บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“เอ่อ...ฉันเจอมันหล่นอยู่ที่พื้น”

“เจอมันหล่นอยู่ที่พื้น อย่าคิดว่ามุขตื้นๆ แบบนี้ผมจะเชื่อ บอกมาว่าเธอคือหนึ่งในแก๊งฉกกระเป๋านี่ใช่ไหม” คำกล่าวหาของชายหนุ่มทำเอานับดาวไม่พอใจ ที่อยู่ๆ ก็ถูกหาว่าเป็นหนึ่งในแก๊งฉกกระเป๋าแบบนี้ หน้าตาก็ดีแต่ทำไมถึงไม่คิดก่อนพูดก็ไม่รู้

“นี่คุณ อยู่ๆ จะมากล่าวหากัน กรุณามีหลักฐานบ้างนะคะ”

“หลักฐานก็กระเป๋าเงินฉันที่มันไปอยู่ในมือเธอนี่ไง หลักฐานชั้นดีเชียวล่ะ” เจฟหยิบกระเป๋าสตางค์ตีกับฝ่ามือตัวเอง ท่าทางเอาเรื่องไม่น้อย

“ฉันบอกคุณแล้ว ว่าฉันเก็บได้ มันหล่นอยู่บนพื้น ฟังไม่เข้าใจหรือไง” นับดาวเองก็เริ่มเดือดเหมือนกัน

“เก็บได้แล้วเงินในกระเป๋าฉันหายไปไหนหมด”

“ฉันจะไปรู้เหรอ เพราะยังไม่ได้เปิดกระเป๋าเงินคุณด้วยซ้ำ”

“ไม่รู้เหรอ!” เจฟไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบคว้ากระเป๋าสะพายของนับดาวมาถือไว้ เพราะมั่นใจว่าเงินที่หายไปนั้นต้องอยู่ในกระเป๋าใบนี้แน่นอน

“เอ๊ะ! นี่คุณจะทำอะไร เอากระเป๋าฉันคืนมานะ” นับดาวพยายามยื้อกระเป๋าสะพายคืนมาจากเจฟ แต่ความที่ชายหนุ่มตัวสูงกว่ามากเธอจึงเอื้อมไม่ถึง ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นชายหนุ่มเปิดกระเป๋าออกแล้วเททุกสิ่งทุกอย่างลงบนพื้นฟุตบาท

“หยุด! นี่คุณจะทำอะไร” เจฟไม่สนใจคำทักท้วงนั้น ชายหนุ่มรื้อข้าวของที่เทออกมาจากกระเป๋านับดาวเพื่อจะหาหลักฐานว่ามีเงินสดเขารวมอยู่ด้วยหรือไม่ แต่กลับว่างเปล่า ข้าวของที่เห็นมีแค่กล่องดินสอ สมุดโน้ตเล็กๆ โทรศัพท์ ผ้าเช็ดหน้า กระเป๋าสตางค์ที่ภายในมีเอกสารและเงินไม่ถึงพันบาท

“ในกระเป๋าไม่มี งั้นเงินคงอยู่ในตัวเธอ” แทนที่จะจบแค่นี้ แต่ เจฟกลับยังคงกล่าวหานับดาวต่อ

“จะบ้าเหรอ ออกไปให้พ้น อย่าเข้ามาใกล้ตัวฉันนะ” นับดาวตั้งการ์ดสู้เต็มที่ แต่เจฟมีหรือจะกลัว เพราะที่ผ่านมาการปลุกปล้ำ ถอดเสื้อผ้าผู้หญิงนั้นเขามักจะชนะเสมอ เจฟก้าวเข้ามาประชิดตัวนับดาว ก่อนจะล็อกตัวเธอไว้ด้วยกำลังที่มีมากกว่าก่อนจะเริ่มค้นหาหลักฐานที่คิดว่านับดาวซุกซ่อนไว้ในตัว

“หยุดนะ ออกไป ช่วยด้วย” เสียงร้องขอความช่วยเหลือของ นับดาวดูจะไร้ประโยชน์ เพราะขณะนี้ไม่มีผู้คนผ่านตรงจุดเกิดเหตุเลยแม้แต่คนเดียว ส่วนคนที่อยู่ในละแวกท้องถนนก็ได้แต่มอง ไม่มีใครเข้ามาถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้นแม้แต่คนเดียว

เจฟจับตรงนั้น คลำตรงนี้บนเรือนร่างของนับดาวราวกับตนเป็นเจ้าของ ชายเสื้อนักศึกษาสีขาวถูกชายหนุ่มถลกขึ้นจนหลุดพ้นขอบกระโปรง ทำให้มือหนาสัมผัสกับเอวคอดได้ง่ายขึ้น นับดาวทั้งตบ ทั้งตี ไหนจะข่วนชายหนุ่มไปเต็มแรงหลายครั้งเพื่อให้เขาปล่อยเธอ ปากก็บอกให้เขาหยุดพร้อมๆ กับขอให้คนช่วย แต่เจฟกลับไม่สะทกสะท้าน

“โอเค...ไม่มี” เมื่อแน่ใจว่าบนตัวของนับดาวไม่ได้ซ่อนอะไรไว้ เจฟจึงปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ แต่ความนุ่มนิ่มของกายสาวบวกกับกลิ่นแป้งอ่อนๆ ที่โชยมาเตะจมูกยามใกล้ชิดก็ทำเอาชายหนุ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คนถูกปล่อยให้เป็นอิสระหายใจเข้าปอดหนักๆ

เพียะ!!

เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้าเต็มแรงดังขึ้น คนที่ถูกตบถึงกับหน้าชาไปชั่วขณะ นับดาวยืนกัดฟันกรอดๆ เพราะความโกรธที่ถูกผู้ชายห่ามๆ นิสัยหน้าตัวเมียลวนลาม หากไม่ตบเอาคืนเสียบ้าง เธอจะเอาศักดิ์ศรีไปไว้ไหน

“ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้”

“ขอโทษเรื่องอะไรครับ” แม้จะรู้แต่เจฟก็ยังเฉย

“รู้อยู่แก่ใจ อย่ามาแกล้งถามหน่อยเลย”

“ผมไม่ขอโทษ เพราะถือว่าคุณได้ตบหน้าผมไปแล้ว แบบนี้เราก็หายกัน”

“สำหรับฉัน แค่ตบหน้าไปครั้งเดียวมันยังไม่พอหรอกนะ เพราะคุณทั้ง...”

“ทั้งอะไรครับ” คำถามย้อนของเจฟทำเอานับดาวหน้าแดงก่ำ เกิดมาเธอไม่เคยอับอายอะไรเท่านี้มาก่อน คิดแล้วอยากจะฆ่าผู้ชายตรงหน้าให้ตายคามือเสียจริง

“ไม่ต้องมาย้อน ขอโทษฉันมาเดี๋ยวนี้” แทนที่จะทำตามที่ นับดาวบอก เจฟกลับยืนหูทวนลม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จนหญิงสาวอารมณ์ขึ้น ควันออกหู งานนี้เป็นไงเป็นกัน

“อยากตายนักใช่ไหม...ห๊า!” นับดาวตะคอกเสียงสูง พร้อมทั้งกำหมัดแน่น หมัดเล็กๆ แต่ทว่าทรงพลังถูกปล่อยใส่เจฟบริเวณกึ่งปากกึ่งจมูก ความที่ไม่ได้ตั้งตัวนั่นทำให้คนตัวสูงถึงกับเซถลา ความเจ็บพุ่งปรี๊ดขึ้นสมอง ได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ ทันที

“ทำไมผู้ชายเลวๆ คิดเองเออเองแบบคุณถึงไม่สูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้เสียที” นับดาวสะบัดหน้าให้เจฟ ก่อนจะลงไปนั่งยองๆ เก็บข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นฟุตบาท จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินเลี่ยงเจฟเพื่อจะกลับเข้าบ้าน

“นี่เธอ หยุดก่อน” เจฟรีบก้าวเข้ามาขวางหน้านับดาวไว้ เพราะไม่อยากให้นับดาวรีบไปนัก นานๆ จะเจอผู้หญิงห้าว ไม่กลัวอะไร แถมยังกล้าตบหน้าและแถมหมัดให้เขาอีกตั้งหนึ่งครั้ง จะปล่อยเธอไปแบบไม่ทำอะไรเลย ก็เสียชื่อเจฟน่ะสิ แบบนี้ต้องข่มขู่เสียหน่อย

“มีอะไรอีก” น้ำเสียงห้วนๆ ถามกลับอย่างไม่พอใจ วันนี้วันโชคร้ายอะไรของเธอถึงต้องมาเจอเรื่องราวบ้าๆ แบบนี้ด้วย

เจฟไม่พูดแต่กลับแสดงให้เห็น ชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา จากนั้นก็จัดแจงกดปุ่มกล้องถ่ายรูปเพื่อถ่ายรูปคู่ตัวเองกับนับดาวไว้ทันที ส่วนเธอได้แต่ยืนอึ้ง สีหน้าในรูปจึงออกแนวงุนงง ก่อนจะหันมาถามเสียงห้วนพร้อมขยับให้ห่างเจฟเข้าไว้ ผู้ชายคนนี้ท่าทางโรคจิตแน่ๆ

“คิดจะทำอะไร”

“ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ว่าเธอไม่ใช่หนึ่งในแก๊งฉกกระเป๋า”

“ก็บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ใช่ หูตึงหรือไง ลบรูปฉันทิ้งเดี๋ยวนี้เลยนะ” คำสั่งนี้ของนับดาวดูจะไม่เป็นผลสักเท่าไหร่นัก เจฟเดินถอยหลังห่างเธอออกไปทีละก้าว แต่ก็ไม่วายพูดให้นับดาวเลือดขึ้นหน้า

“ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ เพราะถ้าวันหนึ่งเธอใช่ขึ้นมา ฉันจะได้เอารูปนี้เข้าแจ้งความ”

“คุณ!”

“อ้อ...อาจแจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกายด้วย” พูดจบก็รีบเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง ยืนยักไหล่จนนับดาวหมั่นไส้กับท่าทางที่เห็น

“ก็ลองดูสิ เพราะฉันเองก็จะแจ้งความกลับข้อหาหมิ่นประมาท รวมทั้งทำอนาจาร”

“งั้นก็แสดงว่าเราต้องได้เจอกันอีกน่ะสิครับ”

“ไม่...” นับดาวกำลังจะพูดอีกหลายคำ ว่าเธอไม่มีทางพบกับเขาอีกเป็นแน่ ต่อให้ชาตินี้หรือชาติหน้า แต่กลับถูกชายหนุ่มเอ่ยแทรกขึ้นเสียก่อน

“บ๊ายบายครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก เพราะถ้ามีครั้งที่สองฉันจะจูบเธอก่อนที่เธอจะตบหรือชกหน้าฉันอย่างวันนี้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel