บท
ตั้งค่า

7 หึงได้แต่อย่างประชด

วิศรุตที่พักอีกห้องแอบเห็นโรสสิรินออกจากห้องของเพื่อนรัก พลันคิ้วเข้มขมวดเข้าหาทันทีด้วยความสงสัยว่าเธอเข้าไปทำอะไรในห้องของเพื่อนรัก ตัวเขาเองก็แอบมีความรู้สึกดีๆ ให้กับเธออยู่ไม่น้อย พลางคิดในแง่ดีว่า แม้ทั้งสองจะมีความรู้สึกที่ดีต่อกันเกินเลยความเป็นพี่น้องแต่พวกเขาไม่อาจปฏิเสธฐานะนี้ได้ ทำให้เขายังพอมีหวังที่จะเอาชนะใจเธอ แม้ท้ายที่สุดจะถูกปฏิเสธแต่อย่างน้อยเขาก็ได้พยายามแล้ว

ภีมภวัตลืมตาขึ้นทันทีที่ประตูห้องถูกปิดอย่างแผ่วเบา พลันนึกถึงริมฝีปากอิ่มนุ่มที่จุ๊บแก้มเขาเมื่อสักครู่ เขาอยากจะรั้งร่างนั้นมากอดจูบเพื่อปลอบประโลมเธอ

เขาพึ่งรู้ว่าไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่รู้สึกเหงา โดดเดี่ยวและต้องการหาสิ่งที่จะมาเติมเต็มจากสิ่งที่ขาดหาย ใบหน้าเข้มพลันปรากฏรอยยิ้มจางๆ เพราะพึ่งคิดแผนดี ๆ ออก

ร่างหนาหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนที่จะคว้ารีโมทกดเปิดเพลงโปรดจากโฮมเธียเตอร์สุดหรูที่เขาชื่นชอบพร้อมกับเดินผิวปากตามทำนองเพลงเข้าห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดี เขาเกือบลืมไปแล้วว่าความรู้สึกดี ๆ เช่นนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ก็น่าจะเป็นคืนสุดท้ายก่อนที่เข้าจะไปเรียนต่อนั่นเอง ซึ่งตอนนั้นเพียงแค่เขานอนกอดเธอก็รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกแล้ว

สองปีที่แล้วเขาให้โรสสิรินแอบบินไปหาเขาโดยไม่ให้ใครรู้ เขาบอกเพื่อนอย่างวิศรุตว่ากำลังติดสาว ส่วนวิศรุตก็ไม่ว่างเพราะติดสาวเหมือนกัน เขาได้พาโรสสิรินเที่ยวอย่างสนุก เขารักเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น

ในห้องครัวใหญ่ โรสพ่อครัวและเหล่าบรรดาสาวใช้กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเช้าให้ผู้เป็นนาย และแขกของเขาอย่างวิศรุต เมนูเด็ดของเช้าวันนี้ก็คือปลาหมึกผัดไข่เค็ม ห่อหมกทะเล ปูผัดผงกะหรี่ เพราะโรสสิรินลงทุนเข้าครัวทำเองกับมือ เพราะรู้ดีว่าภีมภวัตโปรดปรานอาหารทะเลมากแค่ไหน โดยเฉพาะห่อหมกทะเล

ผ่านไปสองชั่วโมงอาหารอันโอชะสุดหรูถูกจัดเรียงรายอยู่บนโต๊ะสีขาวยาวเหยียด ทุกคนต่างมาพร้อมหน้าโดยมีภีมภวัตนั่งหัวโต๊ะและมีอรปรียานั่งข้างๆ ยกเว้นเสียแต่น้องสาวสุดที่รักของเจ้าของบ้าน อย่างภีมภวัต

“โรสอยู่ไหน ทำไมยังไม่ร่วมโต๊ะอีก” เสียงเข้มถามป้าจินดาแม่บ้านเสียงนั้นเจือความขุ่นเคืองซึ่งแสดงความไม่พอใจที่น้องสาวสุดที่รักยังไม่มาร่วมโต๊ะ

สร้างความอิจฉาตาร้อนให้กับอรปรียาว่าที่คู่หมั้นที่ยังไม่ได้หมั้นสักทีเพราะภีมภวัตยื้อมาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อนไปเรียนเธอก็ยังไม่ได้หมั้นกับภีมภวัต อีกอย่างชายหนุ่มให้ความสำคัญกับโรสสิรินมากถึงเธอจะเป็นน้องสาวของเขาก็เถอะ แต่หล่อนเป็นแค่เด็กกำพร้าที่พ่อของเธอนำมาชุบเลี้ยงจนได้กลายเป็นคุณหนูแห่งวิริยะพงษ์ไพศาลผู้สูงส่ง ซึ่งเมื่อคิดถึงตรงนี้ทีไรก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยในเจตนาของผู้เป็นพ่อทุกครั้งไป

“ภีมขา อรว่าเราทานกันเถอะค่ะ วันนี้ภีมต้องรีบออกไปข้างนอกไม่ไช่เหรอคะ อรจะไปด้วยนะคะ” เสียงกระแอมอย่างสุภาพของยุทธนาดังขึ้นเพื่อเตือนลูกสาวที่แสดงกิริยาไม่มีน้ำใจเช่นนั้นต่อโรสสิริน

“มาแล้วค่าา!!” เสียงใสดุจระฆังแก้วมาพร้อมกับร่างบางระหงที่กำลังเดินตรงมาที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนส่งให้สาวใช้ก่อนจะเข้าไปนั่งข้างพี่ชายซึ่งเป็นที่นั่งตรงข้ามกับอรปรียา

สายตาคมของชายหนุ่มกวาดตาหาเจ้าของเสียงใสนั้นทันทีร่างบางระหงที่กำลังเดินกึ่งวิ่งเพื่อมานั่งที่นั่งที่ถูกจัดไว้ให้เธออยู่ในเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงกะลาสีขายาวอวดให้เห็นรูปร่างสมส่วน หน้าอกหน้าใจดูมันจะล้นออกมาเกินอายุอานามของเจ้าตัว เธอเกล้าผมแบบสบายๆ ซึ่งตอนนี้กระเซิงนิดๆ เนื่องจากง่วนกับการทำอาหารจานโปรดให้พี่ชายของเธอนั้นเอง ภีมภวัตมองเห็นแววตาใสแป๋วไร้เดียงสาที่พยายามส่งมาที่เขาอย่างรู้สึกผิดที่ตนมาช้า ‘อีกแล้ว’ เรียกรอยยิ้มจากชายหนุ่มที่เห็นน้องสาวของตนนั้นน่ารักน่าหยิกเหลือเกิน

“เหรอครับ อาหารดูน่าทานจังงั้นพี่ขอชิมเลยแล้วกันนะครับ” วิศรุตที่กำลังจะตักปูแต่ดันไปชนกับภีมภวัตที่ใจตรงกันจะตักปูทานอยู่พอดี ชายหนุ่มทั้งสองหันมาเขม่นกันทันที

“อุ๊ย! ตักอาหารชนกันแบบนี้ ถ้าอรจ้าไม่ผิดโบราณบอกไว ว่าจะมีคนมาหานะคะ เดี๋ยวอรตักให้นะคะ” พูดจบหญิงสาวตักปูให้ภีมภวัตทันทีพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มอย่างออดอ้อนเอาใจ วิศรุตไม่รอช้า เขารับตักปูให้โรสสิรินเช่นกัน

“ขอบคุณค่ะพี่รุต เดี๋ยวโรสตักเองดีกว่าค่ะ” ทีแรกโรสสิรินตั้งใจจะตักให้พี่ชายแต่โดนอรปรียาตัดหน้าไปเสียก่อน พลันน้อยอกน้อยใจที่ชายหนุ่มไม่สนใจเธอสักนิด

โรสสิรินแอบเบ้ปากที่เห็นอรปรียาเอาอกเอาใจภีมภวัต ชายหนุ่มเองที่อยากประชดน้องสาวก็ไม่น้อยหน้า ตักอาหารให้อรปรียาอย่างรักใคร่เช่นกัน ไม่มีใครรู้เลยว่าภาพสวีทหวานของทั้งสองจะมีอิทธิพลต่อจิตใจดวงน้อยๆ ของเธออย่างยิ่งยวด เธอรู้สึกเจ็บที่หน้าอกข้างซ้ายคล้ายจะหายใจไม่ออก ใช่แล้วเธอแอบหลงรักพี่ชายตัวเองมาตลอด เธอไม่ได้เพียงแค่ยอมพลีกายอย่างเดียว แต่เธอก็ให้ใจพี่ชายไปเต็มร้อย เธอพึ่งแน่ใจว่าเธอรักเขาเข้าแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สึกเจ็บแปลบหัวใจขนาดนี้ เธอไม่เคยรู้สึกรังเกียจสัมผัสของเขา หากแต่ยังชอบเวลาที่เขาสัมผัสอีกด้วย

โรสสิรินพยายามก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานให้เสร็จโดยเร็ว ลิ้นนุ่มแทบไม่รับรู้รสชาติของอาหารที่กำลังเคี้ยวด้วยซ้ำ เหตุการณ์

ทั้งหมดอยู่ในสายตาของวิศรุต เขาเห็นแววตาเศร้าสร้อยที่เธอพยายามปกปิดมันด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มทั้งเห็นใจและอยากจะช่วยเธอหากแต่คนที่หญิงสาวยอมมอบหัวใจให้กลับไม่ใช่เขา แต่เขาจะใช้เวลาที่เหลือทำให้เธอหันมาสนใจเขาให้ได้ เขายังมีโอกาสตราบใดที่ภีมภวัตกับเธออยู่ในฐานะพี่น้องกัน

“น้องโรสครับ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแล้ว วันนี้ให้พี่พาไปเที่ยวผ่อนคลายดีไหม จะได้ไปผ่อนคลายก่อนไปเรียนไง” ผู้ถูกถามที่กำลังก้มหน้าก้มตา ทานอาหารเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงทุ้มอย่างงงๆ ในใจก็นึก เหตุใดท่าทางของวิศรุตถึงได้ดูเหมือนรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร ‘เขารู้ว่าเธอกำลังอึดอัดและไม่อยากอยู่ที่นี่งั้นเหรอ’

“อืม!...ตกลงค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมรวบช้อนวางบนจานพลันเลื่อนเก้าอีกเพื่อจะลุกจากโต๊ะ

“นั่นเราจะไปไหน” น้ำเสียงดุบ่งบอกความไม่ชอบใจที่น้องสาวตอบตกลงโดยไม่ขออนุญาต อย่างน้อยก็น่าจะถามความคิดเห็นของเขาซึ่งเป็นผู้ปกครองก่อนที่จะตอบตกลงใคร

“ไปอาบน้ำแต่งตัวค่ะ ตอนนี้โรสมอมแมมไปทั้งตัวเพราะมัวแต่ทำอาหารค่ะ!” หญิงสาวพูดเน้นน้ำเสียงหนักตรงประโยคสุดท้ายอย่างกระแทกกระทั้น ดวงตาใสแป๋วที่เริ่มมีน้ำใส ๆ รื้นบริเวณขอบตาโตสร้างความตกใจให้ผู้เป็นพี่ชายและผู้ปกครองยิ่งนัก พลันสติของชายหนุ่มทำให้เขาเข้าใจว่าหญิงสาวตื่นนอนแต่เช้าเพื่อตั้งใจทำของโปรดให้เขาทาน เขาผิดเองที่ปล่อยให้อารมณ์หึงหวงมาบดบังจนมองไม่เห็นความตั้งใจที่เธอมีให้ เธอก็เห็นเขาสำคัญเหมือนกัน

ชายหนุ่มกำลังอ้าปากจะพูดเพื่อรั้งร่างบางเอาไว้หากแต่เสียง กดกริ่งดังขึ้นเสียก่อนสร้างความขัดใจให้กับชายหนุ่มที่ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้แก้ตัวกับน้องสาว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel