อยู่ถูกที่
เพื่อนในห้องกำลังทำความรู้จักกับมิลินกันอย่างเป็นมิตรแต่แล้วก็ต้องหยุดการทำความรู้จักเอาไว้ก่อนเมื่อมีอาจารย์ผู้หญิงวัยกลางเดินเข้ามาในห้อง
"นั่งที่ให้เรียบร้อยฉันคืออาจารย์ที่ปรึกษาของสาขานี้เอาเป็นว่าอย่างแรกเราต้องเรียนหัวหน้าสาขากันก่อน" อาจารย์ที่ปรึกษาเข้ามาถึงก็เอ่ยยาวเหยียดจนมิลินฟังแทบไม่ทัน
"เจสซี่!" เพื่อนในห้องตะโกนชื่อเจสซี่ขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
"เฮ้ย! ทำไมเป็นฉันล่ะ!"
"แกนั่นแหละ" เพื่อนๆ ต่างพากันพร้อมใจให้เจสซี่เป็นหัวหน้าสาขาเพราะทุกคนในห้องนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเจสซี่
"ก็ได้ๆ แต่ทำคนเดียวมันเหนื่อยนะเว้ยไม่มีใครจะมาช่วยฉันเลยหรือไง" เจสซี่บ่นออกมาอย่างเหนื่อยใจตั้งแต่สมัยเรียนทุกคนทำอย่างกับเธอเป็นหัวโจก
"นั่นสิอีกคนเป็นรองคอยช่วยเจสซี่แล้วกัน" อาจารย์กำลังเลือกตำแหน่งต่อไป มิลินได้แต่นั่งเงียบๆ เพราะเธอไม่ถนัดทำอะไรเลยสักอย่าง
"แล้วใครจะเป็นเหรัญญิกของสาขาล่ะ"
"ต้องมีด้วยเหรอคะ" เพื่อนในห้องตะโกนถาม
"มีสิ เวลาทำกิจกรรมก็ต้องคอยเก็บเงินเพื่อนๆ สิ" อาจารย์ที่ปรึกษาเอ่ยออกมาทุกคนพากันหันรีหันขว้างเพราะไม่มีใครอยากยุ่งเรื่องเงินยิ่งของหลายๆ คนรวมกันก็ต้องเยอะแน่ๆ
"ขอเสนอมิลินค่ะ" เจสซี่ยกมือขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่มิลิน
"ทำไมเลือกเราล่ะ?" มิลินถึงกับตาโต
"มิลินดูแล้วเป็นคนมีความรับผิดชอบค่ะและไม่คิดเอาเงินคนอื่นแน่นอน" เจสซี่เอ่ยไปตามที่เห็นเพราะเชื่อว่ามิลินต้องเป็นลูกคุณหนูตระกูลใดตระกูลหนึ่งแน่ๆ ดูจากรูปร่างลักษณะแล้วไม่น่าจะใช่คนธรรมดา
"งั้นเอาตามนั้นก็ได้ เขียนชื่อแล้วมาให้อาจารย์ด้วยล่ะ" อาจารย์ที่ปรึกษาสรุปเสร็จสรรพก่อนจะออกไป วันแรกของการมาเรียนทำให้ไม่มีอะไรมากทุกคนจึงกลับมารวมกลุ่มคุยกันอีกครั้ง
"มิลินเธอนามสกุลอะไรฉันจะได้เขียนให้" เพื่อนในห้องที่กำลังเขียนชื่อคนที่มีหน้าที่ต่างๆ ถามเธอขึ้น
"มิลิน แมคโลริค" มิลินเอ่ยออกมาทุกคนถึงกับตาค้างไปต่อไม่ถูกทำให้มิลินนิ่งค้างตาม
"ยะ..อย่าบอกนะว่าเธอปะ..เป็นลูกสาวของมอร์แกน แมคโลริค" เพื่อนคนหนึ่งถามเธอด้วยเสียงติดๆ ขัดๆ
"ใช่จ้ะ รู้จักพ่อเราด้วยเหรอ"
"รู้สิใครไม่รู้จักพ่อเธอบ้าง มอร์แกน แมคโลริคนักธุรกิจอันดับต้นๆ ของประเทศ" เจสซี่เอ่ยออกมาไม่มีใครไม่รู้จักพ่อของเธอหรอก เมื่อหลายสิบก่อนชื่อของเขาดังไปทั่วแม้แต่คนธรรมดายังรู้จัก เขาเป็นนักธุรกิจใจบุญที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นแต่พอหลังจากมีลูกเขาก็ไม่ค่อยมาปรากฏตัวหน้าสื่ออีกเลย
"พ่อเราดังขนาดนั้นเลยเหรอ" มิลินที่ไม่เคยรู้มาก่อนเพราะตอนเรียนที่โรงเรียนเก่าก็ไม่เห็นจะมีใครตื่นเต้นอาจเป็นเพราะทุกคนมีฐานะไม่ต่างกับเธอ
"ไม่ดังธรรมดาแต่รวยมากๆ ด้วย ว่าแล้วเธอต้องเป็นคุณหนูจากตระกูลไหนแน่ๆ" เพราะที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยไม่มีชื่อเสียงแถมค่าเทอมถูกมากๆ เลยมีคนธรรมดาที่ไม่รวยล้นฟ้ามาเรียนการที่มีลูกของนักธุรกิจมาเรียนที่นี่จึงเป็นที่น่าตื่นเต้นของทุกคน
"ขนาดนั้นเลยเหรอ แต่เราไม่ใช่คุณหนูหรอกนะ" เธอไม่ค่อยชอบเวลาที่ใครเรียกเธอว่าคุณหนูเพราะทำให้ดูแล้วรู้สึกไม่เท่าเทียม
"ทำไมเธอถึงมาเรียนที่นี่ล่ะ ที่นี่ไม่มีชื่อเสียงเลยนะแถมจะปิดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้"
"มันใกล้บ้านที่สุดน่ะ แต่เรียนที่ไหนก็เหมือนกันจริงมั้ย" มิลินบอกกับทุกคนอย่างยิ้มๆ เพื่อนๆ พากันหัวเราะให้กับความน่ารักของมิลินใครจะคิดว่าลูกคุณหนูของบ้านแมคโลริคจะเป็นคนไม่ถือตัวขนาดนี้
"บ้านเธอใช่บ้านหลังใหญ่ๆ ที่มีดอกไม้เยอะๆ ใช่มั้ย"
"ใช่ๆ แม่เราชอบดอกไม้น่ะเลยปลูกเยอะไปหน่อย ไว้วันหลังไปเที่ยวบ้านเรามั้ย"
"พวกเราไปได้เหรอ" เพื่อนในห้องถามออกไปเพราะคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมจะไปบ้านของเธอ
"ได้สิทำไมจะไม่ได้ล่ะ ไว้ไปกันทุกคนเลยนะ" มิลินยิ้มให้ทุกคนอย่างจริงใจ เพื่อนๆ ในห้องพากันซึ้งแทบร้องไห้ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ไปบ้านของนักธุรกิจคนดังจริงๆ
มิลินกลายเป็นขวัญใจของเพื่อนในห้องเธอรู้สึกมีตัวตนมากกว่าเมื่อก่อนเพื่อนๆ ที่นี่ไม่ว่าหรือผลักไสเธอแม้แต่คนเดียว ทำให้มิลินรู้ว่าพวกคนรวยที่ชอบโอ้อวดกันนั่นไม่ได้มีความจริงใจให้กันเลยสักนิดมีแต่จะหวังผลประโยชน์ต่อกันทั้งนั้นแต่เธอเป็นคนไม่ชอบอวดใครจึงไม่ค่อยเป็นที่ต้องการของเพื่อนๆ เท่าไหร่เธอมีค่าแค่ตอนที่ทุกคนมาขอลอกการบ้าน
"พ่อคะนี่เจสซี่ค่ะ เพื่อนหนูเอง" มิลินแนะนำเจสซี่ให้พ่อรู้จักเมื่อผู้เป็นพ่อลงจากรถมารับลูกสาวสุดที่รักถึงหน้าตึก
"สะ...สวัสดีค่ะคะ...คุณมอร์แกน" เจสซี่รีบก้มหัวพร้อมกับพูดติดๆ ขัดๆ เมื่อได้เจอกับพ่อของเพื่อนที่เป็นถึงระดับนักธุรกิจมหาเศรษฐี
"สวัสดีจ้ะขอบใจที่มาส่งมิลินนะ" มอร์แกนเห็นลูกสาวมีเพื่อนตั้งแต่วันแรกก็รู้สึกคลายกังวลได้ไม่น้อย
"มะ...ไม่เป็นไรค่ะ" เจสซี่ที่อาสาเดินมาพร้อมมิลินเพื่อมารอคนขับรถที่หน้าตึกแต่ไม่คิดว่าจะได้เจอพ่อของเพื่อนด้วย
"ให้เราไปส่งมั้ยเจสซี่"
"ไม่เป็นไรเรานั่งรถประจำทางกลับได้" เจสซี่รีบปฏิเสธไม่กล้าไปกับเพื่อน
"ไปเถอะไม่ต้องกลัวหรอกถือว่าเป็นการขอบคุณที่เป็นเพื่อนมิลิน" มอร์แกนเอ่ยออกมาเพื่อนลูกสาวทั้งทีจะไม่ไปส่งได้ยังไงกัน
"ไปนะเจสซี่" มิลินทำหน้าอ้อนๆ ใส่เจสซี่จนทำให้อีกคนปฏิเสธไม่ลง
"ก็ได้ ขอบคุณนะคะ" เจสซี่รีบก้มหัวขอบคุณก่อนจะขึ้นคันหรูด้วยความกลัวๆ
"ไปส่งเพื่อนมิลินก่อน" มอร์แกนบอกคนขับรถ เมื่อเจ้านายขึ้นรถเรียบร้อยคนขับรถก็เริ่มขับรถออกไปช้าๆ มิลินชวนเจสซี่คุยตลอดทางทำให้คนเป็นพ่อที่นั่งมองลูกสาวอดยิ้มไม่ได้ มอร์แกนไม่เคยเห็นมิลินคุยกับเพื่อนมากขนาดนี้มาก่อนเลย.
"ถึงบ้านเราแล้วไปก่อนนะคืนนี้ไว้คุยกัน" รถคันหรูจอดที่หน้าบ้านสองชั้นธรรมดาไม่ได้ใหญ่แต่ก็ไม่ได้เล็กเกินไป
"ได้จ้ะ เจอกันพรุ่งนี้นะ" มิลินโบกมือบายๆ เพื่อน
"ขอบคุณนะคะคุณมอร์แกน" เจสซี่ไม่ลืมที่จะหันไปก้มหัวขอบคุณมอร์แกนอีกครั้ง มอร์แกนได้แต่พยักหน้าไม่ได้พูดอะไร เมื่อเพื่อนลูกสาวลงจากรถแล้วมอร์แกนก็ทำหน้างอนใส่ลูก
"เป็นอะไรคะพ่อ"
"มิลินลืมอะไรหรือเปล่า" แกล้งถามลูกสาว
"ไม่ลืมค่ะ ฟอดด" มิลินเขยิบเข้าไปหอมแก้มผู้เป็นแบบที่ทำทุกวันตอนเลิกเรียน
"ไปเรียนวันแรกเป็นไงลูก"
"สนุกมากเลยค่ะ ทุกคนนิสัยดีหมดเลยไม่เหมือนเมื่อก่อน" มิลินทำหน้าเศร้าเมื่อคิดถึงเพื่อนสมัยเด็กที่เจอมา
"รู้มั้ยมิลินถ้าหนูอยู่ที่ไหนแล้วรู้สึกมีตัวตนนั่นแหละคือที่ของหนู" มอร์แกนสอนลูกสาว เขามีส่วนผิดที่ให้ลูกไปเรียนโรงเรียนที่มีแต่คนรวยเพราะคิดว่าจะเจอสังคมที่ดีแต่ผิดคาดมิลินกลับมีความสุขกับที่แบบนี้มากกว่า
"ค่ะพ่อ"
"น่ารักจังเลยลูกสาวพ่อ" ไม่ว่าใครก็พากันหลงมิลิยกันทั้งนั้นเพราะความน่ารักและขี้อ้อนของเธอ นี่คือสิ่งที่มอร์แกนกังวลไม่หายลูกสาวเขาทั้งสวยและน่ารักต้องมีผู้ชายเข้ามาจีบเยอะแน่ๆ มิลินนั่งเล่าให้พ่อฟังถึงเรื่องต่างๆ ที่เจอมาในวันนี้ เธอเล่าว่าทุกคนรู้จักพ่อของเธอและก็พากันตกใจกันหมด มอร์แกนได้ฟังแล้วก็นึกขำไม่น้อยตอนมิลินบอกจะเรียนที่นี่เขาปฏิเสธทันควันเพราะเป็นที่ที่ไม่มีชื่อเสียงเอาเสียเลยแต่ก็แพ้ลูกอ้อนของลูกสาวจนยอมแต่เขาเหมือนคิดถูกที่ให้ลูกมาเรียนที่นี่ แค่ลูกมีความสุขก็พอแล้ว
