บทที่ ๙ ทำกับข้าวกับผัว
“เมนูไข่ทำไมมันยากอย่างนี้ เจียวก็ไหม้ด้านหนึ่ง...ไม่สุกอีกด้านหนึ่ง ต้มก็แตกหมด ตุ๋นก็เค็มไป หมดปัญญาแล้วนะยะ!” ตัวเลือกสุดท้ายที่พิลาเรศเลือกที่จะทำก็คือ โทรปรึกษาเด็กในวงที่เหมือนจะได้เรื่องกว่าใคร อย่างเพลินเพลง
“โหเจ้ เอาซะไม่กล้าแนะนำเมนูอื่นเลย...สั่งจากข้างนอกมาให้ทานเลยไหม?”
คนตั้งใจจะโชว์ฝีมือให้สามีชื่นใจเสียหน่อยหน้างอ ก่อนทำจมูกฟุตฟิตให้กลับกลิ่นอาหารที่ไม่พึงประสงค์เท่าไหร่นี้
“ถึงเมนูไข่จะออกมาสวย ก็ถือว่ากระจอกมากอยู่นะเจ้” แล้วคนที่ไม่คาดว่าจะอยู่ปลายสายด้วย ก็โพล่งความคิดเห็นออกมาอย่างลืมตัว
“อยู่กันกี่คนห้ะ!”
“ครบเลยเจ้” คนยอมให้อีกสองคนฟังด้วย ว่าเสียงอ่อยแบบจำนน
“แค่นี้นะยะ!”
ใครจะไปทนเห็นเด็กมันหมดศรัทธาในตัวได้ เอาวะเธอต้องรีบทำลายหลักฐานก่อนเป็นอันดับแรกก่อนสามีจะลงมาเห็นผลงานอันน่าสยดสยองนี้
“กินหน่อยน่า...แกเป็นหมาแกจะมาเลือกกินไม่ได้นะเว้ย” แม่สาวสวาทที่อยู่ในชุดแม่บ้านญี่ปุ่นอันแสนจะยั่วเย้า กำลังคลุกกับหมาเพื่อพยายามป้อนข้าวมันแต่มันก็ไม่ยอม
นี่สิหนาที่เขาเรียกว่า ‘หมาไม่แดก’
“ไอ้หมาผู้ดี หยิ่งนักหรือยังไง...ถึงหน้าตามันจะใช้ไม่ได้ แต่มันก็อร่อยนะเว้ย!”
“เป็นอะไรครับลูก กลัวอะไรมาหือ?” หลังจากที่หมาวิ่งหายไป น้ำเสียงอบอุ่นจากฝั่งบันไดก็ดังเข้ามาเตือนสติคนไม่ทันได้เก็บหลักฐาน
“กินลงไปเองดีไหม? แต่มันอยู่ในจานข้าวหมาแล้วนะเว้ย”
เสียงหมาครางอ้อนดังมา พร้อมกับร่างสูงที่อุ้มมันมาอย่างปลอบโยน คนตัดสินใจซุกอาหารหมาเข้าไปหลังโซฟา ยืนยิ้มแป้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“กลิ่นอะไร แปลกๆ” เธอซ่อนรูปได้ แต่เธอไม่อาจซ่อนกลิ่นได้
“อ๋อ พอดีว่า...ป้าข้างบ้านแกทำอาหารไหม้ แกโทรมาบอกว่าอาจจะมีกลิ่นนิดหน่อยน่ะ” คนไม่เนียนว่าพร้อมบิดกายไปมา เพราะเกรงว่าเขาจะเดินเข้ามาเห็นหลักฐานที่เป็นรูปชัดเจน
“สนิทกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“สนิทนานแล้ว ฝึกทำอาหาร ทำขนม ก็เอาไปฝากแกตลอดเลย”
“ไม่เห็นเคยได้กิน”
“ก็ไม่อยู่บ้านเองอ่ะ นานๆมาที ก็เลยไม่มีโอกาสไง” คนจ้องจับผิดเดินย่างสามขุมเข้าไปใกล้จนชิด คนพิรุธชัดหายใจติดขัดแทบจะวายลงกับที่
“ว้าย!” คนถอยหลังเชื่องช้า เดินไปจนเหยียบหลักฐานที่เอาใส่จานข้าวหมาไว้เข้าจนได้
“นี่อะไร ทำแบบนี้ได้ยังไง!” ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำให้เขาโกรธไม่ใช่เธอทำไข่ไหม้ ไข่แตก หรือไข่ตุ๋นเค็ม
แต่เป็นเพราะ...เธอเอาอาหารทั้งหมดนั้น มาเทรวมกันให้หมา!
และมันไม่ใช่หมาธรรมดา มันคือหมาสุดที่รักของผัว!
“กะจะฆ่ากุ๋งกิ๋งหรือยังไง” อ๋อ พิลาเรศเพิ่งจะนึกออกว่าไอ้หมาขี้ฟ้องนี่ ชื่อ กุ๋งกิ๋ง!
“จะฆ่าอะไร อุตส่าห์ทำอาหารมาให้มันชิม”
“อาหารที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่กล้าชิมเนี่ยนะ!”
“โว้ย จะโมโหจะดุอะไรไม่เคยว่าเลยนะ ดุเพราะว่าเอาอาหารมาให้หมา! ดุทำไม!” เธอโวยวายกลับบ้าง
“ไม่ใช่แค่หมา นี่คือน้องกุ๋งกิ๋ง...ลูกสาวของฉัน”
“ไม่เอามันทำเมียเลยล่ะ”
“มีเมียเป็นหมาอยู่แล้ว คงไม่ต้องถึงกับเอาหมาจริงๆมาทำเมียหรอก” หื้ม...วาจาดุร้ายเสียยิ่งกว่าพระเอกจำเลยรัก
“ไม่ต้องกินมันทั้งคนทั้งหมาเลย!” เธอตัดสินใจยกหลักฐานออกไปเททิ้งทันควัน จนคนแกล้งโมโหดุเดือดไปอย่างนั้น แอบขำเข้าให้...เจ้าหมาพุดเดิ้ลแสนรู้ ก็กระดิกหางให้แบบรู้กัน
“สรุปเย็นนี้ ไม่มีอะไรกินใช่ไหม?” คนเดินเข้ามาถามไถ่ถึงในครัว เมื่อคนงอนเขาจริงจังไม่ยอมออกไปข้างนอกสักที
“อือ” คนน้อยใจเขาครั้งแรก พูดอย่างไม่ยอมหันไปมองหน้า
“แล้วจะกินอะไร”
“ต้มมาม่ามั้ง” เธอหันหลังให้พร้อมถือซองมาม่ามาฉีกใส่ชาม เพราะเริ่มจะหิวขึ้นมาจริงจัง เพราะวันนี้หมดพลังกับการเป็นยัยแจ๋วไปเยอะ
“ใส่ผักหน่อยมั้ย” คนค้นตู้เย็นเจอผักบุ้ง ยื่นมาให้แบบแสดงความมีน้ำใจ
เธอปรายตามองเขาเพียงเท่านั้นไม่ตอบรับ และมองการค้นของในตู้เย็นออกมาวางจนเต็มโต๊ะอย่างไม่เข้าใจ
“จะทำอะไร” เอ่ยถามแบบไม่แน่ใจกับสิ่งที่เห็น
“ดูว่าพอจะมีอะไรทำกินได้บ้าง”
“หือ พิกทำให้กินไม่ได้หรอกนะคะ”
“แน่นอน ไม่กล้าทำให้กินหรอก” คนที่เหมือนจะหิว รีบค้นดูว่าวัตถุดิบตรงหน้าพอจะทำเมนูอะไรได้บ้าง
พิลาเรศแยกเขี้ยวใส่กลุ่มผมแสนสบายที่ยับยู่บ้าง เมื่อเขาไม่ได้หวีมันเพราะไม่ได้ออกไปข้างนอก
ผ้ากันเปื้อนลายเสือของเธอ ถูกเขาเอาไปคล้องใส่แบบไม่มีทางเลือก
“น่ารักเหมือนกันนะคะเนี่ย” พิลาเรศเก็บชามมาม่าออกห่างตัว เมื่อเห็นแววว่าจะได้กินอาหารที่ดีกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
“ไม่ไปต้มมาม่าต่อล่ะ” คนบรรจงหั่นเนื้อหมูแบบเชี่ยวชาญ ปรายตามามองเชิงล้อ
“จะทำอะไรกินล่ะ” คนขี้อ้อนหันมาซบไหล่เขาแบบคนว่าง่าย
“สุกี้น้ำ กุ๋งกิ๋งเขาชอบ”
“อีหมาขี้ฟ้องเนี่ยนะ จะกินสุกี้!”
“หยาบคายแม้กระทั่งกับหมาเลยนะ” คนผ่อนคลายใส่กว่าทุกครั้ง ตั้งใจหั่นผักที่พอจะทำสุกี้ได้อย่างรีบร้อน เขาชักจะหิวขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ
“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” หวังจะได้กินสุกี้เหมือนหมา เลยรีบเสนอตัวช่วย
“นู่นเลย บนโต๊ะนู่นเลย ช่วยไปนั่งซดมาม่าเงียบๆเลย”
“หื้อ อยากกินสุกี้อ่ะ มันดีกับสุขภาพมากกว่ามาม่า”
“ผักบุ้งก็มี แบ่งไปใส่มาม่าได้นะ”
“ใจร้าย! ใจคอจะทำให้อีหมาขี้ฟ้องนั่นกินตัวเดียวเลยหรือยังไง”
“เปล่า ทำให้ตัวเองกินด้วย” ใบหน้าใสของเขาทำยียวนใส่แบบไม่เคยทำให้เห็นมาก่อน
น่ารัก! เธอตะโกนบอกตัวเองในใจ
“ขอกินด้วยคนสิ ไม่อยากกินมาม่าเดี๋ยวตัวบวม” เธออ้อนจนเขาขัน
“ไปเอาวุ้นเส้นแห้งมาแช่ไป” เธอรีบวิ่งไปทำตามที่เขาบอกทันที ครอบครัวอบอุ่นช่วยกันทำอาหารแบบนี้เธอใฝ่ฝันมาตลอดไม่แพ้กัน
