บทย่อ
***ความรักมันอาจมาผิดเวลาแต่มันจะมีค่าเสมอเมื่อคนสองคนรู้สึกเหมือนกันเท่านั้น ความผูกพันในตำแหน่งเลขา ความชอบ ความสนใจในสิ่งที่เหมือนกัน ยิ่งทำให้เจ้านายกับเลขานับวันก็สนิทกันมากขึ้น ทุกอย่างดูหวานดูมีความสุขถ้าบอสของเราไม่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว แถมเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาเพราะเธอมีอาการบางอย่างที่ไม่เหมือนคนอื่น เหมือนเป็นคนเดียวที่มีถึงสองบุคลิกและใจคอของเธอก็ไร้ซึ่งความเมตตา ความรักครั้งนี้มันผิดหรือมันถูกและสุดท้ายใครกันจะได้หัวใจซาตานเจ้าเล่ห์คนนี้ไป ***************************** “ตรีรู้ไหมทำไมเธอถึงได้ทำงานต่อที่นี่ในฐานะเลขาของผมหลังจากฝึกงานจบ” “ไม่ทราบค่ะ” หญิงสาวตอบตามจริง ชลากรหันมาสบตาหญิงสาวที่นั่งข้างเว้นจังหวะก่อนที่จะพูดต่อเพราะเป็นช่วงรถติดไฟแดงพอดี “ก็เพราะว่าเป็นตรี ถ้าเป็นคนอื่นผมก็ไม่เอา” ***ทุกอย่างคงดูหวานตามประสาหนุ่มสาว ถ้าเจ้านายจอมปากหวานไม่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว****** ฝากติดตามเรื่องราวของบอสซาตานเจ้าเล่ห์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ
ตอนที่ 1 ชอบอยู่ห่าง ๆ
ตอนที่ 1
ชอบอยู่ห่าง ๆ
“ตรีเอกสารที่ผมต้องใช้ประชุมสัปดาห์หน้าที่พังงาเยอะหน่อยนะ รบกวนคุณหาข้อมูลให้พร้อม ทางบริษัทใหญ่ของลูกค้าจะมาเอง มีคู่แข่งของเราเข้าประชุมด้วย ผมไม่อยากพลาด”
ชลาการประธานบริษัทที่หนุ่มและหล่อที่สุดในตอนนี้แต่ น่าเสียดายที่เขามีคู่หมั้นอยู่แล้วคือเฌอมณีลูกสาวคนเดียวของเจ้าพ่อวงการค่ายมวยไทย
บทบาทความเป็นหัวหน้าของชายหนุ่มมีความจริงจังที่สอดแทรกด้วยอารมณ์ขันอยู่เสมอ เขาจึงเป็นเจ้านายที่ลูกน้องพนักงานทุกคนต่างทั้งกลัวและรัก รวมทั้งตรีญาภาเลขาสาวที่ทำงานกับเขามาตั้งแต่เธอฝึกงานและตอนนั้นเขาเป็นแค่เพียงรองประธานเท่านั้น
“ค่ะ ตรีจะเตรียมเอกสารและทุกอย่างไว้ในกระเป๋าใบเดิมค่ะ เวลาขึ้นเครื่องคุณกรก็อย่าลืมหยิบไปด้วยนะคะ”
ตรีญาภาเดินหันหลังเตรียมออกจากห้องเจ้านายแต่กลับต้องหยุดเมื่อได้เสียงของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง
“ตรีนั่นแหละที่ต้องเป็นคนถือกระเป๋าเอกสารไป”
เลขาสาวหันกลับมาและรีบเดินมาที่โต๊ะของเจ้านายทันทีเพราะเธอไม่เคยรู้เลยว่าการประชุมครั้งนี้เธอต้องไปด้วย
“คุณกรไม่เห็นบอกตรีเลย ว่าตรีต้องไปด้วยแล้วแบบนี้ตรีจะเตรียมตัวทันไหมคะ”
“นอกจากเอกสารก็แค่เสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว ทำอย่างกลับจะย้ายบ้านต้องบอกล่วงหน้ากันเป็นเดือน เอ...หรือกลัวจะเตรียม ชุดว่ายน้ำแบบเซ็กซี่ไม่ทันกันแน่”
“ไม่เอา พูดด้วยแล้วไปทำงานดีกว่าเอกสารไม่ใช่น้อย ๆ เดี๋ยวถ้าผิดพลาดคุณบอสก็จะว่าเอา”
ตรีญาภาเขินจนไม่อยากจะยืนเถียงกับเจ้านายต่อ จะไม่ให้เขินได้อย่างไรกันก็เขาคือผู้ชายคนแรกที่เธอแอบรักเลย เธอชอบเขาตั้งแต่เข้ามาฝึกงานที่นี่แต่ฐานะที่ห่างกันราวฟ้ากับใต้ดินทำให้นักศึกษาฝึกงานตอนนั้นเลือกที่จะฝันเฟื่องไปคนเดียว
วันที่เธอฝึกงานจบและทางฝ่ายบุคคลแจ้งว่า ชลากรยินดีจะรับเธอเข้าทำงานที่บริษัท ตรีญาภาดีใจจนแทบจะกระโดดกอดพนักงานสาวที่มาบอกข่าวดีกับเธอเลย
ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานในฐานะนักศึกษาฝึกงานจนถึงวันนี้ก็เกือบสี่ปีแล้ว ทั้งสองคนสนิทสนมกันมากเพราะชลากรอายุมากกว่าตรีแค่เพียงหกปีแต่ที่เขาได้ขึ้นเป็นประธานบริษัทเพราะบิดาของเขาล้มป่วยเพราะความเครียดและมีเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียว พี่สาวคนเดียวของเขาแต่งงานและไปอยู่ที่อเมริกาเกือบห้าปีแล้ว ชลากรจึงจำเป็นต้องทำงานแทนบิดาทุกอย่างและเขาก็ทำมาได้ดีจนตอนนี้เข้าปีที่สองแล้ว
ความสนิทสนมของทั้งคู่เริ่มเป็นปัญหาตั้งแต่ชลากรหมั้นกับเฌอมณี ซึ่งคนในสังคมไฮโซและในบริษัทต่างก็รู้กันว่า ที่ชลากรยอมหมั้นเพราะทั้งคู่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กและผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นดีเห็นชอบโดยที่ชายหนุ่มไม่ได้รักคู่หมั้นแบบคนรักเลยสักนิด
ทุกครั้งที่เฌอมณีจะมาหาชลากร เธอจะไม่เคยโทรศัพท์มาก่อนและเมื่อมาถึงก็จะเปิดประตูเข้ามาโดยที่ไม่สนใจใครทั้งนั้น ซึ่งพฤติกรรมเอาแต่ใจแบบนี้หญิงสาวไม่เคยทำต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเลย
เฌอมณีมาที่บริษัททีไรส่วนมากเธอก็จะเจอว่าคู่หมั้นของเธอนั่งอยู่ในห้องกับตรีญาภาสองต่อสองและระเบิดก็จะลงทุกทีแต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่หญิงสาวกำลังอาละวาด ตรีประดับมารดาของชลากรเปิดประตูเข้ามา จากที่โวยวายคู่หมั้นสาวก็กลายเป็นหญิงไทยใจงาม เรียบร้อย อ่อนหวาน จนทั้งชลากรและเลขาต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจที่เฌอมณีสามารถเปลี่ยนอารมณ์ได้ยิ่งกว่านักแสดงเสียอีก
“กรคะไปกินข้าวกลางวันกันดีกว่า”
เฌอมณีเปิดประตูห้องเข้ามาโดยไม่มีการเคาะทำให้ชายหนุ่มที่กำลังตั้งใจทำงานเพื่อสะสางทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่จะไปต่างจังหวัดถึงสิบวันซึ่งเขาก็ยังไม่ได้บอกรายละเอียดเรื่องเวลากับเลขาเลยสะดุ้งสุดตัวเพราะกำลังมีสมาธิกับงานที่ทำอยู่
“เฌอ...เคาะประตูไม่เป็นใช่ไหม กรเกือบหัวใจวายแล้วนะกำลังทำงานยุ่ง ๆ อยู่ ใจตกลงไปถึงพื้นเลย”
ชลากรพูดต่อว่าแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทำท่าทางไม่พอใจไม่ใช่เพราะกลัวแต่เขาไม่อยากอายพนักงานที่คู่หมั้นสาวชอบอาละวาด
“ถ้าเคาะประตูก่อนแล้วกรเอาใครมาซ่อนไว้เฌอก็ไม่เห็นสิคะ”
“แล้วมันกี่ครั้งแล้วที่เปิดเข้ามาไม่ใช่สาว ๆ แต่เป็นลูกค้าหรือไม่ก็ฝ่ายบริหารของบริษัท เห็นคุณแม่ก็เคยเหมือนถามกรเหมือนกันว่าเฌอมาที่บริษัทแล้วน่ารักไหม สงสัยคงมีฝ่ายบริหารหรือไม่ก็ผู้ร่วมหุ้นไปฟ้องแน่ ๆ ”
ชายหนุ่มแกล้งพูดไปแบบนั้นเพราะรู้ว่าคู่หมั้นของเขากลัวที่สุดคือการที่พ่อและแม่ของชลากรจะไม่เอ็นดูเธอเพราะลึก ๆ แล้วเฌอมณีก็รู้ว่าชลากรคิดกับเธอแค่เพื่อนเท่านั้น
“แล้วกรช่วยแก้ตัวให้เฌอไหมหรือว่าซ้ำเลยคะ ยิ่งชอบว่าเฌออยู่ด้วย”
“กรก็บอกไปว่าครับ เฌอเป็นผู้หญิงน่ารัก มารยาทดี คนทั้งบริษัทส่วนมากก็ชอบเฌอกันทั้งนั้น”
“ฟังแล้วเหมือนกรกำลังหลอกด่าเลยนะคะ แต่ก็ช่างเถอะ ให้เวลาห้านาทีเก็บของ เฌอหิวข้าวแล้ว”
ชายหนุ่มทำตามพร้อมกับถอนหายใจอย่างแรงให้หญิงสาวที่นั่งเขี่ยโทรศัพท์รู้ว่าเขาแสนจะเหนื่อยใจเหลือเกินแต่มันก็ไม่มีผลเพราะคู่หมั้นสาวไม่ได้สนใจ
“ตรีจ๊ะกระโปรงให้มันยาวกว่านี้หน่อยก็ดีนะคะ ที่ทำงานจ้าไม่ใช่ผับ”
ทันทีที่ออกมาหน้าห้องคู่กัดก็เริ่มแยกเขี้ยวใส่กันและเป็น เฌอมณีเสมอที่เริ่มก่อน
“ขอบคุณที่เตือนนะคะ แต่ถ้ายาวแบบที่คุณเฌอใส่ ตรีไม่กล้าหรอกค่ะกลัวก้มแล้วจะเห็นก้นดำ ๆ อายคนอื่นเขา”
พนักงานที่อยู่ฝ่ายการเงินและบุคคลทั้งหมดต่างก้มหน้า แอบยิ้มด้วยความสะใจที่ตรีญาภาตอบโต้ได้อย่างทันเกม
“กรเลขาคุณเถียงเฌอ”
“ก็คุณไปว่าเขาก่อน ตกลงหิวข้าวไหมถ้ายังไม่ไปกรจะไปทำงานต่อแล้วนะ”
หญิงสาวในชุดสีแดงสั้นแค่เพียงคืบและคว้านหลังจนแทบจะถึงก้นเดินกระแทกเท้าด้วยความไม่พอใจออกไป
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่คุ้นตาของฝ่ายการเงินปละบุคคลที่ทำงานอยู่ชั้นเดียวกับห้องทำงานของชลากรแต่ทุกคนก็ไม่ได้รู้สึกชิน หลายครั้งที่พนักงานที่ทำงานมานานโมโหและหมดความอดทนหันมาเถียงคู่หมั้นเจ้านาย แต่ชลากรก็ไม่เคยว่าลูกน้องเลยเพราะเขารู้ว่าความอดทนของทุกคนมีขีดจำกัด

