บทที่ 5
ด้วยความเป็นนักข่าวสายบันเทิงและอยากได้ข่าวที่ลึกมากกว่านี้เพื่อเสนอบรรณาธิการ ทำให้นักข่าวสาวคนหนึ่งไม่ยอมกลับไปจากหน้าไนท์คลับง่ายๆ เธอจดๆ จ้องๆ ที่จะเข้าไปภายในงานให้จงได้ แต่การ์ดร่างยักษ์ที่ยืนขวางประตูอยู่สี่คนก็เป็นอุปสรรค์ทำให้ เสาวรส ไม่อาจฝ่ากำแพงมนุษย์ตัวสูงใหญ่นั้นเข้าไปภายในงานได้ง่ายๆ เธอจึงเดินอ้อมเพื่อหวังจะเข้าไปทางด้านหลังหรืออะไรก็ได้และนั่นทำให้เธอชนเข้ากับใครบางคน ที่ก้มๆ เงยๆ มองมือตัวเองที่วันนี้หั่นผักจนถูกมีดบาดอยู่จนไม่ทันระวังเช่นกัน
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ” เสียงของนีรชาดังขึ้น พอเงยหน้าเธอถึงกับยิ้มกว้าง “ยายรส มาทำอะไรที่นี่”
“มิน” เสาวรสเอ่ยชื่อเพื่อนสนิท นั่นทำให้ความจำของเธอกลับมาทันทีว่านี่คือโรงแรมของนีรชา เพราะฉะนั้นเพื่อนเธอต้องรู้ทางเข้าไปในไนท์คลับโดยที่การ์ดไม่รู้ตัวแน่
“ว่าไง มาทำอะไรที่นี่”
“ทำงานน่ะ มินช่วยอะไรเราสักอย่างสิ” แววตาของเสาวรสนั้นเปล่งประกายทันที
“อะไร”
“คือเราอยากเข้าไปในไนท์คลับ เธอมีทางหนีไฟหรือประตูสำหรับพนักงานเข้าไปภายในได้ไหม”
“แล้วทำไมเธอไม่เข้าหน้าประตูไปเลย มานี่จะพาไป” นีรชาจับข้อมือบางของเสาวรสไว้ ก่อนจะพาเดินไปยังประตูทางเข้าไนท์คลับแต่เพื่อนกลับยื้อตัวไม่ยอมเดินตาม
“ไม่ได้ ขืนทำแบบนั้นก็ถูกจับตัวโยนออกมากันพอดี”
“นี่อย่าบอกนะว่าจะแอบเข้างานไปทำข่าวใครในนั้น” คำพูดของ นีรชานั้นตรงทุกอย่าง แต่เสาวรสกลับเฉไฉ
“จะอะไรก็ช่างเถอะนะ ช่วยเพื่อนสักครั้งนะมิน นะ”
“เอ่อ...” คนถูกขอร้องมีอาการอึกอักอย่างเห็นได้ชัดเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ถ้าในนั้นห้ามนักข่าวเข้าต้องเป็นงานส่วนตัวแน่ ขืนเธอให้เสาวรสเข้าไปในงานได้ แล้วมีภาพหลุดออกไปโรงแรมเธอต้องเสียหายแน่ แต่ถ้าไม่ช่วยเลยใจนั้นก็รู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก เพราะเธอกับเสาวรสคบหาเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย
“นะมิน ช่วยฉันหน่อย ครั้งเดียวก็พอ” ด้วยความที่อยากได้ข่าวมาก เสาวรสถึงขั้นยกมือไหว้นีรชา ซึ่งคนถูกไหว้ก็รีบห้ามทันที
“ไม่ต้องไหว้ฉันแล้ว เดี๋ยวอายุสั้น”
“ตกลงเธอจะช่วยเราใช่ไหม” นักข่าวสาวมัดมือชกทันที แต่เสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ไม่สะดวกมั้งคะคุณนักข่าว”
“เจ้... มาที่นี่ได้ยังไง” คำทักทายของนีรชาที่มีต่อปานวาดนั้นบ่งบอกว่าทั้งคู่สนิทสนมกันมากซึ่งเสาวรสก็จับจุดนี้ได้ นีรชากับปานวาดทั้งสองรู้จักกันมานาน ปานวาดคือรุ่นพี่ที่โรงเรียนของนีรชา แม้จะถามว่ามาที่นี่ได้ยังไงแต่นีรชาก็พอจะรู้คำตอบ ถ้าปานวาดอยู่ที่นี่แสดงว่านักแสดงเจ้าของฉายาคาสโนวาตัวพ่อของวงการบันเทิงต้องอยู่ด้วย อาจเป็นที่ไนท์คลับมิน่าเสาวรสถึงอยากเข้าไปในนั้น
“นักข่าวไม่มีสิทธิ์เข้าไปในงานนะคะ เพราะถ้ามีภาพข่าวหลุดออกไป สำนักพิมพ์คุณคงถูกฟ้อง ตัวคุณเองก็อาจถูกไล่ออกจากการเป็นนักข่าวไปด้วย ทางที่ดีคุณควรเอาเวลาที่กำลังคิดหาทางเข้าไปภายในงานแบบไม่ควรทำไปนั่งเลือกภาพที่ถ่ายไว้พร้อมกับเขียนสกู๊ปเพื่อลงข่าวในวันพรุ่งนี้จะดีกว่า” คำพูดของปานวาดมีทั้งขู่และเตือนเสาวรสอยู่ในที แม้จะไม่พอใจแต่เธอก็ยังต้องยิ้มและเก็บความไม่พอใจไว้ให้ลึกสุด
“แหมเจ้ล่ะก็ รสก็แค่คุยกับเพื่อนเล่นๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้คิดจะแอบเข้าไปในงานสักหน่อย ถ้ายังไงรสขอตัวกลับก่อนนะคะ” น้ำเสียงของเสาวรสยังคงสดใสพร้อมทั้งส่งยิ้มให้ผู้จัดการส่วนตัวของพชร เพราะเธอนั้นไม่อยากสร้างศัตรูกับเป้าหมายอันดับหนึ่งในการทำข่าวของเธอ
“ค่ะ” ปานวาดรู้ว่าเสาวรสเป็นนักข่าวสายบันเทิง ที่สำนักพิมพ์ของหญิงสาวมักเล่นข่าวแรงๆ เพื่อเรียกเรตติ้งโดยไม่แคร์ความรู้สึกหรือความถูกต้องของคนต้นเรื่องด้วยซ้ำ ส่วนนักข่าวของสำนักพิมพ์นี้ต่างก็ชิงดีชิงเด่นใครทำข่าวได้ดีก็โตเร็ว และเสาวรสเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ลงแข่งขัน ก่อนจะกลับนักข่าวสาวก็หันไปเอ่ยกับนีรชา
“เรากลับก่อนนะมิน ไว้ว่างๆ ไปกินข้าวกัน”
“ได้... กลับบ้านดีๆ นะรส”
“อืม” เสาวรสเอ่ยรับสั้นๆ ก่อนจะเดินปลีกตัวออกไปอย่างเจ็บใจ นีรชาเกือบจะใจอ่อนช่วยเธออยู่แล้วเชียว แต่ปานวาดกลับเข้ามาขัดจังหวะเสียได้ น่าโมโหชะมัด
“รู้จักกันเหรอ”
“ค่ะ รสเป็นเพื่อนสนิทมินเอง ว่าแต่เจ้มาทำอะไรที่นี่” พูดเรื่องตัวเองได้ไม่เท่าไหร่ นีรชาก็วกกลับมาคุยเรื่องของปานวาดแทน แต่ยังไม่ทันที่ปานวาดจะได้ตอบนีรชาก็ถามเองตอบเองเสร็จสรรพ “อ้อ... หรือว่าดาราคนนั้นคือพชร แล้วนี่เขาจัดงานอะไรถึงขนาดไม่ยอมให้นักข่าวเข้า”
“อยากรู้ก็ไปดูเองไหม เดี๋ยวเจ้พาไป” พูดจบปานวาดก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กๆ ของนีรชาแล้วพาเดินไปยังประตูไนท์คลับ ถ้าบริเวณสระว่ายน้ำไม่ปิดปรับปรุงเธอคงพานีรชาไปนั่งเล่น นั่งคุยที่นั่นแล้ว
“เจ้... เดี๋ยว มินไม่ไป มินจะกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวพี่แมนรอ”
“เอานะ ไปนั่งเมาท์เป็นเพื่อนเจ้หน่อย แป๊บเดียว” ปานวาดไม่สนใจท่าทางขัดขืนนั้นของนีรชา เพราะเธอเอาเรี่ยวแรงที่มีมากกว่าฉุดร่างบอบบางของเพื่อนรุ่นน้องให้เข้าไปในไนท์คลับจนได้ เมื่อก้าวเข้าไปข้างในฉากแรกที่นีรชาได้เห็นคือภาพการหอมแก้มนัวเนียของชายคนหนึ่งกับบรรดาสาวสวยมากหน้าหลายตาที่ต่างรายล้อมอยู่รอบๆ ตัว
“น่าจะถ่ายรูปส่งให้ยายรสจริงๆ” นีรชาบ่นอุบเมื่อได้เห็นพฤติกรรมที่แสนจะน่ารังเกียจ ข่าวคาวด้านโลกีย์ของพชรที่ผ่านมาเข้าตาหรือเข้าหูตลอดทั้งๆ ที่ไม่ได้สนใจอะไรมากยิ่งทำให้นีรชาไม่ชอบนักแสดงหนุ่มฉายาคาสโนวาตัวพ่อของวงการบันเทิงชนิดเข้าเส้นเลือด พชรคือคนที่ตอกย้ำให้หญิงสาวยิ่งเกลียดผู้ชายเจ้าชู้มากขึ้นไปอีก จะกลับก็กลับไม่ได้เพราะถูกปานวาดขู่ไว้ จึงได้แต่ทนมองภาพความเจ้าชู้ของนักแสดงหนุ่มอยู่ห่างๆ อย่างเบื่อๆ
