บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 คำเตือน

ภัทรสรตื่นมาเกือบบ่ายหลังจากที่ร้องไห้จนเผลอหลับไป หญิงสาวเฝ้าคิดทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผู้หญิงที่สามีไม่ต้องการอย่างเธอสมควรแล้วหรือที่ควรจะเสนอหน้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป มือเล็กเอื้อมไปหยิบสมาร์ตโฟนมากดโทรออก ซึ่งจุดหมายปลายทางคือน้องชายคนเดียวของตน

“ครับพี่แนน” ศิวะกรอกเสียงทักทายมาตามสายเมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์อบนหน้าจอ

“นพ วันนี้นพมารับพี่ไปนอนที่บ้านนะ พี่ขอร้อง”

“มันทำอะไรพี่แนนอีกแล้วใช่ไหมครับ?” แค่ได้ยินแบบนี้ชายหนุ่มก็สามารถเดาเหตุการณ์ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

“ไม่มีอะไรจ้ะ พี่แค่...คิดถึงพ่อ” คำโป้ปดถูกถ่ายทอดกลับไป เธออ่อนแอเกินกว่าจะให้ใครมาเห็นใจ

“แน่ใจนะครับ ปกติพี่แนนไม่เห็นเคยติดพ่อ”

“นพอย่าคาดคั้นอะไรพี่เลยนะ” น้ำเสียงหวานเริ่มสั่นไหวกับการถูกสะกิดแผลสดๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้

“ถ้าพี่แนนไม่บอกนพก็จะไม่ไปรับพี่แนน” ให้รู้ไปว่าคนอย่างมันจะทำร้ายพี่สาวตนได้ตลอดเวลา

“พี่ทะเลาะกับเขานิดหน่อยน่ะนพ”

“เรื่องอะไรครับ?” ศิวะสวนกลับมาแทบจะทันทีที่พี่สาวพูดจบ

“เรื่องทั่วๆ ไปจ้ะ คุยกันไม่เข้าใจ” ถ้าเข้าใจกันคงเป็นเรื่องแปลก นับตั้งแต่ก้าวเข้ามาผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีไม่เตยพูดดีด้วยสักคำ

“พี่แนนอยู่ที่นั่นดีแล้วล่ะครับ เดี๋ยวนพจัดการเอง” เขาไม่มีวันยอมให้พี่สาวถูกทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวแน่

“แต่...”

“เชื่อนพนะครับพี่แนน ไว้นพจะโทรไปคุยด้วยบ่อยๆ” สิ้นเสียงศิวะก็กดปุ่มวางสายลงทันที ถ้าสันดานของบุคคลที่มีตำแหน่งเป็นพี่เขยยังแก้ไม่หาย ตนจะเป็นฝ่ายทำให้มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดเอง

สำนักงานใหญ่ตระกูลพัฒนไพบูลย์ บริษัทรายใหญ่ซึ่งมีกิจการส่งออกสินค้าอันดับต้นๆ ของเมืองไทยคือจุดมุ่งหมายของศิวะ ร่างสูงรีบสาวเท้ากดลิฟต์ขึ้นไปยังห้องทำงานชั้นบนสุดของผู้มีตำแหน่งเป็นรองประธานบริหารตามที่ได้สอบถามมาจากเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ด้านล่างก๊อก...ก๊อก...ก๊อก

“คุณวีวี่คะ มีแขกมาขอพบค่ะ” สิตารายงานผู้เป็นเจ้านาย

“ใครเหรอคะพี่ตา” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เนื่องจากจำได้ว่าในตารางงานวันนี้เธอไม่มีนัดกับใคร

“เอ่อ...ผู้ชายคนนั้นบอกว่าเดี๋ยวคุณวีวี่ก็รู้เองค่ะว่าเขาเป็นใคร”

“งั้นเชิญเข้ามาเลยค่ะ” เวรุการับคำและสั่งให้เลขาส่วนตัวอนุญาตให้ผู้มาเยือนเข้ามาในห้อง

“สวัสดีครับคุณวีวี่” ร่างสูงที่ก้าวเข้ามาถึงบริเวณหน้าโต๊ะทำงานกล่าวคำทักทาย มือหนาทั้งสองข้างเท้าอยู่กับโต๊ะจนเจ้าของห้องไม่พอใจลึกๆ กับการกระทำซึ่งถือวิสาสะของอีกฝ่าย

“เธอเองเหรอนพ อีกอย่างเธอควรจะเรียกฉันว่าพี่นะ ฉันแก่กว่าเธอหลายปี” สาวรุ่นพี่เอ่ยเตือนเมื่อถูกเรียกด้วยสรรพนามที่ดูสนิทสนมมากกว่าให้ความเคารพเนื่องจากผู้ชายตรงหน้ามีสถานะอ่อยวัยกว่า

“พอดีผมไม่ชอบนับญาติกับใครง่ายๆ ที่ตั้งใจมาวันนี้ผมมีเรื่องอยากคุยกับไอ้น้องชายคุณ โชคยังดีที่วันนี้มันไม่อยู่” ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้มใส่ พี่สาวแสนสวยคนนี้พยศเอาเรื่องทีเดียว

“วินทำอะไรให้เธอไม่พอใจอีกล่ะ” เวรุกาเข้าใจดีว่าชายหนุ่มไม่ชอบหน้าน้องชายตน

“น้องชายคุณมันแสดงความสารเลวออกมาเรื่อยๆ ไง นี่ขนาดแต่งงานกับพี่สาวผมได้ไม่กี่วัน”

“เธอไม่มีสิทธิ์มาด่าวินแบบนั้น” หญิงสาวเข่นเขี้ยวกลับไปด้วยความไม่พอใจ มีอะไรก็ควรหันหน้าคุยกันด้วยเหตุผล

“ทำไมจะว่าไม่ได้ ในเมื่อน้องชายคุณมันทำเลวกับพี่สาวผม เดี๋ยวมันจะได้รู้รสชาติของความเจ็บปวดบ้าง” คนพูดแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม ไม่มีแววตาล้อเล่น ใบหน้าคมที่ยื่นเข้ามาใกล้ทำเอาตั้งตัวไม่ทัน เวรุกาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วถอยไปยืนด้านหลังหลายก้าว

“เธอจะทำอะไร?” คนเสียเปรียบพยายามควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ เด็กบ้า ทำไมต้องมาทำให้หวั่นไหวด้วย

“น้องชายคุณมันทำอะไรไว้กับพี่สาวผม ผมก็จะทำให้มันได้รับรู้ว่าเวลาพี่สาวตัวเองถูกย่ำยีจากคนที่เกลียดบ้างจะเป็นยังไง คงสนุกน่าดู” คำพูดมาพร้อมกับสายตาที่ลามเลียไปทั่วเรือนร่างอย่างเปิดเผย

“อย่ามาทำตัวต่ำๆ ที่นี่นะ ออกไปจากห้องฉัน” เจ้าของห้องชี้นิ้วไล่ ทว่าวงหน้าสวยกลับซับสีเลือดขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

“จำไว้นะคนสวย บอกน้องชายคุณให้มันระวังตัวไว้ให้ดี” พูดจบร่างสูงก็หันหลังกลับ ผิวปากออกไปจากห้องอย่างอารมณ์ดีท่ามกลางเสียงก่นด่าตามหลังของหญิงสาวที่ถูกเด็กโตเกินตัวปีนเกลียว “ไอ้เด็กบ้า ชาติที่แล้วเกิดเป็นนกรึไง”

เย็นวันนั้นเวรุการีบเดินทางกลับบ้านเพื่อมาคุยกับน้องชายให้รู้เรื่อง ภาพที่ถูกชายหนุ่มอ่อนวัยกว่าจับจ้องไปทั่วเรือนร่างราวกับจะกลืนกิน ทำให้อดหวั่นไหวไม่ได้ หัวใจกระตุกวูบชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวนั่งรออยู่บริเวณห้องโถงจนค่ำจึงเห็นร่างของน้องชายตัวดีเดินเข้ามา

“วิน พี่มีเรื่องอยากคุยด้วย”

“มีอะไรครับพี่วีวี่ ไว้คุยกันพรุ่งนี้ได้ไหม วันนี้ผมเหนื่อย” ธีรวัฒน์ตอบพี่สาวเสียงเนือยๆ เนื่องจากวันนี้เพิ่งพาอดีตคนรักออกไปข้างนอกทั้งวัน

“วินเหนื่อยอะไร วันนี้ก็ไม่ได้เข้าไปที่บริษัท บอกพี่มาตามตรง วินไปกับลูกพีชใช่ไหม” น้ำเสียงและสายตามีแววคาดคั้น

“ใครฟ้องพี่วีวี่ครับ หรือแม่น้องสะใภ้คนโปรดนั่น” นี่คงคิดว่าพี่สาวตนถือหางเลยทำตัวผยองขึ้นทุกวัน

“วิน อย่ามาพูดแบบนี้นะ ถึงแนนไม่บอกพี่ก็รู้ พี่จะไม่รู้จักนิสัยน้องชายตัวเองเชียวเหรอ”

“แล้วพี่วีวี่จะให้ผมทำยังไงครับ” ธีรวัฒน์ตัดความรำคาญ

“วินควรเอาใจใส่แนนบ้าง แนนได้ชื่อว่าเป็นเมียและเป็นแม่ของลูกวิน” เวรุกาพยายามเตือนสติน้องชาย

“พี่วีวี่ก็รู้ว่าผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น จะให้ผมยุ่งกับคนที่ไม่รักได้ยังไง”

“นี่วินยังมีความเป็นสุภาพบุรุษบ้างหรือเปล่า พี่ไม่เคยคิดเลยนะว่าน้องตัวเองจะเป็นได้ถึงขนาดนี้ ถ้าวินไม่รักแนน ไหนลองตอบพี่มาหน่อยว่าไปยุ่งกับแนนทำไม”

“พี่วีวี่จะให้ผมบอกสักกี่ครั้งว่าเป็นแค่อารมณ์พาไป ใครจะไปคิดล่ะครับว่าครั้งเดียวแล้วจะติดเลย สงสัยน้ำยาผมคงจะดีมาก” ชายหนุ่มประชดพี่สาว ไม่มีวี่แววแห่งความสำนึกผิดเลยสักนิด

“วินอย่ามาประชดพี่แบบนี้ พี่ไม่รู้หรอกนะว่าวินจะคิดยังไง แต่วินควรจัดการตัวเองและเลิกติดต่อลูกพีชได้แล้ว ไม่งั้นวินเองที่จะเป็นฝ่ายเสียใจ พี่ขอเตือน” พูดจบหญิงสาวก็เดินจากไป โดยไม่ลืมทิ้งท้ายคำพูดให้น้องชายเก็บเอาไปคิด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel