บทที่ 3
เสียงฝีเท้าก้าวเดินสม่ำเสมอ สายตามองตุ๊กตาศิลปะแบบปูนปั้นที่มีทั้งรูปคน สัตว์ แล้วแต่คนปั้นผลงานเหล่านี้จะจินตนาการ เรียงรายกันอย่างสวยงามในห้องลับเฉพาะ เพราะศิลปะพวกนี้จะถูกนำขึ้นเรือเพื่อให้ทุกคนได้เห็นในอีกไม่ช้า ผู้เป็นเจ้าของยิ้มกับความสวยงามและบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่หลังความงามนี้ ก่อนที่เสียงทุ้มจะถามกับลูกน้อง
“ของครบใช่ไหม”
“ครับคุณโจเซฟ” นักธุรกิจใหญ่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ โจเซฟ คือบุคคลที่ชื่นชอบผลงานศิลปะเหล่านี้มาก ถึงขั้นสะสมเก็บไว้ชื่นชม แต่ของสะสมพวกนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น ยังมีคุณค่าให้ดูแลและหวงแหน
“คุณนิรัชมาหรือยัง”
“เห็นว่ากำลังเดินทางมาครับ”
“ดี” คำชมของโจเซฟทำให้ลูกน้องทุกคนพลอยได้หน้าไปด้วย เพราะการล่องเรือสำราญครั้งนี้โจเซฟคือแขกระดับวีไอพีที่แทบจะเหมาเรือทั้งลำให้บุคคลที่โจเซฟเชิญไปท่องเที่ยวและดูการแสดงผลงานศิลปะอันหาดูได้ยาก ไม่ถึงสิบนาทีนิรัชกับนีรชาก็เดินทางถึงบริษัทของโจเซฟ เหตุที่ผู้บริหารหนุ่มให้ความสำคัญกับโจเซฟมากถึงขั้นเดินทางมาคุยด้วยตัวเองนั่นก็เพราะโจเซฟคือแขกรายใหญ่
เมื่อแขกมาถึงโจเซฟก็ออกมารับจากนั้นก็ออกมาพบก่อนจะเริ่มต้นการพูดคุยเรื่องรายละเอียดทั้งหมดของทริปการล่องเรืองที่กำลังจะเกิดขึ้น โจเซฟขอหนึ่งชั้นสำหรับการพักผ่อนครั้งนี้ เพราะเขาจะใช้ห้องพักบนเรือจัดเก็บบรรดาตุ๊กตาปั้นซึ่งเป็นของสะสม ข้อนี้นิรัชไม่ค้าน เนื่องจากโจเซฟคือลูกค้ารายใหญ่อยู่แล้ว
ขณะที่พี่ชายคุยงานอยู่นั้น สายตาของนีรชาก็หันไปมองตุ๊กตาปูนปั้น ที่วางเรียงรายอยู่ทุกมุมภายในห้องทำงานของโจเซฟ ความสวยงามและน่ารักทำให้เธออดชอบไม่ได้ เพราะแต่ละตัวนั้นสวยสะดุดตาทั้งสิ้น หลังจากการพูดคุยจบลงโจเซฟก็ยื่นตุ๊กตาตัวหนึ่งในนีรชา เพราะเห็นว่าเธอมองอยู่นานและคิดว่าชอบ
“ผมให้ครับ”
“เอ๊ะ! ไม่เป็นไรค่ะ” นีรชาเอ่ยปฏิเสธเพราะความเกรงใจ
“รับไว้เถอะครับ ผมสะสมตุ๊กตาพวกนี้ไว้เยอะ ส่วนหนึ่งก็จะยกให้แขกคนสำคัญด้วย” โจเซฟยิ้มอย่างเป็นมิตร แววตาดูอบอุ่นเพราะด้วยอายุที่อาจใกล้เคียงกับบิดาของนีรชาก็เป็นได้
“ขอบคุณนะคะ” นีรชายื่นมือไปรับตุ๊กตาปั้นเป็นรูปเด็กผู้หญิงมาจากโจเซฟ ก่อนจะอมยิ้มกับตุ๊กตาตัวที่อยู่ในมือ เธอรู้สึกชอบมันจริงๆ จากนั้นจึงกลับออกไปพร้อมด้วยนิรัช การพูดคุยครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ดีจนโจเซฟยิ้มมุมปากแววตาดูเจ้าเล่ห์ผิดไปกับเมื่อครู่
“หึหึ” เสียงหัวเราะมีเลศนัยของโจเซฟดังขึ้น มือหนาลูบตุ๊กตาตัวที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ใครเลยจะรู้ว่าทริปล่องเรือสำราญครั้งนี้มีอะไรสนุกๆ แฝงอยู่
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ทำให้นิรัชเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์รุ่นล่าสุดที่นิยมไปทั่วโลกซึ่งวางอยู่บนโต๊ะทำงานมากดรับสาย วันนี้เขายุ่งมากทั้งงานในโรงแรมและรายละเอียดทริปล่องเรือสำราญที่ต้องตรวจสอบความเรียบร้อย จนไม่ทันจะได้มองชื่อว่าใครกันที่โทร.มาหาเขา
“นิรัชครับ”
“ตกลงค่ำนี้คุณผู้บริหารว่างไปปาร์ตี้กับผมไหมครับ” เสียงทุ้มๆ
ของพชร นักแสดงหนุ่มฉายาคาสโนวาตัวพ่อของวงการดังขึ้น
“โอม นี่เอ็งหรอกเหรอ”
“เออน่ะสิ นึกว่าใครวะ นี่อย่าบอกนะว่ากดรับสายโดยที่ไม่ได้มองชื่อคนโทร.มา” นักแสดงหนุ่มส่ายหน้าให้เพื่อนสนิทซึ่งเขามีเพียงไม่กี่คน แต่นิรัชคือเพื่อนเพียงคนเดียวที่พชรนั้นสามารถพูดคุยได้ในทุกๆ เรื่อง
“อืม... พอดียุ่งๆ กับงานอยู่”
“มิน่าถึงได้ทักข้าซะเพราะ ปรกตินี่ไงไอ้โอม มีไร” พชรลอกเลียนน้ำเสียงของนิรัชได้สมจริงจนคนฟังส่ายหัวไปมา ก่อนจะพูดเป็นงานเป็นการตัดบท
“ตกลงเอ็งมีอะไร”
“เอ้า! ก็ที่ชวนไปปาร์ตี้วันเกิดข้าคืนนี้ไง เอ็งยังไม่ได้ให้คำตอบช้าเลย อย่าบอกนะว่าลืม”
“ไม่ได้ลืม” นิรัชลอบถอนหายใจออกมา เพราะรู้ว่าปาร์ตี้วันเกิดคืนนี้มีรูปแบบไหน รับรองว่าภายในงาน
ล้วนมีแต่สาวๆ สวยๆ จากทุกวงการทั้งดารา นางแบบ นักร้อง เซเลบริตี้ ไฮโซหรือแม้แต่พริตตี้สาวสวยอีกตามเคย พชรคือแรงดึงดูดให้สุภาพสตรีเหล่านั้นเข้าหา ความหล่อของชายหนุ่มนั้นขึ้นชื่อรวมถึงความเจ้าชู้ประตูดินจนได้ฉายาว่าคาสโนวาตัวพ่อของวงการบันเทิง แต่หมู่แมลงเม่าบางตัวก็อยากเล่นกับไฟให้มอดไหม้และเป็นข่าว
พชรมักจะจัดการปาร์ตี้แบบนี้ ทั้งที่เป็นวันเกิดของชายหนุ่มเอง วันอยากเกิดหรือวันอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งหลังจบงานปาร์ตี้พชรก็มักจะตกเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หรือตามหนังสือแนวกอสซิปตามระเบียบ ซึ่งนิรัชก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พชรจะเลิกทำตัวประชดชีวิตแบบนี้เสียที ทั้งๆ ที่แต่ก่อนชายหนุ่มไม่ใช่คนแบบนี้ หรือวงการมายาดูดกลืนทำให้ตัวตนของเพื่อนเขาหายไปก็ไม่รู้ได้
“สถานที่ก็ไม่ไกลเลย ไนท์คลับที่โรงแรมเอ็งนั่นแหละ”
“ขอดูอีกที ถ้าข้าเคลียร์งานเสร็จอาจจะลงไป” นิรัชเน้นคำว่าอาจจะไว้แต่เนิ่นๆ เพราะเขาไม่ชอบงานปาร์ตี้อะไรแบบนี้สักเท่าไหร่
“อย่ามาพูดว่าอาจจะเพราะถ้าเอ็งไม่มา ข้าจะให้น้องๆ สาวสวยขึ้นไปตามถึงห้องทำงานเอ็งแน่” นักแสดงหนุ่มมัดมือชกเพื่อนสนิทไปเป็นที่เรียบร้อย
“ไอ้นี่ ข้าทำงานโว้ย ไม่ได้เป็นพระเอกคิวทองอย่างเอ็ง ที่วันๆ รับงานอีเว้นท์แค่งานสองงานก็รวยเป็นล้านๆ แล้ว คนอะไรเกิดมาหล่อเลือกได้” ประโยคหลังดูนิรัชจะพูดประชดประชัน แต่พชรก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเขานั้นรู้จักกับผู้บริหารหนุ่มคนนี้มาเป็นสิบๆ ปีแล้ว
“เออนะ แต่คืนนี้ข้าให้เวลาเอ็งถึงสามทุ่มนะแมน ถ้าไม่ลงมาอย่าหาว่าข้าไม่เตือน” พูดจบพชรก็วางสายไปทันที นิรัชกำลังอ้าปากจะพูดแย้งแต่ปลายสายกลับไม่อยู่ที่จะฟังเสียแล้ว ผู้บริหารหนุ่มส่ายหน้าไปมาก่อนจะตั้งสมาธิทำงานของตัวเขาต่อไป
