บท
ตั้งค่า

4.ความคิดถึง

*** ทักทายคร้า ***

มิรันตรีนอนตัวแข็งทื่อ หัวใจเต้นแรงแทบทะลุออกจากอก คำถามหลายอย่างเกิดขึ้นในใจ คำพูดของคนร้ายสามคนยังวนเวียนอยู่ในหัว ร่างสูงถอยหลังไปยืนมองร่างเล็กด้วยแววตาอ่อนโยน ก่อนจะผลุนผลันออกไป มิรันตรีดีดตัวขึ้นทันทีเมื่อแน่ใจว่าเขาเดินไปไกล หญิงสาวก้าวลงจากเตียงเดินไปแอบที่ขอบหน้าต่าง สายตามองไปยังชายฉกรรจ์ที่เฝ้าเวรอยู่ด้านนอก

“กรี๊ดดดด...อุ๊บ” มิรันตรีกรีดร้องดังสุดเสียง เมื่อมีมือใหญ่ตะครุบปากเธอไว้ หญิงสาวดิ้นเต็มแรง ร่างสูงลากเธอไปใกล้เตียงนอน ภายในกระโจมมืดมิด มีเพียงแสงจันทร์อร่ามส่องสว่างให้หญิงสาวมองเห็นดวงตาคมของผู้บุกรุกชัดเจน

“รู้สึกตัวแล้วเหรอท่านหญิงที่รัก” เสียงทุ้มกระซิบบอกเบาๆ มาริคยิ้มในความมืด มองไปด้านนอกกระโจม เห็นยามเดินถือโคมไฟผ่านไปช้าๆ

“อื้อๆ ๆ” มิรันตรีพยายามส่งเสียงออกมา หากมือใหญ่ก็ไม่ยอมปล่อย

“อย่าส่งเสียงร้องนะรัน” มาริคขู่ รู้สึกถึงความนุ่มนิ่มของร่างบอบบางในอ้อมกอด หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลง มือใหญ่จึงปล่อยหญิงสาวช้าๆ มิรันตรีได้โอกาสผลักร่างสูงเต็มแรงแต่เขาก็ไม่ขยับเขยื้อน แถมมาริคยังรวบตัวเธอเข้ามากอดไว้ทั้งตัว

“คนชั่ว ให้คนจับตัวฉันมาทำไม”

คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างแปลกใจกับคำพูดของหญิงสาว

“คนอุตส่าห์คิดถึง มากล่าวหากันแบบนี้ได้ยังไงท่านหญิง” เขายิ้มนัยน์ตาพราว

“คนเห็นแก่ตัว แค่เพราะอยากได้ตัวฉันเท่านั้นเองเหรอ ถึงให้สามคนนั้นไปจับตัวฉันมา” เธอดิ้นออกจากอ้อมแขนเขา

มาริคหรี่ตามองคนในอ้อมแขนอย่างไม่เข้าใจ

“ใครบอก”

“จะมีใคร ก็สามคนนั้นน่ะสิ ปล่อยนะ ปล่อย!”

“ผมต่างหากไปช่วยคุณจากวายร้ายสามคนนั่น” เขาบอกเสียงเข้ม ใบหน้าคมเคร่งขรึมขึ้น

“แก้ตัวน่ะสิ วายร้ายทั้งคุณทั้งลูกน้องนั่นแหละ คุณต้องการอะไรกันแน่” มิรันตรีถามเสียงเบา เจ็บแปลบขึ้นมาในหัวใจ

“พูดความจริงก็ไม่เชื่อ เป็นวายร้ายจริงๆ ซะเลย” ว่าแล้วริมฝีปากหนาก็ทาบลงมาปิดริมฝีปากอวบอิ่มน่าจูบ แถมบดขยี้อย่างลงโทษ มิรันตรีตัวแข็งทื่อกับสัมผัสรุนแรงของเขา ชายหนุ่มอุ้มพาเธอไปที่เตียงมุมห้องแล้ววางเธอลงบนที่นอน

“เชื่อค่ะเชื่อแล้ว ปล่อยนะคะ”

มาริคยิ้มสบตากลมที่ฉายแววตาเจ้าเล่ห์ออกมา

มิรันตรีได้โอกาสที่ชายหนุ่มเผลอ ผลักร่างใหญ่เต็มแรงจนชายหนุ่มตกลงไปนอนอยู่ที่พื้นด้านล่าง จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ประตู

“เจ้าเล่ห์จริง” เขาบอกเสียงลอดไรฟัน ลุกขึ้นไปคว้าเอวบางไว้ทัน มิรันตรีสวนหมัดกลับไปอย่างรวดเร็ว มาริคเบี่ยงหน้าหลบ ก้มลงแบกร่างอ้อนแอ้นขึ้นบนบ่า พาไปวางลงบนเตียงอีกครั้ง

“ปล่อยฉันนะไอ้โจรชั่ว” เธอดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของชายหนุ่ม เลือดในกายมาริคฉีดพล่านไปทั่วร่างเมื่ออกอิ่มเสียดสีกับอกกว้าง

“มีสามีเป็นโจรเท่ดีออก” เขาบอกเสียงพร่าที่ข้างหู ริมฝีปากร้อนผ่าวคลอเคลียใกล้ๆ แก้มหอมกรุ่น มิรันตรีมองเขาอย่างหวาดหวั่น

“ไม่มีวัน คอยดูนะพี่อิลจะตามมาจัดการกับคุณ”

“กว่าชีคอิศราจะตามเจอ คุณก็เป็นของผมแล้วท่านหญิงคนสวย” เขาขู่

มาริคก้มลงจูบริมฝีปากเธออีกครั้งพร้อมบดขยี้อย่างรุนแรงจนริมฝีปากอิ่มบวมเป่งขึ้นมา ชายหนุ่มเงยหน้ามองใบหน้าเรียวสวยที่เห็นเป็นเงาเลือนราง จริงๆ เขาตั้งใจเพียงจะลงโทษเธอเท่านั้น แต่พอได้ยินเสียงบวกกับได้กลิ่นกายสาวหอมกรุ่นทำให้เขาต้องเปลี่ยนความตั้งใจ

“ปล่อยฉันนะไอ้โจรบ้า” มิรันตรีดิ้น ฟันเล็กคมกัดลงบนไหล่กว้าง มาริคกลั้นเสียงร้องเอาไว้ มือหนาบีบคางมนแรงๆ

“บอกไม่ฟังใช่ไหม งั้นก็เป็นเมียไอ้โจรห้าร้อยเลยก็แล้วกัน ดูสิว่าจะฆ่าผัวตัวเองได้ไหม”

“อย่านะ! ปล่อยนะคนเลว ถ้าคุณไม่หยุด ฉันสาบานจะฆ่าคุณให้ได้ชีคมาริค” มิรันตรีต่อว่าชายหนุ่มพร้อมน้ำตาไหลออกมา แต่แรงดิ้นอันน้อยนิดของเธอไม่สามารถหยุดไฟพิศวาสของมาริคที่กำลังลุกโชนขึ้นมาได้

“ผมก็สาบานคนดี ว่าจะเอาคุณมาเป็นราณีให้ได้”

ริมฝีปากหนาได้รูปบดขยี้เรียวปากอิ่ม หญิงสาวเบี่ยงหน้าหนีอย่างตกใจ แต่ศีรษะก็ถูกตรึงไว้กับที่เมื่อมือใหญ่เลื่อนไปล็อกต้นคอของเธอ

“อือ อือ...” มิรันตรีร้องประท้วงในลำคอ มือบางดันแผ่นอกเขาเอาไว้ ริมฝีปากร้อนผ่าวและเล็มดูดดื่มความหวานฉ่ำจากกลีบปากสีชมพูเนิ่นนานจนเธออ่อนระทวย

****

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel