บทที่ 3
“ไอ้ผู้ชายสารเลว ไอ้...” นับดาวไม่รู้จะสรรหาคำด่าทอแบบไหนมาด่าผู้ชายคนนี้ถึงจะสะใจดี เจฟโบกไม้โบกมือลานับดาว ราวกับก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นทั้งสิ้น
ไปๆ มาๆ เขากลับมีเรื่องกับผู้หญิงเสียได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเขากำลังตามจับผู้ชายคนหนึ่งที่จงใจกระโดดลงมาขวางหน้ารถขณะที่เขากำลังชะลอให้รถอีกคันขับออกมาจากปากซอย พอลุกขึ้นมาได้ก็เรียกร้องค่าทำขวัญเป็นหมื่นๆ เมื่อเขาไม่ให้ก็บอกจะแจ้งตำรวจ ซึ่งเขาก็ยินดีจะไปโรงพัก จังหวะที่หันหลังให้นั้น โจรที่อยู่ในคราบผู้ได้รับบาดเจ็บกลับมือเบาล้วงเอากระเป๋าแล้ววิ่งหนีหน้าตาเฉย เจฟวิ่งไล่ตามแต่ก็คลาดกัน กระทั่งมาพบกระเป๋าอยู่ในมือผู้หญิงคนนั้น
“แล้วทำไมเราไม่ถามชื่อหล่อนไว้” เจฟหันหลังกลับมา แต่นับดาวไม่อยู่ให้เขาถามชื่อเสียแล้ว จะว่าไปเหตุการณ์วันนี้ก็น่าตื่นเต้นไม่หยอก เจฟกลับไปที่รถเมื่อเข้าไปนั่งได้ก็รีบเปิดโทรศัพท์ดูใบหน้า นับดาวทันที ใบหน้างงๆ ของเธอทำให้เขายิ้มจนต้องกุมปากก่อนจะหัวเราะออกมา
“โอ๊ย! เจ็บๆ” เสียงร้องโอดโอยของผู้ชายตัวโตดังขึ้น ไม่คิดว่าหมัดจากผู้หญิงตัวเล็กๆ จะทำให้เขาเจ็บไม่น้อยแบบนี้
“สักวันเถอะ ฉันจะเอาคืนเธอให้ร้องไม่ออกเลย” เจฟหมายมั่นว่าต้องเอาคืนนับดาวให้ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก
ปกติเจฟไม่ได้ใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯ เพราะชีวิตส่วนใหญ่ของชายหนุ่มจะอยู่ที่ชุมพรเสียมากกว่า บางครั้งก็นั่งเรือไปใช้ชีวิตที่เกาะรางนก เกาะที่ชายหนุ่มได้สัมปทานรังนกอีแอ่นที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดก็ว่าได้ หากมีประชุมชายหนุ่มถึงจะขับรถเข้ากรุงเทพฯ เพราะบริษัทแม่อยู่ที่นี่ด้วย ซึ่งมีบิดาเขาคอยดูแล อย่างวันนี้เมื่อประชุมเสร็จชายหนุ่มก็ตั้งใจแวะมาเยี่ยมเพื่อนเสียหน่อย แต่กลับเกิดเรื่องเสียได้
เจฟตัดสินใจโทรศัพท์ไปขอเลื่อนนัดก่อน เพราะไปสภาพแบบนี้เสียภาพลักษณ์หมด เมื่อไม่มีนัดที่ไหน ชายหนุ่มจึงตรงกลับบ้านแทน การกลับบ้านก่อนเที่ยงคืนทำให้ผู้เป็นบิดาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม เนื่องจากยังคงติดภาพบุตรชายที่เคยใช้ชีวิตแบบเพลย์บอย ตระเวนราตรี ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แม้ว่าตอนนี้เจฟจะลด ละ เลิก พฤติกรรมที่ว่ามาบางอย่างแล้วก็ตามที เพราะต้องสานงานต่อจากตนเต็มตัว ถึงอย่างนั้นราเมสก็ไม่วายหยิบเรื่องเก่ามาพูดให้บุตรชายได้ยินอยู่บ่อยๆ
“สงสัยพายุจะเข้า แกถึงได้กลับบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินแบบนี้”
“ไม่ดีเหรอครับพ่อ”
“ก็ดี แต่หวังว่าคืนนี้แกจะไม่ออกไปไหนอีกนะ” ราเมสเอ่ยอย่างรู้ทัน เขากับภรรยาที่จากไปมีเจฟเป็นบุตรเพียงคนเดียว ราเมสจึงค่อนข้างตั้งความหวังในตัวบุตรชายคนนี้มากทีเดียว ซึ่งเจฟก็ไม่เคยทำให้ผู้เป็นบิดาผิดหวังสักครั้ง ตั้งแต่เรียนจบเจฟก็เข้ามาช่วยงานเต็มกำลัง ลองผิดลองถูกจนรู้แนวทางของตัวเอง โดยมีราเมสเป็นแบบอย่างให้เห็น
ด้วยความที่เติบโตมาตามประสาผู้ชายโดยขาดมารดา อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เจฟเรียกร้องหาความรักจากสตรีเพศซึ่งราเมสเองก็มองว่าไม่ผิด แต่ดูเหมือนเจฟจะเรียกร้องมากไป เพราะเล่นควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าสักคนทำให้ผู้เป็นบิดาปวดหัว เจฟคือชายหนุ่มรูปงามลูกครึ่งไทย-สเปนที่เจ้าชู้ประตูดิน พฤติกรรมนี้ทำให้ราเมสระอา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เจฟจะหยุดแล้วลงหลักปักฐานกับผู้หญิงดีๆ สักคนเสียที เพราะอายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ที่สำคัญเขาอยากอุ้มหลานแล้วนั่นเอง
“นานๆ ผมจะมีเวลาว่างกับเขาสักที ขอผ่อนคลายบ้างไม่ได้เหรอครับ”
“ได้น่ะมันได้ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรแก” ต่อให้ห้ามแต่ราเมสก็รู้ว่าห้ามไม่ได้ ดีแค่ไหนแล้วที่เจฟรู้จักป้องกัน เพราะถึงจะอยากได้หลานมาอุ้มใจจะขาด แต่การได้แม่ของหลานที่เจอกันในผับในบาร์แบบฉาบฉวยแล้วพลาดตั้งท้องขึ้นมา เขาคนหนึ่งล่ะ ที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ ก่อนจะมองเห็นรอยฟกช้ำบนใบหน้าบุตรชาย
“แล้วนั่นหน้าไปโดนอะไรมา”
“ถูกผู้หญิงต่อยน่ะครับ” เจฟตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ผู้หญิงที่ไหนกัน ชักอยากรู้จักแล้วสิ” ราเมสอมยิ้ม ไม่ได้รู้สึกสงสารบุตรชายเลยแม้แต่น้อย กลับอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่ฝากรอยช้ำไว้บนหน้าเจฟเสียด้วยซ้ำ จะว่าไปผู้หญิงแบบนี้ก็สมน้ำสมเนื้อกับบุตรชายของตนอยู่ไม่น้อย
“ผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แต่เอาเป็นว่าถ้าผมได้เจอเธออีก รับรองจะจับมาเป็นสะใภ้พ่อให้ได้” พูดถึงเจฟก็หวนให้คิดถึงใบหน้าของคนที่ฝากร่องรอยฟกช้ำบนหน้า
“ให้มันจริง เพราะพ่ออยากอุ้มหลานจะแย่แล้ว”
“ผมก็อยากทำหลานให้พ่ออุ้มใจจะขาด แต่ยังไม่เจอแม่ของลูกนี่ครับ จะสุ่มสี่สุ่มห้าทำก็กลัวพ่อจะไม่ถูกใจสะใภ้ พานจะไม่รักลูกของผมไปด้วย แบบนี้เด็กน่าสงสาร เกิดมาตาก็ไม่รัก ไม่เอ็นดู” ข้ออ้างของเจฟดูเหมือนจะฟังขึ้น แต่สำหรับราเมสดูเหมือนจะไม่ได้ผล
“งั้นเดี๋ยวฉันหาสะใภ้เอง แกจะได้ไม่ต้องพูดแบบนี้อีก”
“โธ่...พ่อ อย่าเลย เรื่องนี้ผมขอหาเองดีกว่า” เจฟออกตัว นั่นเพราะเขายังหวงชีวิตโสดอยู่มาก ยังไม่อยากมีพันธะอะไรตอนนี้
“เมื่อไหร่”
“เร็วๆ นี้ครับ”
“ก็เห็นพูดแบบนี้มาหลายปี สุดท้ายแกก็เจ้าชู้ไก่แจ้ ควงคนนั้นที คนนี้ที ไม่เห็นจริงจังกับใครสักคน” คิดถึงเรื่องนี้ทีไร ราเมสก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
“ก่อนจะหาสะใภ้ให้พ่อ ผมก็ขอใช้ชีวิตให้สุดๆ ก่อนสิครับ เพราะพอแต่งงานไป ผมคงทำแบบนี้ไม่ได้” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงๆ เจฟกลับเมินเฉยกับเรื่องหาสะใภ้ เพราะคิดเสมอว่าหากเขากับผู้หญิงคนนั้นเกิดมาเพื่อคู่กันแล้ว ไม่แคล้วก็คงได้พบกันเอง
“ให้มันจริงเถอะ ขืนแกยังไม่เปลี่ยนนิสัย ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนเขาจะมารัก”
“ต้องมีสักคนที่เกิดมาเพื่อผมสิครับพ่อ” หรือต่อให้ไม่มีเจฟก็ไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะรู้สึกสนุกและมีความสุขกับการใช้ชีวิตในทุกวันนี้อยู่แล้ว ความที่ยุ่งกับงานจนแทบไม่มีเวลาไปไหน ทำให้เจฟห่างหายคำว่าเพลย์บอยไปมาก สงสัยคืนนี้ต้องออกไปรื้อฟื้นความหลังเสียหน่อย
“คนๆ นั้น ฉันจะหาให้แกเอง” นี่คือประโยคที่ราเมสเอ่ยขึ้น แต่เจฟกลับไม่ได้ยิน
