บทที่ ๖ ลวนลามผัว
“น้ำเย็นไปหรือเปล่า” คนลองเอามือแตะที่น้ำอุ่นในอ่าง เอ่ยทำลายความคิดเพลินๆของคนที่กำลังจุดเทียนหอมอโรม่าสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้สามี
“หือ ถ้าอุ่นกว่านี้..ก็ลวกไข่สุกได้เลยนะ” เธอว่าพร้อมมองไปที่ผ้าเช็ดตัวผืนสีขาวห่อพันเอาไว้แบบหมิ่นเหม่
“ทะลึ่ง!” คนมองตามสายตาหื่นกามอยู่เป็นนิจไปสิ้นสุดที่เจ้าน้องชายของตน จนต้องหนีบขาเข้าหาตัวอัตโนมัติ
“อะไร หมายถึงไข่ไก่อ่ะ.. ไม่เชื่อเอาไข่มาโยนลงไปสัก 10 นาที นี่ปอกเปลือกกินได้เลยนะ”
คนเฉไฉก็ยิ้มกริ่มให้แบบเอาตัวรอดไปอย่างนั้น เขาผู้เหนื่อยจนอยากจะพักผ่อนในอ่างน้ำอุ่นๆเต็มที ขี้เกียจที่จะต่อล้อกับเธอ
เลยตัดบทจ้วงขาลงน้ำรวดเร็ว ก่อนเปลื้องผ้าเช็ดตัวผืนนั้น...ลอยละลิ่วไปคลุมหน้าศรีภรรยาอย่างพอดิบพอดี
“หื้อ...หอมจัง” เธอดึงผ้าออกจากศีรษะพร้อมจับมาสูดดมโชว์เขาราวกับเป็นโรคจิต จนเขาหมั่นไส้ในความชอบทำใส่เขานั้น...ด้วยการกวักน้ำสาดใส่เหมือนเด็กขี้แกล้ง
“แน๊ อยากจะให้เมียลงไปอาบด้วยก็ไม่บอก” หุ่นเพรียวสวยที่ห่อหุ้มด้วยชุดคลุมอาบน้ำ จับปมเสื้อหมายจะคลายออกเพื่อเปลื้องทิ้ง
“หยุด! ให้ฉันอาบเสร็จก่อน...เธอค่อยมาอาบ” เขาว่าแบบไม่ยอมมองหน้า ก็จะอะไรล่ะ...เขาไม่อยากจะเห็นทรวงอกใหญ่โตล้นทะลักของเธอตอนนี้น่ะสิ
“ทำไมล่ะ...พิกช่วยสระผมให้ลือได้นะคะ” เมื่อเห็นหูสามีเริ่มแดง แถมยังไม่ยอมสบตา...เธอก็รู้สึกสนุกขึ้นมา ไม่ได้สนใจคำห้ามปรามจากเขา
บัดนี้...ร่างขาวโพลนที่ยังพอมีผ้าขนหนูผืนสั้นห่อหุ้ม ก็ปรากฏแก่สายตาคนที่เบิกโพลงกว้างทันใด
ผู้ชายก็ยังเป็นผู้ชายอยู่วันยังค่ำ!
“ไม่ต้อง!” เขาแทบจะคว้ามือตามผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่บัดนี้ได้ร่วงลงสู่แทบเท้าแม่สาวจอมยั่ว
“อื้อ...น้า พิกอยากทำให้ลือจริงๆนะ” แม้น้ำเสียงจะเหมือนอ้อนขอ หากแต่การกระทำตอนนี้ของเธอมันไม่ต่างอะไรจากมัดมือชกสักนิด
จ๋อม! ร่างขาวโพลนที่ฤๅชัชมองอย่างไม่เต็มตา เข้าไปซ้อนบริเวณหลังเขาในอ่างเป็นที่เรียบร้อย
“ฉันบอกว่าอย่าไง...” น้ำเสียงห้ามแบบไม่เต็มที่นั้น ทำเอาเธออมยิ้มอย่างรู้ทัน
“ลือหลับตานะ...เดี๋ยวพิกบีบชมพูใส่ให้” น้ำเสียงหวานๆราดรดลงไปพร้อมกับแชมพูกลิ่นหอมคลุ้งฉบับผู้ชาย มือเรียวบางชอนไชเข้าไปยังกลุ่มผมเปียกลู่ สร้างฟองสีขาวเต็มศีรษะอย่างเบามือ
“แสบตา” เขาปิดตาแน่น เมื่อฟองสีขาวย้อยลงด้านหน้า
“ไหนคะ...เดี๋ยวพิกดูให้นะ” คนนึกสนุก...หันเขาเข้ามาเผชิญหน้า จนตอนนี้เธอเกยขึ้นไปนั่งบนตักเขา...จนน้องสาวเกยประทับพญานาคสงบที่นอนอยู่ใต้ถ้ำ
“เร็วๆสิ” เขาบ่น เมื่อเธอไม่ยอมเอาน้ำล้างให้สักที
“ชอบแบบเสร็จเร็วเหรอ?” เธอแกล้งว่า...และเริ่มขยับสะโพกไปมาอยู่ใต้น้ำ
“หื้อ เร็วเข้า” เขาคำราม พร้อมจับสะโพกแสนซนให้อยู่กับที่
“อ๊า...ขอบดหน่อยได้ไหม” น้ำเสียงพร่าจากแม่เสือสาว ทำเอาพญานาคผู้ได้ยิน...ชูคอขึ้นหมายจะชะเง้อมอง
“เอาน้ำมา!” เขาสั่ง พร้อมเริ่มควานหาสิ่งช่วยเหลือตัวเอง เมื่อรู้ว่าเธอไม่น่าจะตั้งใจช่วยเขาโดยดีตั้งแต่แรก
“ใจร้อนจัง”
น้ำดื่มที่ใช้เอาไว้ล้างหน้าที่อยู่ขอบอ่าง...ถูกราดรดลงมาตรงหน้า ระหว่างใบหน้าของเธอกับเขา
แม่สาวร้อนสวาท...มิอาจให้ตัวเองพลาดโอกาสสำคัญนี้ เธอจ่อริมฝีปากไปจรดริมฝีปากของเขาที่ตอนนี้น้ำกำลังราดรดลงมาด้วยฝีมือเธอ
เธอใช้ริมฝีปาก...ลูบไล้ฟองนั้นออกไปจากใบหน้าเขาเชื่องช้า ลมหายใจอุ่นของคนที่พญานาคกำลังไม่ฟังเสียงของหัวใจ เริ่มติดขัด
“ออกหมดยัง” เขาถามเมื่อยังไม่กล้าลืมตา
“หมดแล้ว”
“ออกไปได้ละ เดี๋ยวทำเอง” เขาจะยกเธอออกจากตัก หากแต่คนรอคอยโอกาสที่จะเห็นพญานาคเขาตื่นแบบมีสติแบบนี้ มีหรือจะยอมพลาด
“อ๊ะ...พิกอยากทำให้” เสียงอ่อนทำเอาคนใจสั่นไหวเริ่มหวั่น
“ไม่ต้อง!” แสร้งเสียงแข็งใส่ไปอย่างนั้น
“อ๊า...” เธอครางออกมา เมื่อเจ้าพญานาคของเขาชูชันขึ้นมาเบียดทับส่วนกลางสาวที่พรั่งพร้อม
“ทุเรศ!” คนหน้าแดงกร่ำด้วยอารมณ์ปนเปผลักเธอออกจากตักแบบไม่ปราณี
“โอ๊ย! พิกเจ็บนะคะ” เธอตกใจเมื่อถูกผลักจนชนเข้ากับขอบอ่างเล็ก
“ถอยไป!”
“ไม่ถอย!” โกรธที่ถูกทำให้เจ็บ จนตัดสินใจหมายเข้าขย้ำอีกหน
“ปล่อย ยัยบ้าเอ้ย!” แม้เขาจะปากเสียใส่เธอมาตลอดแค่ไหน หากแต่ก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายร่างกายให้บอบช้ำ
แต่ครั้งนี้...เขาไม่อาจควบคุมอารมณ์ปะทุจากกำหนัดของตัวเองได้ ถ้าเขาปล่อยให้เธอแนบชิดมากกว่านี้
เขาจะทนไม่ได้!
“โอ๊ย!!” คนถูกจับโยนออกจากอ่าง ร้องครางลั่น...เมื่อข้อเท้าที่หลุดพ้นจากอ่างเพียงนิด กระแทกเข้าอย่างจังจนเจ็บปวด
“บอกแล้วไงว่าให้ปล่อย” คนแอบรู้สึกผิด แววตาไหววูบเมื่อเห็นร่างขาวโพลน เปลือยเปล่า กุมปลายเท้าเอาไว้แบบเจ็บปวด
“โอ๊ย...ขยับข้อเท้าไม่ได้เลย” เธอว่าแบบไม่มีร่องรอยของความเสแสร้ง จนเขาต้องโยนผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่เข้าไปคลุมร่างเธอเอาเสียก่อน
“ไหนมาดูสิ” นายแพทย์หนุ่มผู้ดูแลผู้ป่วยของเขาด้วยกิริยาสุภาพมาแต่หนไหน สงวนความกระด้างนี้ไว้ใช้กับเธอเพียงแต่ผู้เดียว
“โอ๊ยๆ เบาๆสิ...พิกเจ็บนะ” น้ำตาใสเริ่มคลอ เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าข้อเท้าเธออาจจะหักไปแล้วก็ได้
“เตือนแล้วไม่รู้จักเชื่อ” คนบ่นอุบแต่หากแต่ก็ไม่ได้ไร้ความรับผิดชอบ พันร่างเปลือยให้คลุมมิดชิด...ก่อนตักร่างเธอเข้ามาในวงแขน
ศรีภรรยาผู้ไม่คาดคิด...เบิกตากว้างขึ้นมองเสี้ยวหน้าที่มีแววตาสีอ่อนลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
วงแขนนี้น่ะเหรอ...ที่จะโอบกอดเธอขึ้นมาจากความโหดร้าย แม้ว่าความโหดร้ายนั้นมันจะมาจากฝีมือเขาก็เถอะ!
“พันพยุงเอาไว้ก่อน แต่ต้องไปเอ็กซเรย์ดู” มือนุ่มที่พันผ้าพันแผลชนิดผ้ายืดให้เธออย่างเบามือ ไม่มีคราบของคนใจไม้ไส้ระกำก่อนหน้าหลงเหลือ
“อื้อ...” เธอท้วงเมื่อเขาจับเท้าเธอประเมินดูว่าเคลื่อนไหวได้แค่ไหน
“เสื้อผ้าอยู่ตรงไหน”
“หือ?”
“ต้องไปโรงพยาบาล จะเอามาใส่ให้” คนทำเหมือนไม่เต็มใจพูดอย่างไม่เต็มปาก
“ในตู้ไม้สีขาวค่ะ ขอชุดลายเสือนะคะ” เธอแกล้งว่าพลางหัวเราะคิก
“มันน่าปล่อยให้ข้อเท้าหักเดินไม่ได้ไปหลายๆวัน”
“ก็ดีนะ ผัวจะได้คอยอุ้มไปไหนมาไหน”
เขาส่ายหัว ก่อนเปิดประตูตู้เสื้อผ้าของภรรยาที่เขาไม่เคยเปิดดูมาก่อน
“นี่เสื้อผ้าเหรอ นึกว่าเศษผ้า” เขาบ่นพร้อมยอมโยนตัวที่ไม่ผ่านทิ้งจนเกลื่อนพื้น
“หาหมดตู้ก็หาไม่เจอ ชุดสุภาพหรอก” เธอบอกเขาให้เอาบุญ
“แล้วไปเรียนมารยาท ใส่ชุดอะไรไป” ฤๅชัชไม่มีวันเชื่อหรอกว่า...คุณครูนวลอนงค์จะยอมให้เธอใส่ชุดพวกนี้เรียนกับเธอ
“ก็ชุดพวกนี้แหละ แล้วก็สวมผ้าถุงทับเอา...ถึงจะอย่างฉันป้านวลอนงค์ค่ำลงแล้วจะไปไหน ก็บ่นยืดยาวก่อนจะเรียนทุกที” ฉายาที่เธอเติมต่อให้เข้ากับชื่อคุณครูนั้น...หากเธอมาได้ยินเข้าคงลมจับไปสามสี่รอบ
“มันสมควรแล้วไหมล่ะ” เขาส่ายหัวให้แบบระอา
“โดยภาพรวมไม่มีกระดูกแตกหรือร้าวที่ไหน...ที่ขยับเท้าไม่ได้เพราะระบมช้ำครับ มีสามีเป็นศัลยแพทย์กระดูกและข้อทั้งทีหายห่วงเรื่องคนคอยดูแลได้เลยมั้งครับ” นายแพทย์ทศพลศัลยแพทย์กระดูกและข้อผู้อยู่เวรในวันนี้ เอ่ยเชิงแซวเพื่อนไปด้วย
“ขอบคุณนะคะหมอ” เธอยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม ในชุดรุ่มร่ามที่เขาจัดการสวมให้นี้
“อะไรยังไงวะลือ อย่าบอกนะ...ว่าแกจัดท่าพิสดารจนภรรยาได้รับบาดเจ็บน่ะ” ฤๅชัชแทบจะยันเท้าไปถีบเพื่อน
“ดูหนังโป๊เยอะเหรอ” เขาว่า...ก่อนหันไปใช้สายตาปรามแม่คนหัวเราะคิกชอบใจแบบไม่มียางอายสักนิดนั่น
“ก็ใครจะไปรู้วะ เห็นเมียแกใส่ชุดแกมาขนาดนี้...ก็นึกว่าเล่นอะไรกันอยู่” ทศพลขำลั่น...อยู่ในม่านกั้นของห้องฉุกเฉิน
“หุบปากไปซะ” พิลาเรศในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขา ที่ยาวจนทับกางเกงขาสั้นที่เธอใส่มา ยังไม่พอแค่นั้น เขายังเอาผ้าถุงป้ายของเธอ...ห่อส่วนล่างของเธอมาอีกเสียด้วย
ถึงจะขัดใจอย่างไร...หากแต่นึกถึงตอนที่เขาใส่ให้อย่างเบามือ พิลาเรศก็เลยไม่ได้ขัดขืนอะไร
