ตอนที่ 5
“ครับ...ผมต้องติดต่อลูกค้าเพราะมีโรงงานแปรรูปอาหารทะเลเล็ก ๆ อยู่บนเกาะสกรูวา มันเป็นเกาะเล็ก ๆ ในหมู่เกาะโลโฟเตน อยู่ทางเหนือของนอร์เวย์ จริง ๆ แล้วผมไม่ค่อยได้อยู่บ้านหรอกครับ แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุกับมาเรียส ผมก็เลยไม่ค่อยได้ไปไหน”
“คุณคงดูแลเขาตลอดเลยซีนะคะ”
“ครับ...ผมอยู่กับเขาตลอด มาเรียสน่ะเป็นคนสนุกสนานจนบางครั้งออกจะใจร้อนด้วยซ้ำ แต่เมื่อเกือบสองปีที่แล้วที่เขาไปอยู่เมืองไทยเราก็แทบไม่ได้ติดต่อกันเลย...เอ้อ...ไม่ทราบว่าคุณพลอยทำงานอยู่ที่รีสอร์ทนั่นนานแล้วหรือครับ?”
“ค่ะ...พลอยอยู่ที่วันเดอร์ฟูล รีเวอร์ รีสอร์ทมาสองปีแล้วค่ะ ผู้จัดการใจดีมาก เมื่อคืนพลอยบอกว่าจะขอลางานไปต่างประเทศหนึ่งสัปดาห์เขาก็ไม่ว่าอะไรค่ะ”
“หนึ่งสัปดาห์หรือครับ...คุณอาจอยู่นานกว่านั้นก็ได้”
พลอยพิชญาย่นคิ้ว ทว่าเพียงครู่น้ำเสียงที่เข้มขึ้นของเขาก็เบาลง
“เอ้อ...ผมหมายถึงมาเรียสอาจต้องการเวลาในการเยียวยาความรู้สึกนานกว่าหนึ่งสัปดาห์”
“ฉันคงอยู่นานกว่านั้นไม่ได้หรอกค่ะ คือ...ฉันมีภาระต้องส่งเงินกลับไปให้ทางบ้าน ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ เบน ถ้าฉันจะมีเวลาอยู่ดูแลน้องชายของคุณได้ไม่นาน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
ชายหนุ่มจับมือเรียวบางมากุมไว้ หญิงสาวเผลอบีบมือแกร่งของเขาเบา ๆ ในช่วงจังหวะที่เครื่อง บินตกหลุมอากาศเล็ก ๆ เบนทำให้เธอหายใจติดขัดเพราะยิ่งอยู่ใกล้ ๆ ก็ยิ่งร้อนข้างในอย่างบอกไม่ถูก เขาตัวโตกว่าเธอมากและใบหน้าที่ยิ่งกว่าหลุดออกมาจากเบ้าหลอมเดียวกับมาเรียสก็ทำให้เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์ฝัน
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่กำจายมาจากตัวเขาเหมือนเกรปฟรุต บางเบาแต่ก็บ่งบอกความเป็นชาย ใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้ เขาทำให้เธอตัวแข็งเหมือนขนมผิงเลยทีเดียว
“ไม่ว่าคุณจะอยู่กับเรานานแค่ไหน แต่อย่างน้อยที่สุดคุณก็กำลังจะไปถึงที่นั่นแล้ว”
น้ำเสียงนั้นเยือกเย็น หนุ่มนอร์วีเจียนสูดกลิ่นไอจากเส้นผมยาวดำขลับราวกับจะซึมซับทุกอย่างไว้ ทุกอย่างที่เป็นพลอยพิชญา จดจำเอาไว้ทั้งร่างกายและวิญญาณของเธอ
ในที่สุดหญิงสาวก็เดินทางมาถึงที่อยู่ของ เบน คริสเตียนเซน หลังเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตและต้องเดินทางออกไปสู่เขตแดนของทะเลนอร์วีเจียนจนถึงหมู่เกาะโลโฟเตนซึ่งอยู่ไกลขึ้นไปทางเหนือของนอร์เวย์ มันดูคล้ายโลกที่แปลกแยก เต็มไปด้วยโขดหินขรุขระเรียงต่อกันเป็นลูกโซ่ทำให้รู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย
ทว่าเมื่อไปถึงเกาะสกรูวา พลอยพิชญาก็ได้เห็นภาพอันตระการตาของท้องทะเลและเกาะแก่งซึ่งรุ่มรวยด้วยความงามตามธรรมชาติ ที่ซึ่งท้องน้ำเป็นสีน้ำเงินเข้มจัดตัดกับผืนน้ำสีเทอร์ควอยซ์ซึ่งเต็มไปด้วยแก่งหินบนที่ราบรอบเกาะ
เบน พาเธอไปถึงที่อยู่ของเขาซึ่งเป็นบ้านสองชั้นสีขาวริมหาด มันไม่ใช่บ้านหรูหราแต่ได้รับการตกแต่งแบบเรียบ ๆ แต่ดูดี และมีสีสันเล็กน้อยด้วยสนามหญ้าหน้าบ้าน ชายสองคนที่ติดตามเขาและเธอมาจากเมืองไทยช่วยกันหอบหิ้วสัมภาระซึ่งมีเพียงกระเป๋าของพลอยพิชญาแค่สองใบเท่านั้นก่อนนั่งเรือเล็กแล่นห่างออกไปจากหาดทรายที่มีเพียงบ้านสองชั้นอันโดดเดี่ยว
“เบนคะ...เอ้อ..”
หญิงสาวหันไปทางชายหนุ่มที่เดินลิ่วไปหยุดตรงหน้าระเบียงบ้าน ที่นั่นหญิงร่างสูงผอม ผมสีบลอนด์เงินและหน้าตากร้านแดดทำให้คาดเดาอายุว่าน่าจะอยู่ที่ราว ๆ สามสิบห้าอยู่ในชุดกระโปรงสีมอ ๆ ยืนรอรับกระเป๋า ทว่าเบนกลับวางมันลงแล้วกล่าวว่า
“ขอบใจมากนะ ออรูร่า...แต่วันนี้เธอไม่ต้องอยู่เฝ้าที่นี่หรอก ฉันให้เธอกลับบ้านได้”
หญิงคนนั้นเหลือบมองข้ามไหล่ของร่างสูงไปยังหญิงสาวร่างเล็กผิวขาวในชุดกระโปรงสวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตก่อนพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
“ค่ะ...เบน แล้วจะให้ฉันมาอีกเมื่อไหร่คะ?”
“ฉันจะบอกเธอเอง”
