสนิทยังไม่ทันที่แขกจะเข้ามานอนด้วยซ้ำเพราะเขาคุยโทรศัพท์เกือบครึ่งชั่วโมง
ชลากรเปิดประตูห้องนอนเข้ามา เขาคิดว่าเลขาสาวคงกำลังเขี่ยโทรศัพท์เล่นอยู่เพราะเธอไม่น่าจะกล้านอนหลับเพราะมีผู้ชายที่ไม่ใช่แฟนอย่างเขามานอนร่วมห้องแต่จากเสียงกรนทำให้ชายหนุ่มแน่ใจว่าเลขาของเขาหลับแล้วจริง ๆ
“สงสัยจะเหนื่อยทั้งวัน”
เจ้านายหนุ่มเดินไปห่มผ้าให้กับตรีญาภาเพราะตอนแรกเธอก็ห่มดี ๆ พอนอนหลับสนิทจริง ๆ ผ้าห่มกลับหลุดลงมากองอยู่ที่ปลายเท้าหมด
ชลากรยืนอยู่ปลายเตียงเขามองหน้าที่ไร้เครื่องสำอางของเลขาที่ตอนนี้นอนหลับสนิทแบบไม่รู้ตัว เขารู้สึกว่าตรีญาภาเป็นผู้หญิงที่มองผ่าน ๆ เหมือนธรรมดาแต่ยิ่งมองนาน ๆ กลับยิ่งน่ารักและสิ่งที่ทำให้เจ้านายหนุ่มเริ่มหวั่นไหว คือการที่เธอกับเขามีอะไรหลาย ๆ อย่างเข้ากัน เวลาที่เขาเคลียดเธอก็จะทำให้เขารู้สึกว่าปัญหาที่เจอมันเล็กนิดเดียว เวลาที่สนุกเธอก็จะคอยทำให้เขารู้ว่าควรกลับมาวางตัวแบบไหน รสนิยมการกินอาหาร แม้แต่การแต่งห้องนอน ชลากรก็รู้สึกว่ามันเป็นไปในแบบที่เขาชอบ
ตลอดหลายปีที่ทำงานด้วยกันมา ชายหนุ่มรู้สึกมาตลอดว่าเขาคงทำงานไม่มีความสุขแน่ ๆ ถ้าไม่มีเลขาคนนี้แต่เขาก็คิดว่ามันคงเป็นเพราะความเข้าใจกันในการทำงานแต่ตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจหมั้นกับเฌอมณีมันทำให้เขายิ่งรู้ตัวว่าเวลาที่เขาอยู่กับตรีและเฌอความรู้สึกมันช่างต่างกัน
การไปประชุมครั้งนี้จริง ๆ แล้วประชุมแค่เพียงสามวันเท่านั้นแต่ที่ชายหนุ่มบอกกับเลขาสาวว่าต้องไปหนึ่งสัปดาห์เพราะชลากรคิดว่าการที่เขากับตรีได้ไปอยู่ด้วยกันสองคน ในที่ที่ไม่ใช่บริษัท ไม่ใช่กรุงเทพ ไม่ต้องมีสายตาของคนที่รู้จักเฝ้ามอง อาจทำให้เขารู้ใจตัวเองก็ได้ และเขาก็พร้อมจะถอนหมั้นถ้าเขารู้ใจตัวเองว่าจริง ๆ เขารักตรีญาภา แม้มันอาจจะทำให้พ่อกับแม่ของเขาโกรธเขาไปทั้งชีวิตก็ตาม
ชายหนุ่มกลับมานอนที่โซฟา เขานอนอ่านรายงานทั้งหมดที่เลขาทำส่ง ความยากและละเอียดของงานทำให้เขารู้สึกสงสาร หญิงสาวจับใจ
ชลากรถึงจะเป็นประธานบริษัทแต่เขาไม่เคยลงมายุ่งในเรื่องเงินเดือนของพนักงงานเลย เขาถึงได้ไม่รู้ว่าตรีญาภาเงินเดือนแค่สองหมื่นต้น ๆ ทั้งที่เธอทำงานล่วงเวลาในหนึ่งเดือนแทบจะเกินสิบห้าวัน ส่วนพนักงงานคนอื่นห้าโมงเย็นก็กลับกันหมดแล้ว บางคนแค่ สี่โมงครึ่งก็หาเรื่องกลับแล้วด้วยซ้ำ
รายงานที่มีถึงร้อยกว่าหน้าชลากรกว่าจะอ่านจบก็เกือบ ตีสามเขาจึงตัดสินใจว่าพรุ่งนี้เขาคงบอกให้ตรีญาภาไปทำงานสายหน่อยเพราะเขาก็คงต้องตื่นสายแน่นอน
พอเลยเวลานอนชายหนุ่มก็ไม่ง่วงเขาจึงลุกออกไปเดินเล่นที่นอกห้อง ชลากรไม่รู้จะหาอะไรทำดีเขาจึงเดินเข้าไปในครัวเห็นข้าวที่หุงไว้อยู่ในหม้อเขาจึงเปิดตู้เย็นหาหมูสับกับผักที่จะใส่กับข้าวต้ม
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงข้าวต้มก็เสร็จ เจ้านายที่ตอนนี้ทำหน้าที่เชฟจึงเขียนจดหมายน้อยวางไว้ข้างเตียงของคนตัวเล็กที่กำลังนอนหลับสนิท
‘ข้าวต้มทำไว้แล้วอย่าลืมอุ่นกิน ผมนอนเกือบตีสี่ เราไปทำงานเที่ยงกันนะพรุ่งนี้ เจ้านายสั่งลูกน้องต้องทำตามปลุกผมตอนสิบโมงเช้าด้วย’
ตีสี่แล้วซาตานเจ้าเล่ห์ก็เริ่มง่วงจึงปิดไฟเหลือไว้แค่โคมไฟหัวเตียงและนอนหลับยาวด้วยความเหนื่อยล้ากับเอกสารร้อยหน้าที่อ่านไป
ตอนที่ 4
